2 นศ.สาววิทยาลัยดัง ร้องสื่อถูกอดีตอาจารย์ เจ้าของหอพักแอบถ่ายคลิป เมียเสนอเงิน 3 หมื่นเพื่อยุติเรื่อง แฉพฤติกรรมเคยปีนห้องน้ำถ่ายคลิปลูกศิษย์
29 ตุลาคม 2566 – ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องทุกข์จาก 2 นักศึกษาสาววิทยาลัยดังแห่งหนึ่ง ในจังหวัดนครพนม ว่า ถูกแอบถ่ายขณะทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำ โดยมีหลักฐานเป็นเมมโมรี่การ์ดกล้องวงจรปิด ที่เจ้าของหอพักติดตั้งไว้ใกล้ๆห้องน้ำ เพื่อเตรียมนำไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครพนม ดำเนินคดีกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง น.ส.เมย์ และ น.ส.มาย (นามสมมติ) อายุ 19 ปีเท่ากัน เปิดเผยว่าเป็นคนต่างจังหวัด มาเข้ารับการศึกษาที่วิทยาลัยชื่อดังแห่งนี้ โดยเช่าบ้านซึ่งเป็นทาวน์เฮ้าส์ 3 ชั้นของอาจารย์หญิงคนหนึ่ง ที่แปลงเป็นหอพัก ชั้นล่างปล่อยโล่ง มีเครื่องซักผ้าไว้บริการ ส่วนชั้นสองและสามเป็นหอพัก มีห้องน้ำรวม ทราบภายหลังว่าสามีของอาจารย์หญิง เป็นเป็นอาจารย์สอนอยู่ที่เดียวกัน ต่อมาได้ลาออกจากราชการเกี่ยวกับมีส่วนพัวพันเรื่องการเงิน
สองนักศึกษาสาวเล่าต่อว่า ด้วยเป็นห้องน้ำรวม ลักษณะก่อไม่เต็ม ปรากฏว่าอดีตอาจารย์ได้ติดตั้งกล้องวงจรปิดใกล้ๆกับห้องน้ำ ทีแรกไม่ได้เอะใจอะไร กระทั่งเมื่อวันที่ 28 ตุลาคมที่ผ่านมา ขณะทำธุระในห้องน้ำ แหงนมองไปที่กล้องวงจรปิด ปรากฏว่าหน้ากล้องมันหมุนไปมาได้ จึงรีบออกจากห้องน้ำไปเรียกเพื่อน เอาเก้าอี้มาดึงเมมโมรี่การ์ดออกจากตัวกล้อง พร้อมเรียกเจ้าของหอพักมาสอบถาม ซึ่งก็มาทั้งผัวทั้งเมีย อ้างติดตั้งกล้องไว้เพื่อส่องดูจิ้งจกตุ๊กแก แต่ตนเชื่อว่าเป็นเจตนาแอบถ่ายคลิปมากกว่า และยืนยันจะแจ้งความดำเนินคดี
ด้านภรรยาที่เป็นอาจารย์ ขอเจรจาไม่ให้แจ้งความดำเนินคดี โดยเสนอเงินจำนวน 3 หมื่นบาทเพื่อยุติเรื่อง พร้อมบอกว่าถ้ามีคลิปหลุดไปข้างนอก ยินดีจ่ายเพิ่มเป็น 1 แสนบาท พวกตนไม่ยอมรับข้อเสนอนั้น โดยหลังเสร็จงานไหลเรือไฟจะไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ร้านทีเทคนครพนม ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายกล้องวงจรปิดโดยเฉพาะ ตั้งอยู่หลังโรงเรียนเทศบาล 2 ซอยร่วมจิตถวาย เขตเทศบาลเมืองนครพนม ได้รับการบอกเล่าจากเจ้าของร้านนายถนอม สิงห์มอญ หรือช่างม่อน อายุ 47 ปี และภรรยา นางสาวณิชาภา สิงห์มอญ หรือหนิง อายุ 46 ปี ทราบว่ากล้องวงจรปิดลักษณะดังกล่าว เป็นกล้อง TP โรบอร์ท สามารถสั่งงานทางมือถือ โดยเจ้าของตั้งโปรแกรมได้เองผ่านระบบออนไลน์ คุณสมบัติของกล้องจะหันได้เองตามจุดเคลื่อนไหว และผู้ควบคุมสามารถสั่งลบข้อมูลในเมมโมรี่ได้ กรณีเช่นนี้หากเจ้าของสั่งลบ ก็เป็นเรื่องไม่ง่ายนักที่จะกู้คืน แต่ตำรวจไซเบอร์มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านจะสามารถกู้ข้อมูลคืนได้
นอกจากนี้ผู้สื่อข่าว ได้รับข้อมูลเพิ่มเติมจากอาจารย์ที่สอนในวิทยาลัยดังกล่าว ว่า อดีตอาจารย์คนนี้ขณะรับราชการ เคยมีพฤติกรรมปีนห้องน้ำแอบถ่ายนักศึกษามาก่อน เหตุการณ์นี้เกิดมาร่วม 10 ปีแล้ว ภายหลังเจรจากับผู้เสียหายยอมความกันได้ ก็คิดว่าเลิกพฤติกรรมนี้ไปแล้ว หากเป็นไปตามที่นักศึกษาหญิงกล่าวหา ถือว่าบุคคลผู้นี้ไม่มีจิตวิญญาณของความเป็นครูแม้แต่นิดเดียว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'โตโน่ ภาคิน' สุดปลื้ม รับมอบเหรียญเชิดชูเกียรติสูงสุดชั้น 1 ของสปป.ลาว
ที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) โตโน่-ภาคิน คำวิลัย ศิลปิน ดารา นักร้อง นักแสดงชื่อดัง เข้าพิธีรับประดับเหรียญชัย ชั้น 1 ซึ่งเป็นเหรียญเชิดชูเกียรติสูงสุดของ สปป.ลาว
พ่อไม่ติดใจตำรวจจับตาย มือยิงประธานสภา อบต. รับลูกก่อเหตุเพราะเสพยาบ้า
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 20 หมู่ 7 บ้านต้าย ต.โพนจาน อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม ซึ่งเป็นบ้านของนายยุทธพล หมอกต้ายซ้าย หรือไอ้ยุทธ อายุ 49 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครพนม ฐานความผิดพยายามฆ่า หลังก่อเหตุใช้อาวุธปืนอาก้าจ่อยิงนายวินัย มณีรัตน์ อายุ 55 ปี ส.อบต.บ้านต้าย 3 สมัย และยังมีตำแหน่งประธานสภา
วิสามัญ คนร้ายยิงประธานสภา อบต. ยิงใส่ตำรวจก่อน เลยถูกตอบโต้ดับคาไร่อ้อย
นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.ขอนแก่น พร้อมด้วย พล.ต.ต.อนุวัตร สุวรรณภูมิ ผบก.ภ.จ.ขอนแก่น เข้าตรวจสอบการติดตามจับกุม นายยุทธพล หมอกต้ายซ้าย อายุ 49 ปี คนร้ายที่ก่อเหตุนายวินัย มณีรัตน์
จนท.ตรึงกำลัง ล่ามือยิงประธานสภา อบต. คนร้ายมีปืนอาก้า ระเบิดมือ
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า เกี่ยวกับกรณีคนร้ายใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดจ่อยิง นายวินัย มณีรัตน์ อายุ 55 ปี สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลโพนจาน บ้านต้าย หมู่ 7 (ส.อบต.ฯ ม.7) ต.โพนจาน อ.โพนสวรรค์
แม่เหยื่อคานก่อสร้างถล่ม เล่าทั้งน้ำตา อีกไม่กี่นาทีลูกชายก็จะเลิกงานแล้ว
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 145 หมู่ 9 ต.วังตามัว อ.เมือง จ.นครพนม ซึ่งเป็นบ้านของนายสำเริง พะพันทาง อายุ 48 ปี และ นางกันนิกา ทุมทอง อายุ 48 ปี พ่อแม่ของนายโจ้ผู้ตาย โดยพบว่าบริเวณหน้าบ้านได้มีกางเต็นท์
หนังเค็มอีสาน ดังไกลข้ามโลก เมืองนอกสั่งออเดอร์ โกยเดือนละแสน
หนังเค็มผลิตมาจากหนังควาย คือการถนอมอาหารตามแบบภูมิปัญญาชาวอีสาน มาหลายชั่วอายุคน เหมือนเป็นมรดกสืบทอดวัฒนธรรมการกิน ส่งจากรุ่นสู่รุ่นถึงปัจจุบัน โดยชาวอีสานมีวิถีชีวิตที่เรียบง่าย รวมถึงอาหารก็จะกินอย่างง่ายๆ และเพื่อให้สอดคล้องกับธรรมชาติ ชาวอีสานจึงรู้จักแสวงหาอาหารในท้องถิ่น