28 ต.ค.2566 - ที่ บก.สส.บช.น.พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. เปิดเผยว่าได้รับแจ้งจากผู้เสียหายว่า.นายธนาธร หรือมีน vogue ไฮโซเก๊นักต้มตุ๋น มีแผนประทุษกรรมใช้ใบหน้าหล่อเหลาของตัวเอง สร้างโปรไฟล์ในเพจเป็นหนุ่มไฮโซ เป็น CEO บริษัทสร้างบ้าน และกรรมการสำนักงานกฎหมาย คลังภาพอวดนาฬิกาเรือนแพง และมีรถหรู อีกทั้งอ้างว่ารู้จักไฮโซคนดังหรือผู้มีอำนาจ ลวงเหล่าบรรดาหญิงสาวในโซเชียลว่าได้เจอชายในฝันรักจริง และเมื่อนัดพบบางรายถูกลักเอาทรัพย์สิน ยืมเงิน โดยล่าสุดเหยื่อฐานะไม่ดีจะขอยืมเงิน 180 บาท โดยหลอกว่าเป็นค่าน้ำมันเพื่อขับรถไปรับ และเมื่อเหยื่อโอนเงินให้ก็ปล่อยทิ้งให้เธอยืนรอพบอยู่เป็นเวลา 6 ชั่วโมง จากการสืบสวนพบว่าก่อเหตุไม่ต่ำกว่า 30 ราย ความเสียหายกว่าล้านบาท ล่าสุด พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. สั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พร้อมนักสืบมือดีของสืบนครบาลไล่ล่าภัยผู้หญิงรายนี้และยังได้ความร่วมมือจากเพจชื่อดังร่วมกันติดตามไล่ล่าจนสามารถจับกุมคนร้ายได้ “ขณะกำลังจะก่อเหตุ” ขอรถของเหยื่อรายล่าสุด
เมื่อวานนี้ (27 ต.ค.66 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. , พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น./หัวหน้าชุด PCT 5 ,พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.พัชรดนัย การินทร์ ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.ธนากร อ่อนทองคำ ผกก.สส.4 บก.สส.บช.น. , พ.ต.ต.ทศรัสมิ์ กิติธารา , พ.ต.ท.มาโนชย์ ทองแก้ว , พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบนครบาล ได้ร่วมกันสืบสวนจับกุมนายกฤติเดช พงษ์ประภาส (ชื่อเดิม ธนาธร จิตตา) หรือ ธร , มีน , มิน , อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 352 ซ.ริมทางรถไฟบางซื่อ แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ จ.กรุงเทพฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับ 2 หมายจับ 1.หมายจับศาลอาญาที่ จ.11/2566 ลงวันที่ 7 ม.ค. 66 ข้อหา “ลักทรัพย์ใน” (พื้นที่ สน.มีนบุรี)
2.หมายจับศาลจังหวัดเชียงรายที่ จ.78/2566 ลงวันที่ 24 ม.ค. 66 ข้อหา “ปลอมเอกสารราชการ หรือใช้เอกสารราชการปลอม และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” พื้นที่ สภ.เมืองเชียงราย โดยกล่าวว่า ลักทรัพย์
พฤติการณ์กล่าวคือ ภัยร้ายผู้หญิงในโลกโซเชี่ยลมีอายุเพียง 27 ปี แต่ทักษะการต้มตุ๋นเข้าขั้นโดยมิจฉาชีพรายนี้จะเป็นที่รู้จักกันในนาม “ ธนาธร หรือ เสี่ยมีน vogue เจ้าตัวเป็นเด็กหนุ่มที่มีใบหน้าหล่อเหลาสร้างโปรไฟล์ในโลกโซเชียลเป็น “ไฮโซ” ทำทีถ่ายรูปกับรถหรูซึ่งไม่ใช่รถยนต์ตัวเอง หรือการโชว์สลิปการโอนเงินเยอะๆ หรืออวดนาฬิกาเรือนแพงขณะอยู่หลังพวกมาลัยรถหรู และอีกต่างๆมากมายที่เจ้าตัวจะสรรหามาทำ เพื่อประกาศความรวยของตัวเองในโลกโซเชียล อีกทั้งเจ้าตัวแอ็ดเพื่อน ตามเพจกับเหล่าบรรดาไฮโซคนดังที่มีตัวตนอยู่จริงเพื่อมาเสริมบารมีให้กับโปรไฟล์ของตัวเอง แล้ว ก็จะตระเวนไล่ป้อเหล่าหญิงสาวในโลกโซเชียล ทำให้ความสัมพันธ์เจ้าตัวกับเหยื่อก้าวไปสู่การนัดพบเจอได้อย่างง่ายโดยเมื่อถึงระดับการนัดพบ คนร้ายจะแต่งตัวดี ดูมีฐานะ เสมือนเป็นไฮโซจริง แต่ที่เหลือร้ายคือทักษะการสนทนาที่จะมักอวดอ้างว่าตนรู้จักไฮโซคนดังหรือผู้มีอำนาจ ในการนัดพบครั้งแรกๆมักพาเหยื่อหญิงสาวไป “เข้าวัดทำบุญ” สร้างภาพเป็นหนุ่มไฮโซหล่อรวย จิตใจสายบุญ เรียกได้ว่าทักษะการสร้าง First Impression ต่อเหยื่อหญิงสาวนั้นทำได้อย่างชำนาญสุดๆ พาเอาเหล่าบรรดาหญิงสาวเคลิบเคลิ้ม มโนไปว่าได้เจอชายในฝัน แต่เมื่อได้คบหากันพักหนึ่งก็จะเข้าสู่กระบวนการหลอกลวงเพื่อเอาทรัพย์สินโดยการเชือดอย่างไรนั้นจะขึ้นกับสถานการในความสัมพันธ์ทั้งสองในโซเชี่ยลแต่โดยส่วนใหญ่เหยื่อลักทรัพย์ หากเหยื่อหญิงสาวบางรายไหวตัวและเริ่มตีตัวออกห่าง คนร้ายไม่สามารถกินชิ้นเนื้อก้อนใหญ่ได้ ก็มักขโมยของขโมยทรัพย์สินต่างๆของเหยื่อ บางรายถูกยกตู้ ยกทีวี โดยเหยื่อรายบางรายเมื่อคนร้ายรู้ว่าเธอมีฐานะไม่ดี ก็ยังโทรมาขอยืมเงินเธออีก “180 บาท” โดยหลอกว่าเป็นค่าน้ำมันเพื่อขับรถไปรับ และเมื่อเหยื่อโอนเงินให้ก็ปล่อยทิ้งให้เธอยืนรอพบอยู่เป็นเวลา 6 ชั่วโมงเกินไป โดยคนร้ายรายนี้ตระเวนก่อเหตุในลักษณะนี้เป็นเวลาหลายปี ผู้เสียหายไม่ต่ำกว่า 30 ราย ความเสียหายไม่ต่ำกว่า 10,000,000 บาท
พบประวัติต้องก่อเหตุมาแล้วกว่า 8 คดี (และอีกไม่ต่ำกว่า 5 คดี ผู้เสียหายไม่ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดี)
1.วันที่ 11 ก.ค. 58 ก่อเหตุ ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน พื้นที่ สน.ดุสิต
2.วันที่ 31 มี.ค. 59 ก่อเหตุ ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน พื้นที่ สภ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม
3.วันที่ 23 ก.ค. 59 ก่อเหตุ ฉ้อโกง พื้นที่ สน.มีนบุรี
4.วันที่ 26 เม.ย. 60 ก่อเหตุ ฉ้อโกง พื้นที่ สภ.เมืองอุตรดิตถ์
5.วันที่ 19 มี.ค. 64 ก่อเหตุ ปลอมและใช้เอกสารราชการปลอมฯ พื้นที่ สภ.เมืองเชียงราย
6.วันที่ 11 พ.ย. 64 ก่อเหตุ ฉ้อโกง , นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ปลอมฯ พื้นที่ สน.สายไหม
7.วันที่ 31 ธ.ค. 64 ก่อเหตุ ลักทรัพย์ พื้นที่ สน.มีนบุรี
8.วันที่ 6 เม.ย. 65 ก่อเหตุ ฉ้อโกง พื้นที่ สน.ลุมพินี
เรื่องนี้ถึงหู พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. เร่งสั่งการ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. สืบสวนแกะรอย แต่งานนี้ไม่ง่ายอย่างที่คิดเมื่อคนร้ายมีทักษะประสบการณ์ก่อเหตุที่แยบยล และยังอัพเลเวลการหลบหนีการจับกุมเพราะเคยถูกจับกุมมาหลายครั้ง เรียกได้ว่าหายไปในกลีบเมฆชนิดไร้ร่องรอย กระทั่งชุดสืบสวนได้เบาะแสจากเพจ “บิ๊กเกรียน” ให้เบาะแสสำคัญจากเหยื่อรายหนึ่ง ซึ่งได้พบเห็นคนร้ายวิ่งจ๊อกกิ้งอยู่ในสวนรถไฟ พล.ต.ต.ธีรเดชฯ นำกำลังติดตามรอยเท้าเบาะแสไปจนได้พบกับ “เหยื่อรายล่าสุด” ซึ่งกำลังคบกับคนร้ายอยู่ ซึ่งชุดสืบสวนได้เบาะแสว่าคนร้ายกำลังจะหลอกเอารถยนต์ของเธอไปจำนำย่านเพชรเกษม ครานั้นอยู่ในช่วงดึกสงัดซึ่งชุดสืบสวนกำลังซุ่มโปร่งกันอยู่ ความกดดันเริ่มถาโถมเมื่อต้องแข่งกับเวลา ต้องจับให้ได้ก่อนก่อเหตุครั้งใหม่ พล.ต.ต.ธีรเดชฯ ทราบเพียงเบาะแสว่าคนร้ายอยู่ละแวกสวนรถไฟ ก่อนนำกำลังปูพรมทั่วพื้นที่กว่า 7 ชั่วโมง กระทั่งวันที่ 27 ต.ค. 66 เวลาประมาณ 16.00 น. จึงสามารถจับกุมตัวคนร้ายได้ โดยจับกุมตัวได้ที่ ซอยวิภาวดีรังสิต 17 แยก 10 แขวงจตุจักร เขตจตุจักร จ.กรุงเทพฯ ขณะที่คนร้ายกำลังจะพาเหยื่อรายล่าสุดลวงให้เหยื่อนำรถไปจำนำ ได้อย่างทันควัน
ในชั้นจับกุม นายกฤติเดช พงษ์ประภาส (ชื่อเดิม ธนาธร จิตตา) ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า “ตนเองจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ชีวิตของตนลำบากพ่อแม่แยกทางกันตั้งแต่อายุ 4 ขวบทำให้ขาดคนสั่งสอน เกิดความหลงผิด ลองผิดลองถูกเอง ตนเป็นหนุ่มหน้าตาดี ชอบถ่ายรูปกับรถหรู เป็นหนุ่มโปรไฟล์ดีในโลกออนไลน์ เลยมีผู้หญิงเข้ามาเยอะ ตนจึงมีแฟนหลายคนคบซ้อนพร้อมกัน 4-5 คน เมื่อมีผู้หญิงเข้ามาก็จะทำทีคบหากันเพื่อหลอกยืมเงิน โดยเคยยืมสูงสุดหลักล้านเพื่อไปเล่นพนันออนไลน์จนหมด ทำให้ชีวิตเกิดปัญหา เครียดไม่มีเงิน เกิดปัญหาชีวิตเรื่อยมา ส่วนเรื่องที่ถูกจับตอนนั้นปี 63 ตนได้ทะเลาะกับผู้หญิงคนนึงเรื่องยืมเงิน จนทำให้โทรทัศน์ในห้องผู้หญิงคนนั้นพังจึงยกออกไปขาย ยืนยันไม่ได้ขโมย ส่วนเรื่องคดีอื่นๆก็เป็นคดีเกี่ยวกับซื้อขายรถ ตนพยายามเคลียร์จนหมดแล้ว พร้อมเปิดหน้าเพื่อให้ผู้เสียหายเข้าแจ้งความ และอยากเตือนผู้หญิงในโลกออนไลน์ว่า อย่ามองคนที่ภายนอก เพราะความจริงอาจจะไม่เหมือนที่เห็นในโลกออนไลน์ และขอให้สัญญากับผู้การจ๋อว่าเมื่อพ้นโทษจะกลับตัวเป็นคนดี” หลังจับกุมตัว ได้นำส่งพนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมาย
พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า “เรายังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของภัยสังคมรายนี้ จากการขยายผลการจับกุมในขณะนี้เราพบพยานหลักฐานและพบข้อมูลเหยื่อและผู้ที่กำลังจะตกเป็นเหยื่ออีกไม่ต่ำกว่า 10 ราย จึงขอประชาสัมพันธ์ถึงผู้ที่เคยตกเป็นเหยื่อคนร้ายรายนี้ ให้แจ้งมาที่เฟสบุ๊คเพจ สืบสวนนครบาล IDMB เราจะปกปิดข้อมูลของคุณเป็นความลับ แม้ไม่ใช่คดีอุกฉกรรจ์ แต่หากเป็นความเดือดร้อนของประชาชน เราทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวดี ผู้เสียหายคดีดิไอคอนกรุ๊ป 'ปปง.' เปิดให้ยื่นขอคุ้มครองสิทธิรับคืนหรือชดใช้คืนทรัพย์สิน
ตามที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)ได้นำส่งมอบทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการสืบสวนและสอบสวนคดีพิเศษที่ 119/2567 กรณี บริษัท
ตำรวจแนะ 6 ข้อเพื่อให้ลอยกระทงปลอดภัย
ตร.เตือนลอยกระทงปลอดภัย แนะ 6 สิ่งต้องคำนึง ก่อนนึกถึงพระแม่คงคา
อุกอาจ! คนร้ายบุกยิง นายกเทศมนตรี ตำบลรือเสาะ เสียชีวิตในห้องประชุม
กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้รายงานเหตุ กรณีได้เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวนได้ใช้อาวุธปืนสงครามยิง นายวิเชษฐ์ นายกเทศ
ตร.แจ้ง 4 ข้อหาหนัก 'ลูกทนาย' ยิงเพื่อนดับคาที่ ผู้ต้องหาปฏิเสธ-พ่อตามประกบแจ
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเหตุการณ์อุจอาจที่เกิดขึ้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ กรณีนายนิติพันธ์ พวงสอน อายุ 37 ปี หรือเบียร์ ลูกท
เตือน 5 ผีร้ายวันฮาโลวีนหลอกจนหมดตัว!
ตำรวจออกโรงเตือนระวัง 5 ผีร้ายฮาโลวีน หลอกหลอนจนหมดตัว
ตำรวจแถลงจับ 'นัตตี้' ยูทูบเบอร์ดังพร้อมแม่ ตุ๋นเหยื่อเทรดหุ้น 2 พันล้าน หนีกบดานอินโดฯ
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) มอบหมายให้ พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รอง ผบช.สอท.