โจรสาวเหิม ตระเวนชิงทองกลางเมืองบุรีรัมย์ ภายในสัปดาห์เดียว 3 ร้าน ได้ทองไปมูลค่าร่วมแสนบาท เจ้าของร้านพยายามวิ่งตามเท้าชนตู้กระจกเลือดไหล ก่อนตะโกนให้ช่างซ่อม จยย.ร้านใกล้กันช่วยขับตามแต่ไม่ทัน คาดนำไปใส่หรือขายช่วงปีใหม่ ตร.เร่งแกะรอยวงจรปิดล่าตัว
27 ธ.ค.2566 - ร.ต.อ.สุพจน์ ตึกกระโทก รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองบุรีรัมย์ ได้รับแจ้งมีเหตุคนร้ายชิงทองที่ร้านทอง ภายในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ จึงได้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนจะรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมตำรวจชุดสืบสวน
ที่เกิดเหตุเป็น “ห้างทองแก้วเยาวราช” ตั้งอยู่ถนนสุนทรเทพ ในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ โดยนายแก้ว มงคลเกษตร เจ้าของร้าน ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ ได้ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยอาการตื่นตกใจ ว่า เมื่อเวลาประมาณ 08.04 น. ซึ่งเพิ่งเปิดร้าน ได้มีคนร้ายเป็นหญิง อายุประมาณ 30 ปี รูปร่างผอม สูงประมาณ 160 เซนติเมตร ผมยาว ผิวดำแดง สวมเสื้อแขนยาวสีดำกางเกงขายาว และใส่แมสปิดบังใบหน้า เข้ามาทำทีขอดูสร้อยข้อมือทอง น้ำหนัก 1 บาทภายในร้าน ซึ่งตอนนั้นตนอยู่หน้าร้านคนเดียวก็ไม่ได้เอะใจอะไรคิดว่าเป็นลูกค้าที่มาซื้อทองตามปกติ จึงหยิบสร้อยข้อมือน้ำหนัก 1 บาท จำนวน 2 เส้น ให้ลองสวมใส่ดู แต่พอคนร้ายทำทีลองสวมใส่ดูแค่แป๊บเดียว ก็ถามว่าสแกนจ่ายได้มั้ยค่ะ เจ้าของร้านก็ตอบว่าได้ คนร้ายก็ลุกจากเก้าอี้ทำทีเหมือนจะสแกนจ่าย แต่กลับเดินออกจากร้านวิ่งไปขึ้นรถ จยย.ที่จอดติดเครื่องไว้หน้าร้านขายรถจักรยานยนต์ซึ่งอยู่ติดกับร้านทองที่เกิดเหตุแล้วขับหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว
เฮียแก้ว เจ้าของร้านทอง ที่เกิดเหตุซึ่งอายุมากแล้ว ก็พยายามวิ่งตามคนร้ายจนโดนกระจกตู้บาดที่นิ้วกลางด้านซ้ายเลือดไหล จึงได้ตะโกนบอกให้ช่างซ่อม จยย.ร้านติดกันช่วยขับรถติดตามคนร้าย ซึ่งช่างซ่อมก็ขับตามไปเกือบ 1 กม. แต่ก็ไม่เห็นคนร้ายแล้ว จึงได้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบและช่วยติดตามจับกุมคนร้าย คาดว่าคนร้ายน่าจะนำไปสวมใส่โชว์ช่วงปีใหม่ หรืออาจจะนำไปขายเพื่อนำเงินไปใช้จ่ายช่วงเทศกาลปีใหม่
จากข้อมูลทราบว่า โจรสาวรายดังกล่าวได้ก่อเหตุ ลักษณะเดียวถึง 3 ร้าน ภายในสัปดาห์เดียว คือ วันที่ 23 ธ.ค.66 แต่ไม่ได้ทองไป จากนั้นวันที่ 25 ธ.ค.66 ก็เข้าไปทำทีซื้อทองและก่อเหตุอีกร้าน ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากร้านแรก ได้ทองไป 50 สตางค์ ล่าสุดวันนี้ 27 ธ.ค.66 ก็ทำทีมาซื้อทองที่ร้านที่สาม ก่อนจะก่อเหตุชิงทองไป ได้สร้อยข้อมือน้ำหนัก 2 บาท รวมคนร้ายได้ทองไปจำนวน 2 บาท 50 สตางค์ คิดเป็นมูลค่าเกือบ 1 แสนบาท
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ลงพื้นที่เก็บหลักฐาน พร้อมไล่กล้องวงจรปิดตามเส้นทางต่างๆ เพื่อติดตามไล่ล่าจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
จ่อออกหมายเรียก 'เท้าแชร์กิ๊ฟซี่' โกงเหยื่อ 66 ราย เสียหาย 15 ล้าน
ร.ต.อ.พนัส โกรดประโคน รอง สว.(สอบสวน) สภ.บ้านกรวด ให้ข้อมูลว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างสอบปากคำผู้เสียหาย และรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง
สรุป'พีที กรังปรีซ์ฯ2024' สร้างเงินหมุนเวียนในบุรีรัมย์-อื่นๆ ประมาณ4,759 ล้าน
สรุปผลกระทบทางเศรษฐกิจ (สร้างเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ) PT Grand Prix of Thailand 2024 ระหว่างวันที่ 25 – 27 ต.ค. 67 ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต
'ก้อง'บิดแซงสุดระห่ำ ออกสตาร์ทที่13จบอันดับ4 ศึก'ไทยจีพี 2024'บุรีรัมย์
“ก้อง” สมเกียรติ จันทรา ยอดนักบิดขวัญใจชาวไทยจากโครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” สวมหัวใจ “พยัคฆ์คำราม” ลงบิดโฮมเรซต่อหน้าแฟนๆ ชาวไทยที่ร่วมส่งกำลังใจเชียร์ บู๊ไล่แซงสุดโหดจากกริด 13 ทะยานคว้าอันดับ 4 หลังเกิดธงแดง 2 รอบสุดท้าย ในศึก โมโตทู เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ 2024 สนาม 18 รายการ พีที กรังด์ปรีซ์ ออฟ ไทยแลนด์ ท่ามกลางเสียงเชียร์กระหึ่มก้อง สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์
'ไทยจีพี'เปิดฉากสุดโหด ทุบสถิติสนามช้างฯทุกรุ่น 'มาร์เกซ'เร็วสุด'พรีเมียร์คลาส'
ทัพนักบิดระดับพระกาฬของโลกพร้อมหน้า ประเดิมลงสนามวันแรก ต่อหน้าแฟนความเร็วชาวไทยที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ในศึก โมโตจีพี สนาม 18 ในศึก PT Grand Prix of Thailand 2024 พร้อมโชว์ความเร็วสุดโหดทุบสถิติทุกรุ่น “มาร์ค มาร์เกซ” แชมป์โลก 8 สมัยชาวสแปนิชจาก เกรซินี เรซซิ่ง รั้งจ่าฝูงในรุ่นใหญ่ ส่วน ขณะ “แอรอน คาเน็ต” รั้งหัวแถว โมโตทู ด้าน “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา นักบิดไทย รั้งอันดับ 14 ส่วนรุ่น โมโตทรี เป็น “ดาวิด อลอนโซ” แชมป์โลกคนใหม่ถอดด้ามครองหัวแถว
นักบิดโมโตจีพี ถึงบุรีรัมย์ ลุยทัวร์ย้อนยุค ชมปราสาทหินเมืองต่ำ ชิมอาหารพื้นบ้าน
6 สุดยอดนักบิดของโลก เดินทางถึงบุรีรัมย์แล้ว เตรียมสู้ศึกโมโตจีพี 2024 ตะลุยกิจกรรมต้อนรับ พาทัวร์ย้อนยุค “ปราสาทหินเมืองต่ำ”
หญิงท้อง 8 เดือน เล่านาทีระทึกโดนรุ่นพี่สามีขู่บังคับมีเพศสัมพันธ์ ปมหนี้เสื้อวินเทจ
สองสามีภรรยาชาวบุรีรัมย์ เล่านาทีชีวิตฝ่ายชายโดนซ้อมเลือดอาบ ฝ่ายหญิงท้อง 8 เดือนถูกแยกออกไปแล้วพยายามลวนลามขู่จะข่มขืน