เตือน 6 รูปแบบภัยออนไลน์ ต้องระวังเป็นพิเศษในช่วงปีใหม่ มิจฉาชีพไม่มีวันหยุด

27 ธ.ค.2566 - พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ได้มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนที่อาจได้รับความเสียหายจากอาชญากรรมรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งช่วงเวลาของการส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ เป็นช่วงเวลาที่พี่น้องประชาชนออกไปท่องเที่ยว ซื้อของขวัญ และทำกิจกรรมต่าง ๆ ในวันหยุดร่วมกับครอบครัว นั้น

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอเอาโอกาสนี้มาเตือนพี่น้องประชาชนให้ระมัดระวังตนเอง เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของกลุ่มมิจฉาชีพ เพราะอย่าลืมว่า แม้จะเป็นวันหยุด แต่มิจฉาชีพไม่เคยหยุด ซึ่งรูปแบบของภัยออนไลน์ที่พี่น้องประชาชนต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ในช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ มีดังนี้

1. “การหลอกลวงซื้อขายสินค้าหรือบริการทางออนไลน์” โดยมิจฉาชีพจะหลอกลวงด้วยการโฆษณาขายสินค้าราคาถูก หรือส่วนลดพิเศษเฉพาะในช่วงเทศกาล เพื่อจูงใจให้เหยื่อหลงเชื่อสั่งซื้อสินค้า

2. “การหลอกเอาข้อมูลส่วนบุคคล” โดยมิจฉาชีพจะแอบอ้างเป็นร้านค้าต่าง ๆ แล้วโฆษณาว่าจะมีโปรโมชันพิเศษในช่วงเทศกาล หรือแจกของรางวัลต่าง ๆ แต่จะต้องลงทะเบียนก่อน หากเหยื่อหลงเชื่อ กรอกข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ชื่อ-นามสกุล หมายเลขโทรศัพท์มือถือ และข้อมูลส่วนตัวอื่น ๆ ก็จะถูกมิจฉาชีพนำไปใช้แสวงหาประโยชน์โดยมิชอบต่อไป

3. “การหลอกรับบริจาค” โดยในช่วงเทศกาลปีใหม่ ประชาชนอาจต้องการทำบุญเพื่อให้เกิดความเป็นศิริมงคลกับชีวิต มิจฉาชีพอาจมีการประกาศเชิญชวนให้ร่วมทำบุญ โดยอ้างบุคคลหรือกิจกรรมต่างๆ จึงควรตรวจสอบข้อมูลในกิจกรรมที่จะร่วมทำบุญว่า เป็นความจริงหรือไม่ อย่างไร ก่อนจะร่วมบริจาคเงินร่วมทำบุญออนไลน์ต่าง ๆ

4. “การสร้างข่าวปลอม” เพื่อสร้างยอดติดตาม หรือสร้างความตื่นตระหนก ซึ่งมิจฉาชีพอาจเอาเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ไม่เป็นความจริงหรือบิดเบือน เกี่ยวกับ อุบัติเหตุ การเดินทาง หรือเหตุการณ์อื่น ๆ ในช่วงเทศกาล มาเผยแพร่เพื่อแสวงหาประโยชน์ หรือสร้างความเสียหายให้สังคม

5. “การหลอกให้ติดตั้งแอปพลิเคชันปลอม” ที่เกี่ยวข้องกับเทศกาล เช่น แอปพลิเคชันแต่งรูปปลอม แอปพลิเคชันจองที่พักปลอม เป็นต้น โดยหากเหยื่อหลงเชื่อติดตั้งแอปพลิเคชันปลอม ก็อาจถูกมิจฉาชีพควบคุมเครื่องระยะไกล หรืออาจถูกเข้าถึงข้อมูลภายในโทรศัพท์มือถือได้

6. “การหลอกขายทัวร์และที่พักราคาถูก” ซึ่งในช่วงเทศกาล กลุ่มมิจฉาชีพมักจะหลอกลวงด้วยการแอบอ้างเป็น โรงแรม ที่พัก หรือบริษัททัวร์ จากนั้นจะลงโฆษณาในช่องทางต่าง ๆ โดยเฉพาะที่พบได้บ่อยคือทางสื่อสังคมออนไลน์ ที่มักจะมีการสร้างเพจปลอมเพื่อหลอกลวงพี่น้องประชาชน

โดย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอให้พี่น้องประชาชนระมัดระวังและอย่าเชื่อในสิ่งที่ราคาถูกหรือดีเกินจริง เพราะสิ่งที่เห็นหรือได้ยินในสื่อสังคมออนไลน์ อาจเป็นกลลวงของมิจฉาชีพในการหลอกลวงแสวงหาประโยชน์จากพี่น้องประชาชน โดยขอให้ยึดหลัก “ไม่เชื่อ ไม่รีบ ไม่โอน” เพื่อป้องกันตนเองไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ

หากพี่น้องประชาชนได้รับความเสียหายจากการหลอกลวงทางสื่อสังคมออนไลน์ สามารถแจ้งความร้องทุกข์ได้ที่ศูนย์รับแจ้งความออนไลน์ บนเว็บไซต์ www.thaipoliceonline.go.th หรือสายด่วน 1441 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ดุสิตโพล' เผยคนไทยเบื่อความขัดแย้งในสตช.

สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “หัวอกของคนเสพข่าวความขัดแย้งในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ” กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 1,040 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 25-28 มิถุนายน 2567

'ตำรวจไซเบอร์' เปิดปฏิบัติการ! ทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์จีน ตั้งฐานเชียงใหม่

พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตํารวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.), พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รอง ผบช.สอท.

'ผวจ.พังงา' จับมือผู้การ ประกาศห้ามเปิดบ่อนพนันเด็ดขาด

นายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา พร้อมด้วย พล.ต.ต.สมคะเน โพธิ์ศรี ผู้บังคับการจังหวัดภูธรจังหวัดพังงา (ผบก.ภ.จว.พังงา)

จับแล้ว! หนุ่มขี้ยาทำร้ายแท็กซี่ชิงรถหนี พบประวัติโชกโชน

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ได้คุมตัว นายวิสิชัย (หรืออาร์ม) เดชมาก อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุ ทำร้ายร่างกาย นายโอภาส แก้วปัญญา อายุ 75 ปี และชิงทรัพย์ (รถแท็กซี่)

เลขาฯ ก.ตร. แถลงผลประชุม เห็นชอบคำสั่งให้ 'บิ๊กโจ๊ก' ออกจากราชการ โดยชอบกฎหมาย

พล.ต.ท.อนุชา รมยะนันทน์ ผู้บัญชาการสำนักงาน ก.ตร. ในฐานะเลขานุการ ก.ตร. กล่าวว่า ได้รับมอบหมายให้มาชี้แจงเกี่ยวกับกรณีผู้ร้องขอให้ ก.ตร. พิจารณาเกี่ยวกับการปฎิบัติการบริหารงานบุคคลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ