อัยการตีกลับสำนวนคดีเด็ก 14 กราดยิงพารากอน แจ้งข้อหาไม่ชอบก่อนแพทย์ตรวจประเมิน

รองโฆษก อสส.เผยอัยการคดีเยาวชนตีกลับสำนวน เยาวชนกราดยิงพารากอน คืนพนักงานสอบสวนเหตุขั้นตอนการสอบสวนเเจ้งข้อหาไม่ชอบ ทำก่อนเเพทย์ตรวจประเมิณ ขณะเด็กยังไม่สามารถต่อสู้คดีได้ สามารถทำสำนวนให้ถูกต้องกลับมาใหม่ในอายุความ

28 ธ.ค.2566 - นายนาเคนทร์ ทองไพรวัลย์ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า ตามที่พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลปทุมวัน ได้ส่งสำนวนการสอบสวนให้กับพนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีเยาวชนและครอบครัว 3 เมื่อวันที่ 20ธ.ค. 2566 โดยเป็นคดีกล่าวหา เด็กชาย พ. ซึ่งเป็นเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ตกเป็นผู้ต้องหา ในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน พยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัวและยิงปืนในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร โดยเหตุเกิดภายในห้างพารากอน เมื่อวันที่ 3ต.ค. 2566 ที่ผ่านมานั้น

คดีดังกล่าว พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีเยาวชนและครอบครัว 3 ได้ตรวจสอบสำนวนการสอบสวนแล้วปรากฏข้อเท็จจริงในสำนวนการสอบสวนว่า เมื่อวันที่ 5ต.ค. 2566 พนักงานสอบสวนได้มีการส่งตัวผู้ต้องหาซึ่งเป็นเด็กไปยังสถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ เพื่อทำการตรวจและบำบัดรักษา ซึ่งสถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ได้รับตัวผู้ต้องหาซึ่งเป็นเด็กไว้บำบัด รักษา และตรวจวินิจฉัยทางนิติจิตเวชแบบผู้ป่วยใน เพราะเชื่อว่าผู้ต้องหามีอาการป่วยทางจิตและไม่สามารถต่อสู้คดีได้ และจากการตรวจสำนวนการสอบสวนยังปรากฏข้อเท็จจริงอีกว่า เมื่อวันที่ 3พ.ย. 2566 ซึ่งอยู่ในช่วงระหว่างระยะเวลาที่แพทย์ทำการตรวจวินิจฉัยและประเมินความสามารถในการต่อสู้คดียังไม่เสร็จสิ้น

พนักงานสอบสวนได้ดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาและสอบสวนคำให้การของผู้ต้องหาซึ่งเป็นเด็ก โดยที่พนักงานสอบสวนยังไม่ได้รับผลการตรวจประเมินและวินิจฉัยจากแพทย์สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ที่เปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่นแต่อย่างใด อีกทั้งยังมิได้ดำเนินการสอบสวนแพทย์ผู้ตรวจการรักษาให้ได้ความโดยกระจ่างชัดเพื่อประกอบคดี

และยังปรากฏข้อเท็จจริงด้วยว่า เมื่อวันที่ 21 พ.ย. 2566 สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ ได้ส่งรายงานผลการตรวจวินิจฉัยและประเมินความสามารถของจิตแพทย์เจ้าของไข้ และทีมสหวิชาชีพ นิติจิตเวช ได้ตรวจวินิจฉัยและประเมินผลว่า ผู้ต้องหาไม่มีความเข้าใจตระหนักรู้เรื่องของข้อกล่าวหา ไม่มีความสามารถในการพูดคุยและตอบคำถาม รวมทั้งไม่สามารถควบคุมอารมณ์และพฤติกรรมของตนเองได้ ผลการประเมินสรุปว่า ผู้ต้องหาซึ่งเป็นเด็กยังไม่สามารถต่อสู้คดีได้

พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีเยาวชนและครอบครัว 3 พิจารณาแล้วเห็นว่า การที่พนักงานสอบสวนทำการสอบสวนผู้ต้องหาซึ่งเป็นเด็กในคดีนี้ โดยไม่ได้รอผลการวินิจฉัยจากแพทย์สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ในเรื่องความสามารถของผู้ต้องหาที่เป็นเด็กก่อน แล้วทำการสอบสวนพร้อมกับมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาที่เป็นเด็ก จึงเป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 14 มาตรา 134 พรบ.ศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ. 2553 มาตรา 6 โดยถือว่าเป็นการสอบสวนผู้ต้องหาซึ่งเป็นเด็กโดยไม่ชอบ จึงมีคำสั่งให้คืนสำนวนการสอบสวนในคดีนี้ไปยังพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมายต่อไป

นายนาเคนทร์ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า การคืนสำนวนในครั้งนี้ พนักงานอัยการยังไม่ได้วินิจฉัยในเนื้อหาของสำนวนแต่อย่างใด เพราะเห็นว่า กระบวนการสอบสวนยังไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงส่งสำนวนคืนให้พนักงานสอบสวนไปดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย เมื่อผู้ต้องหาที่เป็นเด็กอยู่ในสภาวะหายป่วยเป็นปกติและสามารถต่อสู้คดีได้ ให้พนักงานสอบสวนทำการสอบสวนให้เสร็จสิ้นแล้วส่งสำนวนคดีนี้ให้พนักงานอัยการ เพื่อพิจารณาอีกครั้งภายในอายุความตามกฎหมาย โดยอายุความในคดีนี้มีอายุความสูงสุด 20 ปี

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ไพศาล' เผยเหตุศาลรธน. ให้อัยการสูงสุดชี้แจงคำร้องสอบ 'ทักษิณ-เพื่อไทย' ล้มล้างการปกครอง

นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กว่า ทำไมศาลรัฐธรรมนูญต้องให้อัยการสูงสุดชี้แจงคำร้องขอเกี่ยวกับการล้มล้างการปกครอง

'เหยื่อเมาแล้วขับ' นั่งวีลแชร์ ร้อง อสส. สั่งคดีฟ้องศาลลงโทษสถานหนัก

'เหยื่อเมาแล้วขับ' นั่งวีลแชร์ ร้องอัยการสูงสุด สั่งคดีเมาแล้วขับทั่วประเทศ ฟ้องศาลลงโทษสถานหนัก พบช่องโหว่กฎหมาย ตำรวจนอกรีตตบทรัพย์ขี้เมา

อสส. ตามเงินสินบน 10.46 ล้าน จากอดีตผู้ว่าการ ททท.-ลูกสาว คดีทุจริตจัดเทศกาลหนัง

งานโฆษก สำนักงานอัยการสูงสุด แถลงกรณีการติดตามเงินจำนวน 10.46 ล้านบาทจากผู้กระทำผิดจากโครงการเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพความว่า

'สมยศ' กับพวกรวม 8 คน ให้การปฏิเสธข้อกล่าวหาช่วยเหลือคดีบอสอยู่วิทยา

ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง นัดสอบคำให้การ คดีที่ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วงอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมพวกรวม 8 คน เดินทางมาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เพื่อสอบคำให้การตามนัดของศาล

เปิดโปรไฟล์ 'ไพรัช พรสมบูรณ์ศิริ' อัยการสูงสุด คนที่ 19

ประชุมวุฒิสภาครั้งที่ 9 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) ได้มีมติให้ความเห็นชอบบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งอัยการสูงสุด ตามมาตรา 10 แห่ง พรบ.องค์กรอัยการและพนักงานอัยการ พ.ศ. 2553