เปิดพฤติการณ์โหด 8 ทรชน แก๊งยิงนศ.อุเทนฯ-ครูเจี๊ยบ

เปิดพฤติการณ์โหดเเก๊งทรชน วางเเผนเตรียมการยิง "น้องหยอด" เด็กอุเทนฯพลาดโดนครูเจี๊ยบตาย พบมีสำรวจเส้นทางก่อนลงมือ ยิงเสร็จ มีรถยนต์ประกบพาหลบหนี ติดรูปเพื่อนที่ถูกยิงตายเตือนใจให้ล้างแค้น

25 พ.ย.2566 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากกรณีพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ ยื่นคำร้องฝากขัง 8 ผู้ต้องหาซึ่งเป็นนักศึกษาอาชีวะ ในคดีที่มีกลุ่มผู้ต้องหาใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิงนายธนสรณ์ หรือน้องหยอด นักศึกษามหาวิทยาลัยราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย และ น.ส.ศิรดา สินประเสริฐ หรือครูเจี๊ยบ ครูสอนคอมพิวเตอร์จากโรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์ ทำให้เสียชีวิตรวม 2 ราย โดยเเยกเป็น 3 สำนวนคดีเมื่อวันที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมานั้น

คำร้องฝากขังระบุพฤติการณ์แห่งคดีสรุปว่า เมื่อวันที่ 11พ.ย. พนักงานสอบสวนคดีอาญา สน.ทุ่งมหาเมฆ ได้รับแจ้งเหตุมีคนถูกยิง บาดเจ็บ จำนวน 2คน จึงได้ไปตรวจที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึง พบกองเลือด 2 กอง ในบริเวณที่เกิดเหตุ ส่วนคนบาดเจ็บทั้งสองคนได้ถูกนำส่ง รพ.เมดปาร์ค และโรงพยาบาลจุฬาฯ จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบภาพวีดิโอจากกล้องวงจรปิด บริเวณใกล้เคียง ว่า ขณะก่อนเกิดเหตุ มีกลุ่มวัยรุ่นจำนวน 4 คนได้เดินอยู่ที่บริเวณทางเดินเท้าถนนสุนทรโกษา มุ่งหน้าถนนพระรามที่ 4 เมื่อมาถึงบริเวณทางขึ้นสะพานลอย ฝั่ง หน้าธนาคารทหารไทยธนชาต สาขาคลองเตย ได้มีคนร้ายจำนวน 2 คนไม่ทราบว่าเป็นผู้ใด ขับขี่

รถจักรยานยนต์ไม่ทราบยี่ห้อรุ่นสีและทะเบียนมา 1คัน ( 1คนขับ 1คนซ้อน) จอดอยู่บนถนน หลังจากนั้น คนร้ายที่ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ได้ลงมา และได้เดินตามกลุ่มวัยรุ่นจำนวน 4 คนจากทางด้านหลัง เมื่อถึงบริเวณหน้าธนาคารทหารไทยธนชาต สาขาคลองเตย คนร้ายได้ใช้อาวุธปีน ไม่ทราบยี่ห้อ รุ่น สีขนาด จ่อไปที่บริเวณคอ ด้านหลังของหนึ่งในกลุ่มวัยรุ่น และได้ยิงไม่ทราบจำนวนนัด ซึ่งนัดแรกโดน น.ส.ศิรดา สินประเสริฐ เสียชีวิตบริเวณที่เกิดเหตุ และนัดต่อไปโดน นายธนสรณ์ ห้องสวัสดิ์ เป็นเหตุให้นายธนสรณ์ ล้มลง และยิงซ้ำ ได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ภายหลังยิงเสร็จคนร้ายที่ยิงได้ขึ้นซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ และคนขับรถจักรยานยนต์ได้ขับหลบหนีไป

จากการสืบสวนสอบสวนพบว่า นักศึกษาสถาบันทคโนโลยีปทุมวัน และ นักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวายมีปัญหาขัดแย้งระหว่างสถาบัน มีเหตุทำร้ายร่างกาย จนถึงแก่ความตายและมีการแก้แค้น กันไปมา บ่อยครั้ง

จากการตรวจสอบภาพถ่ายจากกล้องวงจรปิด ย้อนหลัง ถึงวันวันที่ 10 พ.ย. เวลา 22.42 น.พบรถจักรยานยนต์ของคนร้าย ที่บริเวณ หมู่ที่ 6 ตำบลบางพลับ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ซึ่งเป็นจุดสุดท้าย เชื่อมโยงถึงที่เกิดเหตุ และจากการสอบถามพยานในพื้นที่พบว่า มีบุคคลที่เป็นเด็กช่างกลและ อยู่ในบริเวณนั้นเพียงคนเดียวคือ นายอนาวิน แก้วเก็บ และ ชาวบ้านซึ่ง

พักอาศัยอยู่บริเวณดังกล่าวยืนยันว่า มักได้ยินเสียงอาวุธปืนดังขึ้นมาจากภายในบริเวณบ้านหลังดังกล่าว ขณะที่นายอนาวิน และกลุ่มเพื่อน จะมารวมตัวและมั่วสุมกัน อีกทั้งนายอนาวินยังคงมีพฤติการณ์เกเร ก้าวร้าว และมีพฤติกรรมแนวโน้มมักจะแสดงกิริยาชอบใช้ความรุนแรง และ มีประวัติเคยถูกดำเนินคดีในความผิด เกี่ยวกับอาวุธปืนอีกทั้งมูลเหตุในการก่อเหตุของกลุ่มคนร้ายนี้ เชื่อว่าเกิดจากปมความขัดแย้ง และ ความบาดหมางระหว่าง กลุ่มนักศึกษาของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย กับ กลุ่มนักศึกษาของสถาบันทคโนโลยีปทุมวันซึ่งเป็นสถาบันที่นายอนาวิน และกลุ่มเพื่อนกำลังศึกษาอยู่ในปัจจุบัน จึงเชื่อว่า บ้านเลขที่ 120หมู่ 6ต.คลองพระอุดม

อ.ปากเกร็ด จว.นนทบุรี ซึ่งเป็นบ้านที่นายอนาวินพักอาศัย นั้น อาจมีส่วนเกี่ยวข้องประการหนึ่งประการใดไม่ว่าทั้งทางตรงหรือทางอ้อมในลักษณะอันมีความเชื่อมโยง เกี่ยวกัน มีส่วนร่วม รู้เห็นในพฤติการณ์ของการก่อเหตุของคนร้ายทั้งสอง ในวันเวลาเกิดเหตุ และตรวจสอบข้อมูลการใช้โทรศัพท์มือถือ บริเวณดังกล่าว พบว่า นายวรงค์ชัย กัณฑ์ศรี ,นายธนภัทร เกตุชาติ นายอับดุลเลาะ คือราแม และ นายนภวุฒิ เรืองศรี ซึ่งเป็นคนที่มีที่พักอยู่ห่างไกลกัน ได้มารวมตัวกันที่บ้านของนายอนาวินอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อตรวจสอบข้อมูล ยานพาหานะ พบว่า นายเกรียงไกร แก้วเก็บ บิดาของนายอนาวิน แก้วเก็บ มีรถจักรยานยนต์ ทะเบียน 2ขส 4608 กรุงเทพมหานคร มีบุคคลที่เป็นเด็กช่างกลและอยู่ในบริเวณนั้นเพียงคนเดียวที่เป็นนักศึกษาปทุมวัน คือ นายอนาวิน เมื่อตรวจสอบข้อมูลจากกล้องวงจรปิด ตามเส้นทางที่มาก่อเหตุ ย้อนหลังพบว่ามีการขับขี่รถจักรยานยนต์ สำรวจเส้นทาง ก่อนลงมือก่อเหตุ มีการขับรถยนต์เพื่อช่วยในการหลบหนี ซ่อนเร้นอำ

พรางรถจักรยานยนต์ที่จะใช้ก่อเหตุ จึงเชื่อได้ว่ากลุ่มบุคคลดังกล่าวได้ร่วมกันสมคบ วางแผนกัน เพื่อการก่อจากการตรวจสอบข้อมูลการใช้งานรถจักรยานยนต์ ทะเบียน 2ขส 4608กรุงเทพมหานคร พบว่า เมื่อ วันที่ 22 ก.ย.เวลาประมาณ 19.03 น.รถจักรยานยนต์ ดังกล่าว อยู่บริเวณ แยกวงศ์สว่าง ถนน

กรุงเทพ-นนทบุรี แขวงวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร และพบข้อมูลผู้ใช้งานหมายเลขโทรศัพท์ของนายอนาวินอยู่ ในบริเวณใกล้แยกวงศ์สว่าง เชื่อว่าผู้ที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ คือนายอนาวินโดยการแต่งกายในวันดังกล่าวมีลักษณะคล้ายกับ คนร้ายที่กระทำความผิด ในวันที่เกิดเหตุ

จากการตรวจสอบภาพถ่ายจากกล้องวงจรปิด ย้อนหลัง ถึงวันที่ 9 พ.ย.พบว่ากลุ่มคนร้ายได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นคลิ๊ก สีเหลือง-ดำ หมายเลขทะเบียน 2กผ 3328 กรุงเทพมหานคร ขับขี่สำรวจเหตุเส้นทางก่อนกระทำความผิด โดยจอดรถจักรยานยนต์คันดังกล่าว แล้วขึ้นรถยนต์ ยี่ห้อ โตโยต้า สีเขียว ทะเบียนขจ 9707 ชลบุรี ไปยัง ยังบริเวณซอยวงศ์สว่าง 19 แยก 2 แขวงวงศ์สว่าง เขตบางชื่อ กรุงเทพมหานคร ก่อนที่จะกลับเข้า มาบริเวณตลาดบางซ่อน เพื่อมาขนย้ายรถจักรยานยนต์ หมายเลขทะเบียน 2กผ 3328กรุงเทพมหานคร โดยมีรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีบรอนเงิน หมายเลขทะเบียนพระนครศรีอยุธยาขับตามกันไปยังวัดมะสัง

เวลา 05.18น.และออกจากวัดมะสัง เวลา 05.24น.ไม่มีรถยนต์ ยี่ห้อ โตโยต้า สีเขียว ทะเบียน ขจ 9707 ชลบุรี ออกจากวัดดังกล่าวแต่อย่างใด เชื่อว่าเป็นการนำรถยนต์ ยี่ห้อ โตโยต้า สีเขียว ทะเบียน ขจ 9707ชลบุรี เข้าไปซุกซ่อนภายในวัด และกลุ่มผู้ต้องหา ได้พากันขึ้นรถยนต์ ทะเบียน กฉ 2673พระนครศรีอยุธยา ออกจากวัดมะสังข์ มีการทำงานกันเป็นทีม มีการแบ่งหน้าที่แบบชัดเจน มีการวางแผนไว้ล่วงหน้าจากการตรวจสอบรถยนต์ ทะเบียน กฉ2673 พระนครศรีอยุธยา ผู้ครอบครองคือ มารดาของนายวรงค์ชัย กัณฑ์ศรี ซึ่งเป็นนักศึกษาอยู่ที่สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน

จากการตรวจสอบภาพถ่ายจากกล้องวงจรปิด ย้อนหลัง ถึงวันที่ 8 พ.ย. พบรถจักรยานยนต์ คันเดียวกันกับวันที่ 9 จอดบริเวณหน้าร้านเพ็ทมาร์ทฯ โดยผู้ซ้อนได้ลงจักรยานยนต์คันดังกล่าว มานั่งอยู่บริเวณใต้ต้นไม้ ส่วนผู้ขับขี่ได้ซ้อนอยู่บนรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวเช่นเดิม โดยได้จอดรถจักรยานยนต์ติดเครื่องไว้ และทั้งสองคนได้ทำการสูบบุหรี่บริเวณดังกล่าว

จากการสอบปากคำพยาน ที่พบผู้ต้องหาที่ 1มาสั่งซื้อก๋วยเตี๋ยว บริเวณใกล้เคียงก่อนเดินทางไปยังที่เกิดเหตุ พบว่า มีหนึ่งในคนร้าย เป็นผู้นับถือศาสนาอิสลาม เจือสมกับข้อมูลการใช้โทรศัพท์บริเวณบ้านของนายอนาวินเชื่อว่า นายอับดุลเลาะ ดือราแม เป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ พานายอนาวินนั่งซ้อนท้าย ไปยังที่เกิดเหตุ ใช้อาวุธปืนยิง ผู้อื่นถึงแก่ความตาย แล้วหลบหนีไป อันเป็นการแบ่งหน้าที่กันทำ

พนักงานสอบสวน จึงรวบรวมพยานหลักฐานได้ยื่นคำร้องขอศาลอาญากรุงเทพใต้ เพื่อออกหมายจับ นายอนาวิน กับพวกอีกหลายคนและศาลอาญากรุงเทพใต้ ได้ออกหมายจับ

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ได้ยื่นคำร้องขอหมายค้นเพื่อพบและยึดสิ่งของ ที่จะเป็นพยานหลักฐาน , ที่มีไว้เป็นความผิด หรือได้มาโดยผิดกฎหมาย หรือได้ใช้ หรือตั้งใจจะใช้ในการกระทำความผิด เพื่อพบบุคคลตามหมายจับ โดยศาลได้อออกหมายค้นสถานที่ เป็นบ้าน7 หลัง

ต่อมาเมื่อวันที่ 22 พ.ย.เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ได้ เข้าทำการตรวจค้น บ้านพบกลุ่มผู้ต้องหา เเละจากการตรวจค้นบ้านมีภาพถ่ายนายศตวรรษ รอบรู้ อดีตนักศึกษาปี 1สาขาวิศวกรรมไฟฟ้า สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน ซึ่งถูกยิงเสียชีวิต บริเวณใกล้ปากซอยจรัญสนิทวงศ์ ซึ่งปรากฎข้อมูลข่าวสารทั่วไป ว่าถูกกลุ่มนักศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย ใช้อาวุธปืน ยิงถึงแก่ความตาย ติดอยู่ที่ประตู้ห้องบริเวณชั้นสองของบ้านเชื่อว่ามูลเหตุในการกระทำความผิดครั้งนี้ เพื่อต้องการล้างแค้น ให้กับอดีตนักศึกษา ดังกล่าวและเชื่อว่ากลุ่มผู้ต้องหาที่ มีส่วนรู้เห็นในการร่วมกันกระทำความผิด ในครั้งนี้ โดยมีการวางแผน ตระเตรียมการแบ่งหน้าที่กันทำนำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน