คืบหน้าคดีเจ้าบ่าวกราดยิง 5 ศพ คาดปมเหตุจากความหึงหวง และมึนเมา ทีมแพทย์ลงพื้นที่เยียวยาจิตใจครอบครัวผู้เสียชีวิต ด้านรองผู้ว่าสั่งคุมเข้มใบอนุญาตพกพาอาวุธปืน
26 พ.ย.2566 – ความคืบหน้ากรณี นายจาตุรงค์ สุขสุข อายุ 29 ปี อดีตนักกีฬาพาราลิมปิกว่ายน้ำ และยิงปืนทีมชาติไทย ซึ่งเป็นเจ้าบ่าว ได้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิง นางสาวกาญจณา ปาจันทึก เจ้าสาว อายุ 44 ปี พร้อมทั้งนางกิ่งทอง กล้าจอหอ (แม่เจ้าสาว) อายุ 62 ปี นางสาวกรนิกา มานะต่อ อายุ 38 ปี (น้องเจ้าสาว) และนายธง นนขุนทด อายุ 50 ปี เพื่อนบ้านที่มาช่วยงานแต่งเสียชีวิต ก่อนจะใช้อาวุธปืนที่ก่อเหตุยิงตัวเองตายตาม โดยเหตุการณ์ครั้งนี้มีผู้เสียชีวิตรวมทั้งหมด 5 ราย และมีชาวบ้านบาดเจ็บสาหัสอีก 1 ราย เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 543 หมู่ที่ 1 บ้านศาลเจ้าพ่อชุมชนป่าขนุน ข้างตลาดสดศาลเจ้าพ่อ ต.วังน้ำเขียว อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นบ้านที่จัดงานมงคลสมรสระหว่าง นายจาตุรงค์ สุขสุข เจ้าบ่าวผู้ก่อเหตุ กับ นางสาวกาญจณา ปาจันทึก เจ้าสาว โดยเหตุการณ์สลดเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลาประมาณ 22.45 น. วานนี้ (25 พฤศจิกายน 2566)
ล่าสุด นายสมเกียรติ วิริยะกุลนันท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วย พล.ต.ต.ณรงค์ฤทธิ์ ด่านสุวรรณ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา นายสมภพ มุกดาสนิท นายอำเภอวังน้ำเขียว ผู้นำชุมชน และเจ้าหน้าที่ทีมเยียวยาจิตใจจากโรงพยาบาลวังน้ำเขียว ได้เดินทางลงพื้นที่ไปเยี่ยมให้กำลังใจกับครอบครัวของผู้เสียชีวิต โดยเฉพาะบุคคลที่อยู่ในเหตุการณ์ และรอดชีวิต ขณะนี้ทางทีมเยียวยาสภาพจิตใจได้เข้าไปพบเพื่อเยียวยาสภาพจิตใจ เนื่องจากเกรงว่าผู้ที่เพิ่งผ่านเหตุการณ์ร้ายแรงมาจะได้รับผลกระทบทางด้านจิตใจอย่างรุนแรง
ขณะที่อาการของชาวบ้านที่บาดเจ็บสาหัสอีก 1 รายนั้น ล่าสุดแพทย์ได้ผ่าตัดเอาหัวกระสุนออก อาการพ้นขีดอันตรายแล้ว แต่ยังต้องนอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา
พล.ต.ต.ณรงค์ฤทธิ์ ด่านสุวรรณ์ ผบก.จว.นครราชสีมา เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบบริเวณบ้านที่เกิดเหตุอย่างละเอียด พบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. ซึ่งเป็นอาวุธที่ใช้ก่อเหตุตกอยู่ในที่เกิดเหตุจำนวน 11 ปลอก และจากการสอบปากคำพยานผู้รอดชีวิตที่อยู่ในเหตุการณ์ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเจ้าบ่าวได้มีปากเสียงกันกับเจ้าสาว แต่ไม่ทราบแน่ชัดว่าเป็นเรื่องอะไร ก่อนที่ฝ่ายเจ้าบ่าวได้เดินไปหยิบอาวุธปืนพกสั้นออโตเมติก ขนาด 9 ม.ม.ออกมาจากรถ และมาก่อเหตุกราดยิงครอบครัวฝ่ายเจ้าสาว ทั้งนี้ผู้ก่อเหตุเป็นผู้พิการทางขา และเป็นอดีตนักกีฬาพาราลิมปิกทีมชาติไทย ในกีฬาประเภทว่ายน้ำ และยิงปืน ซึ่งผู้ตายเป็นคนชื่นชอบในการเล่นอาวุธปืนมาก เบื้องต้นคาดว่าอาจเป็นเรื่องของความหึงหวง เนื่องจากทางฝ่ายเจ้าสาวถึงแม้จะมีอายุมากกว่าฝ่ายเจ้าบ่าวหลายปี แต่ก็เป็นคนสวย หน้าตาดี และเป็นคนน่ารัก ประกอบกับปกติเจ้าบ่าวเป็นคนไม่ดื่มสุรา แต่ในวันเกิดเหตุเจ้าบ่าวได้ดื่มเบียร์เข้าไปหลายขวด จึงอาจทำให้มึนเมาขาดสติก่อเหตุสลดขึ้นดังกล่าว
นายสมเกียรติ วิริยะกุลนันท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าว ทางจังหวัดจะต้องมีมาตรการคุมเข้มเกี่ยวกับเรื่องการอาวุธปืนอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะเรื่องของใบอนุญาตพกพาปืนทางจังหวัดจะไม่มีการออกใบอนุญาตให้กับบุคคลทั่วไปอย่างเด็ดขาด นอกจากนี้เรื่องของการเยียวยาสภาพจิตใจให้กับครอบครัวผู้สูญเสีย ได้มอบหมายให้ทางสำนักงานพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครราชสีมาเข้าไปดูแล.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สลด! นักเรียนหญิง ม.3 พลัดตกอาคารชั้น 7 เสียชีวิตแล้ว
เกิดเหตุเด็กนักเรียนหญิงของโรงเรียนมัธยมชื่อดังแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา พลัดตกลงมาจากอาคารเรียนเฉลิมพระเกียรติ
โคราชจัดยิ่งใหญ่ เทศกาลเที่ยวพิมาย ปี 2567 เช็กกิจกรรมไฮไลท์ในงานถึง 10 พ.ย.
ที่บริเวณอุทยานประวัติศาสตร์พิมาย อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในพิธีเปิดงานเทศกาลเที่ยวพิมาย ประจำปี 2567
ไอเดียเจ๋ง! แต่งผีชวนคนบริจาคเลือดฉลองฮาโลวีน
นางสาวศิริลักษณ์ เพียกขุนทด หัวหน้าภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 5 จ.นครราชสีมา พร้อมด้วยนางสาวปพิชญา ณ นครพนม ผู้อำนวยการศูนย์การค้าฯ ร่วมจัดกิจกรรมแต่งผีชวนคนมาให้เลือด เนื่องในวันฮาโลวีน
ตร. เร่งล่าตัวมือโพสต์ขู่กราดยิงห้างดัง ยังคุมเข้มต่อตลอดสัปดาห์
ผู้สื่อข่าวจังหวัดขอนแก่นรายงานว่า บรรยากาศบริเวณด้านหน้าศูนย์การค้าชื่อดังแห่งหนึ่งของ จ.ขอนแก่น (เซ็นทรัลพลาซ่า)
ยิ่งคุ้ยยิ่งเจอ! บุกตรวจอู่รถถอดถังแก๊ส บริษัทรถบัสมรณะ เป็นอู่เถื่อนไร้ใบอนุญาต
ความคืบหน้าการตรวจสอบอยู่ที่รถบัส 5 คัน ที่เจ้าหน้าที่ขนส่งตรวจยึดตรวจสอบพบความผิดปกติคือจำนวนถังก๊าซ CNG ของรถทั้ง 5 คันที่แจ้งจดทะเบียนไว้กับสำนักงานขนส่งนั้นไม่ตรงกับข้อมูลที่จดทะเบียนเอาไว้ บางคันแจ้งเอาไว้ 2 ถัง
ยึดรถบัส 5 คัน โผล่โคราช แอบถอดถังแก๊ส บางคันแจ้งติดตั้งแค่ 2 ถัง แต่พบมากถึง 11
จากการตรวจสอบในเบื้องต้นของเจ้าหน้าที่ พบความผิดปกติคือจำนวนถังก๊าซ CNG ของรถทั้ง 5 คันที่แจ้งจดทะเบียนไว้กับสำนักงานขนส่งนั้นไม่ตรงกับข้อมูลที่จดทะเบียนเอาไว้