จนท.เทศบาลถึงทางตันชีวิต ผูกคอตายปลิดชีพเซ่นพิษเศรษฐกิจ

สลดใจ จนท.เทศบาลเจอมรสุมพิษเศรษฐกิจ แถมโดนธนาคารทวงหนี้จนสติแตก ตัดสินใจผูกคอตายสังเวยเรื่องหนี้สิน ที่ถูกกดดันจนถึงทางตัน

19 ธ.ค.2564 – จากกรณีเมื่อวันที่ 18 ธ.ค. เกิดเหตุนางเพ็ญศิริ ถนอมจิตต์  อายุ 53 ปี  ตำแหน่งนักทรัพยากรบุคคลชำนาญการ ระดับ 6 เทศบาลตำบลศาลา อยู่บ้านเลขที่ 402  หมู่2 ตำบลศาลา อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง ใช้เชือกผูกคอกับเสาปูน ใกล้กับประตูม้วนเหล็กภายในห้องเก็บบัตรดังกล่าวเสียชีวิต เจ้าหน้าที่ จึงได้ทำการชันสูตรพลิกศพ และนำศพส่งโรงพยาบาลลำปาง  เพื่อให้แพทย์ชันสูตรพลิกศพอีกครั้ง 

ทั้งนี้จากการติดตาม Facebook ของนางเพ็ญศิริ  พบว่าเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม ได้มีการโพสต์ข้อความที่อัดอั้นตันใจเกี่ยวกับปัญหาทางการเงินที่เกิดขึ้น ในช่วงโควิด แม้ที่ผ่านมาจะเกิดกับเหตุการณ์ต่างๆหลายระลอก แต่ก็พยายามปรับตัว เปลี่ยนแปลงการทำธุรกิจหลายอย่าง แต่เมื่อมาเจอโควิดทุกอย่างหยุด ไปต่อไม่ได้จนถึงทางตัน และถูกกดดันจากธนาคารที่โทรทวงตามจนสติแตก จิตตก ด้วยวงเงินที่เป็นหนี้กว่า5ล้านบาท ทรัพย์สินที่มีก็จะถูกยึด ธนาคารไม่ปล่อยเงินเพื่อให้มาหมุนเวียน จึงเดินต่อไม่ได้ พร้อมขอความช่วยเหลือโดยขอรับบริจาคเงินจาก อปท.ทั่วประเทศ แห่งละ 999 บาท พร้อมกับรูปภาพข้อความไว้  

ล่าสุด ที่วัดศาลาไชย ซึ่งเป็นสถานที่ที่จะจัดงานศพ โดยญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านได้มาช่วยกันจัดเตรียมสถานที่ ด้านร้อยตำรวจตรี อรรถศิลป์  เรือนคำ อดีตตำรวจ สภ.เขลางค์นคร ซึ่งเป็น  พี่ชายของผู้ตายบอกว่า  น้องสาวตนเองนั้นเครียด เรื่องเงิน และเศรษฐกิจ หลังวิกฤตโรค โควิด-19 ระบาด  เพราะช่วงหลังทราบว่าน้องสาวตนเองเป็นหนี้เยอะมาก ทั้งคอนโดมิเนียมที่ กรุงเทพก็กำลังจะถูกยึด และไม่กี่วันที่ผ่านมาน้องสาวตนเอง ขอยืมเงิน ตนเอง 1,500 บาท

ร้อยตำรวจตรีอรรถศิลป์ ระบุว่า ตนเองก็ให้ไปแต่ไม่ทราบว่านำไปทำอะไรไม่ได้ถาม ซึ่งก็ไม่ได้แสดงอาการที่ผิดปกติอะไร ช่วงหลังก็มานอนกับแม่ แต่ทราบเพียงว่า น้องสาวกำลังเครียดเรื่องปัญหาทางการเงินหลังประสบสภาวะที่เป็นหนี้สินจำนวนมากในช่วงโควิด  ประกอบการเป็นหนี้ 5 ล้านบาท จะไปกู้ธนาคารก็ไม่มีหลักทรัพย์และไม่สามารถจะไปกู้เพิ่มได้ ทุกอย่างหยุดชะงักหมด

ทางด้านนายเกษม  สามีผู้ตาย กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ภรรยาตนเอง ประสบกับปัญหาสภาวะเศรษฐกิจหลังจากที่เกิดโควิด ช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาธุรกิจหลายตัวที่ทำ ก็ขายไม่ได้ โดยเฉพาะช่วงที่ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวหยุดของฝากที่เคยขายให้กับนักท่องเที่ยวก็ขายไม่ได้  หยุดชะงักหมด ต้องปรับตัว หันมาทำเกษตรปลอดสารและทุกอย่าง แต่ก็ไม่ดีขึ้น จนไม่สามารถที่จะชำระหนี้สินที่มีอยู่ได้ ยอมรับว่าเครียดกับปัญหาที่เกิดขึ้นแต่ก็ไม่คิดว่าภรรยาจะตัดสินใจแบบนี้ส่วนที่ภรรยาขอรับบริจาคเงินนั้นก็สุดแต่ทุกท่านจะเห็นสมควร เพราะเป็นเจตนาของภรรยา.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ผลสำรวจชี้ คนไทยกระเป๋าฉีกพบมีหนี้สิน 20-50%ของรายได้ แถมเสี่ยงถูกเลิกจ้างสูง

สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “คนไทยกับความยากจน หนี้สิน และการเลิกจ้างงาน” ระหว่างวันที่ 15-19 กรกฎาคม 2567 กลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,146 คน สำรวจผ่านทางออนไลน์และภาคสนาม

ศาลฯมีคำพิพากษาให้ธนาคารใช้เงินคืนกึ่งหนึ่งให้กับลูกค้ากรณีมิจฉาชีพดูดเงิน

นายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือ ทนายเดชา โพสต์เฟซบุ๊ก "ทนายคลายทุกข์" ระบุว่า ข่าวด่วนวันนี้! ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ มีคำพิพากษาให้ธนาคารใช้เงินคืนกึ่งหนึ่งให้กับลูกค้ากรณีมิ

'ทักษิณ' ประกาศลุยเต็มสูบช่วยงานรัฐบาลหลังสิงหาคม

'ทักษิณ' เยือนสุรินทร์ บวชพระใหญ่ 334 รูป ถวายเป็นพระราชกุศลในหลวง ถ่อมตัวจากไทยไป 17 ปี ปราศรัยไม่ค่อยเป็นแล้ว แต่หวังคนไทยหลุดบ่วงหนี้สิน แย้มหลังสิงหาคม​ รัฐบาลโชว์ผลงานเป็นรูปธรรม