กรมสอบสวนคดีพิเศษ เผยสรุปสำนวนคดีหุ้น STARK ส่งอัยการภายในพ.ย.นี้ ขณะปปง.ยึดอายัดทรัพย์แล้วกว่า 400 ล้านบาท โดยทรัพย์สินของผู้ต้องหาบางรายถูกถ่ายโอนไปยังต่างประเทศกว่า 1,000 ล้านบาทก่อนดีเอสไอเข้าทำคดี
24 พ.ย.2566 - ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.ท.จักรกฤษณ์ วิเศษเขตการณ์ ผู้อำนวยการกองคดีการเงินการธนาคารและการฟอกเงิน ดีเอสไอ เปิดเผยความคืบหน้าในการดำเนินคดีทุจริตหุ้นสตาร์ค เปิดเผยความคืบหน้าในคดีหุ้น STARKว่า ดีเอสไอได้ดำเนินการตรวจสอบในคดีนี้มาตั้งแต่วันที่ 20 มิ.ย. 2566 หรือกว่า 5 เดือนแล้ว ขณะนี้ใกล้จะเสร็จสิ้นขั้นตอนการสอบสวนแล้วอยู่ระหว่างการสรุปสำนวน โดยจะมีการประชุมคณะพนักงานสอบสวนในสัปดาห์หน้า และคาดว่าจะสามารถส่งสำนวนให้กับอัยการพิจารณาได้ภายในสิ้นเดือนนี้
สำหรับคดีนี้ได้สอบปากคำพยานไปแล้วกว่า 157 ราย ได้แจ้งข้อกล่าวหาไปแล้ว 11 ราย เป็นกลุ่มนิติบุคคล 5 ราย และบุคคลธรรมดา 6 ราย ดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ฯ, ความผิดอาญาฐานฟอกเงิน และฐานความผิดอื่น ๆ ออกหมายจับแล้ว 1 ราย แต่ผู้ต้องหาได้หลบหนีไปต่างประเทศแล้ว ขณะนี้มีการข่าวว่าผู้ต้องหาหลบหนีอยู่ในประเทศโซนยุโรป แต่ยังไม่มีความแน่ชัดจึงยังไม่สามารถประสานตำรวจสากลเพื่อออกหมายจับสากลได้
สำหรับทรัพย์สินในคดีนี้ทางสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)ได้ดำเนินการยึดอายัดทรัพย์สินเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดไปแล้วประมาณ 400 ล้านบาท ทั้งยังพบทรัพย์สินของผู้ต้องหาบางรายที่ถูกถ่ายโอนไปยังต่างประเทศกว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งถูกถ่ายโอนไปก่อนกรมสอบสวนคดีพิเศษจะรับเป็นคดีพิเศษนั้น ขณะนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษได้ตั้งพนักงานอัยการเป็นที่ปรึกษาในคดีเพื่อประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและติดตามทรัพย์สินในต่างประเทศเหล่านี้แล้ว
นอกจากนี้ ยังได้ดำเนินการสอบปากคำผู้สอบบัญชีเรียบร้อยแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างรอให้สภาวิชาชีพบัญชีในพระบรมราชูปถัมภ์แห่งประเทศไทย ได้ดำเนินการตรวจสอบว่าการสอบบัญชีถูกต้องตามมาตรฐานและหลักจริยธรรมของผู้ตรวจสอบบัญชีหรือไม่ และแจ้งมายังกรมสอบสวนคดีพิเศษให้พิจารณาแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป
ส่วนการยึดอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดของนายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ หนึ่งในผู้ต้องหารายสำคัญนัน ยังไม่ได้ดำเนินการยึดอายัดทรัพย์สินเนื่องจากผู้ต้องหาไม่ได้กระทำความผิดฐานฟอกเงิน แต่มีความผิดตามราชบัญญัติหลักทรัพย์ฯ ในฐานความผิดอื่น ฉันจะต้องให้ผู้ต้องหา ชี้แจงที่มาของทรัพย์สินต่อไป
ส่วนความคืบหน้าในคดีปั่นหุ้น more ที่มีมูลค่าความเสียหายรวมกว่า 4,000 ล้านบาท ทางคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์หรือ กลต. ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษทั้งหมด 32 ราย ขณะนี้พนักงานสอบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษและตำรวจสอบสวนกลาง ระหว่างการสอบสวน ผู้เสียหายที่เป็นโบรกเกอร์ ในตลาดหลักทรัพย์ 10 ราย แล้วจะออกหมายเรียกผู้ต้องหาจำนวน 28 รายเข้ามาให้ปากคำในช่วงต้นเดือนธันวาคมนี้ อย่างไรก็ตาม ก่อนที่กรมสอบสวนคดีพิเศษจะรับคดีนี้เป็นคดีพิเศษทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาไปแล้ว 4 รายในข้อหาฉ้อโกง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘18บอส’นอนตะรางยาว! สายไหมไม่รอดเจอข้อหา
18 บอสดิไอคอนนอนคุกยาว ดีเอสไอยื่นฝากขังผัด 4 พ่วงแจ้งข้อหาใหม่โทษหนักคุก 10 ปี
ข่าวดี ผู้เสียหายคดีดิไอคอนกรุ๊ป 'ปปง.' เปิดให้ยื่นขอคุ้มครองสิทธิรับคืนหรือชดใช้คืนทรัพย์สิน
ตามที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)ได้นำส่งมอบทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการสืบสวนและสอบสวนคดีพิเศษที่ 119/2567 กรณี บริษัท
โฆษกดีเอสไอ โต้ทนายบอสพอล อุปสรรคคดีอยู่ที่ฝ่ายผู้ต้องหาเอง ไม่ใช่ DSI
ร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ ผอ.กองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ หรือกองคดีฮั้วประมูล ในและฐานะโฆษกดีเอสไอ พร้อมด้วยคณะพนักงานสอบสวนคดี
ทนายบอสพอล กังวล 'ดีเอสไอ' ตัดพยาน 2,000 คนฝั่งดิไอคอน ยุติสอบปากคำ 3 ธ.ค.นี้
นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าเยี่ยมบอสพอล ที่เรือนจำฯ ว่ายอมรับว่าหนักใจเนื่องจากทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ
'ดีเอสไอ' จ่อบุกเรือนจำสอบปากคำ 'เจ๊พัช' ปมคลิปเสียงจ่ายสินบนดีเอสไอ 10 ล้าน
พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ และในฐานะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีคลิปเสียงสาวอ้างจ่ายเงิน 10 ล้านบาทให้ ดีเอสไอ
'ดีเอสไอ' ให้เวลา 15 วัน '18 บอส' อธิบายธุรกิจดิไอคอน หลังแจ้งข้อหาแชร์ลูกโซ่-ขายตรง
"โฆษกดีเอสไอ" เผยคณะพนักงานสอบสวนเข้าแจ้งข้อหาแชร์ลูกโซ่ - พ.ร.บ.ขายตรงฯ 18 บอสดิไอคอนฯ เรียบร้อย แย้มให้กรอบเวลา 15 วัน