ทนายแฉทำเป็นขบวนการ จับผู้ค้าปลาซิวปลาสร้อย ละเมิดลิขสิทธิ์ เรียกรับเงิน 1 แสน

31 ต.ค.2566 - ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ทนายเกรียงศักดิ์ พินทุสรศรี พร้อมด้วย น.ส.อาภาศิริ (สงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี พร้อมแฟนหนุ่ม เข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงและขอให้พนักงานสอบสวนมีคำสั่งไม่ฟ้องคดีที่ถูกกล่าวหาเรื่องละเมิดลิขสิทธิ์ โดยมี พ.ต.อ.สมเกียรติ แก้ววิเศษ รองผบก.ส.3 (ปฏิบัติราชการ บก.ส.2) ในฐานะตำรวจเวรอำนวยการเป็นตัวแทนรับหนังสือ

น.ส.อาภาศิริ กล่าวว่า ตนเองเคยเป็นพนักงานบริษัท แต่ได้ออกมาอยู่บ้านเพื่อเลี้ยงดูลูก และอยากช่วยครอบครัวหารายได้ กระทั่งเมื่อวันที่ 13 ก.ค.2566 ได้โพสต์ข้อความ ขายสินค้ากระบอกน้ำสแตนเลส ผ่านทางแอปพลิเคชั่นเฟซบุ๊ก จากนั้นวันที่ 27 ก.ค.2566 ผู้ใช้แอปพลิเคชั่นเฟซบุ๊ก ชื่อบัญชี "Noppamas Ladkrabang" ได้ส่งข้อความมาสั่งซื้อแก้วสแตนเลสลายชินจังจำนวน 2 ใบ ราคาใบละ 270 บาท รวม 540 บาท จากนั้นบุคคลดังกล่าว จึงโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของตนเอง ตนเองจึงได้ส่งข้อความถึงผู้ใช้แอปพลิเคชั่นไลน์ ชื่อบัญชี "Mami NP ซึ่งเป็นโกดังสินค้าราคาส่ง ขายทุกอย่าง" เพื่อให้โกดังสินค้าจัดส่งแก้วให้แก่ลูกค้าตามออเดอร์ เมื่อลูกค้าสั่งสินค้า ต่อมาเมื่อวันที่ 9 ต.ค.2566 ได้รับหมายเรียกจากสถานีตำรวจนครบาลพญาไทให้ไปรับทราบข้อหาฐานกระทำความผิดฐานละเมิดลิขสิทธิ์ผู้อื่นเพื่อการค้า ซึ่งงานสร้างสรรค์ศิลปกรรม ลักษณะงานจิตรกรรม โดยการขาย มีไว้เพื่อขาย เสนอขายอนุญาต แห่ง พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 จึงรู้ว่าถูกล่อซื้อ จากนั้นจึงหาข้อมูลพบว่ามีคนตกเป็นเหยื่อและเจอลักษณะเดียวกันอีกหลายคน โดยผู้ที่ติดต่อซื้อสินค้าเป็นคนเดียวกันกับกรณีที่จังหวัดราชบุรี

น.ส.อาภาศิริ กล่าวว่า ตนเองเป็นเพียงคนโพสต์ขายสินค้า โดยนำภาพสินค้าจากโรงงานที่ประกาศทางเฟซบุ๊ก ไม่ได้มีสินค้าอยู่ในความครอบครองและผู้ที่เป็นผู้จัดส่งสินค้ากับลูกค้าคือโกดังสินค้า ไม่ใช่ตนเอง ส่วนที่โพสต์ขายสินค้าดังกล่าว เนื่องจากไม่รู้ว่าแก้วสแตนเลสลายชินจังของโกดังที่โพสต์ขายนั้นเป็นสินค้าที่ละเมิดลิขสิทธิ์ แต่เข้าใจว่าสินค้าของโกดังเป็นสินค้าที่ถูกกฎหมาย และได้ส่วนต่างจากการโพสต์ขายสินค้าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยจะได้ส่วนต่างจากการโพสต์ขายสินค้ามีกำไรใบละ 50 บาท และการโพสต์ขายสินค้าดังกล่าวเป็นการขายสินค้าครั้งแรก ไม่ได้แสวงหาผลกำไรหรือหาประโยชน์จากสินค้าดังกล่าวแต่อย่างใด

ด้าน ทนายเกรียงศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวตนเองมองว่ามีการทำกันเป็นขบวนการ และอยากให้ผบ.ตร.สั่งการหรือดำเนินการตรวจสอบเส้นทางการเงินของตัวตึงและผู้เกี่ยวข้องที่มีการจับกุมลักษณะดังกล่าวบ่อยครั้ง เพราะมองว่ายังมีขบวนการดังกล่าวอีกมาก เพื่อเรียกเงินจากผู้ที่ถูกกล่าวหาครั้งละ 50,000-100,000 บาท และเรียกร้องให้ตำรวจจับกุมตัวการใหญ่หรือหากจะทลายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ก็ควรจะบุกจับโรงงานใหญ่ๆ ไม่ใช่มาจับประชาชนตัวเล็กตัวน้อย

อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 9 พ.ย.2566 เวลา 13.00 น. ตนเองพร้อมผู้ถูกกล่าวหาจะไปพบพนักงานสอบสวน สน.พญาไท เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียกและทราบว่าตัวตึงหรือผู้ที่แจ้งดำเนินคดีจะมาในวันดังกล่าวด้วย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ดุสิตโพล' เผยคนไทยเบื่อความขัดแย้งในสตช.

สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “หัวอกของคนเสพข่าวความขัดแย้งในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ” กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 1,040 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 25-28 มิถุนายน 2567

'บิ๊กต่าย' เปิดใจครั้งแรกหลังถูก 'โจ๊ก' ฟ้อง ม.157

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) กล่าวถึงมติที่ประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ที่ออกมาเป็นเอกสารว่าคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบและให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ออกจากราชการเป็นเรื่องที่ถูกต้องตามระเบียบและกฎหมาย

เลขาฯ ก.ตร. แถลงผลประชุม เห็นชอบคำสั่งให้ 'บิ๊กโจ๊ก' ออกจากราชการ โดยชอบกฎหมาย

พล.ต.ท.อนุชา รมยะนันทน์ ผู้บัญชาการสำนักงาน ก.ตร. ในฐานะเลขานุการ ก.ตร. กล่าวว่า ได้รับมอบหมายให้มาชี้แจงเกี่ยวกับกรณีผู้ร้องขอให้ ก.ตร. พิจารณาเกี่ยวกับการปฎิบัติการบริหารงานบุคคลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

'บิ๊กต่าย' ไม่หวั่นตายเดี่ยว พร้อมรับทุกอย่าง ยันเซ็นปลด 'โจ๊ก' ยึดหลักสุจริต

'บิ๊กต่าย' ลั่นไม่คิดโดนเช็กบิล หลัง 'โจ๊ก' จ่อยื่น ป.ป.ช. ยันเซ็นปลดสุจริต ย้ำหากเกิดอะไรขึ้นพร้อมน้อมรับ ร้องโอ้โห ไม่เคยคิดนั่ง 'ผบ.ตร.' ไม่หวั่นตายเดี่ยว ยกธรรมะเข้าสู้