รวบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อ้างเป็นตำรวจหลอกเหยื่อติดตั้งแอปดูดเงินกว่า 3 ล้าน

ตำรวจไซเบอร์จับเพิ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์อ้างเป็นตำรวจ สภ.เมืองสุราษฎร์ หลอกผู้เสียหายติดตั้งแอปดีเอสไอดูดเงินสูญกว่า 3 ล้าน

20 ต.ค.2566 - พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3 พ.ต.อ.อภิรักษ์ จำปาศรี ผกก.1 บก.สอท.3 ได้นำกำลังสืบสวนจับกุม นาย เมธาพร ที่หน้าบ้านพัก หมู่ 1 ต.หลักเขต อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2565 น.ส.นลินี ผู้เสียหายซึ่งทำงานในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ได้รับโทรศัพท์จากมิจฉาชีพ แนะนำตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี อ้างว่ามีคนนำเอกสารผู้เสียหายปลอมแปลงเช่ารถยนต์ และเปิดบัญชี และแจ้งว่าผู้เสียหายเป็นผู้ต้องสงสัยเกี่ยวข้องกับการขนย้ายยาเสพติดและฟอกเงิน ให้ผู้เสียหายเพิ่มเพื่อนในแอปพลิเคชันไลน์ ใช้ชื่อว่า “สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี” ก่อนแล้วหลอกลวงให้โอนเงินเพื่อตรวจสอบความบริสุทธิ์ของเส้นทางการเงิน ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงได้โอนเงินไปในบัญชีที่มิจฉาชีพเตรียมไว้ จำนวน 500,000 บาท

จากนั้นมิจฉาชีพหลอกให้ติดตั้งแอปพลิเคชั่น ใช้ชื่อว่า "DSI ปลอดภัย” ทำให้สามารถควบคุมโทรศัพท์มือถือของผู้เสียหายได้ แล้วทำการโอนเงินไปหมดบัญชี รวมมูลค่าความเสียหาย 3,291,971.80 บาท ซึ่งเป็นเงินที่เป็นมรดก และเงินฌาปนกิจที่คุณพ่อพึ่งเสียชีวิต เมื่อเดือน พฤษภาคม 2565 และเงินทุนวิจัยในการศึกษาโครงการวิจัยเด็กปากแหว่งเพดานโหว่ ผู้เสียหายจึงมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับคนร้ายตามกฎหมายจนกว่าคดีจะถึงที่สุด

พ.ต.อ.อภิรักษ์ กล่าวว่า จากการสอบสวน นายเมธาพร ผู้ต้องหา รับสารภาพว่าทำหน้าที่เป็นคอลเซ็นเตอร์สายที่ 1 ใช้ระบบการโทรสุ่มอัตโนมัติโทรศัพท์ทำหน้าที่พูดคุยหลอกลวงผู้เสียหาย โดยจะแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี อ้างว่ามีคนปลอมเอกสารส่วนตัวของผู้เสียหายไปเช่ารถยนต์ โดยแก๊งคอลเซ็นเตอร์ขบวนการนี้ มีสำนักงานอยู่ในประเทศกัมพูชา จากการสืบสวนทราบว่ามีผู้ร่วมขบวนการทั้งสิ้น 28 ราย แบ่งหน้าที่กันทำ โดยมีหัวหน้าแก๊งเป็นคนจีน ทำหน้าที่สั่งการ จ่ายเงินเดือน บริหารควบคุมดูแลการทำงานของคอลเซ็นเตอร์ , ล่าม , พนักงานคอลเซ็นเตอร์ สาย 1 – 3 , พนักงานฝ่ายเอกสาร , ผู้แสดงเป็นตำรวจวีดีโอคอลกับเหยื่อ และผู้เปิดบัญชีรับโอนเงิน โดยก่อนหน้านี้ตำรวจไซเบอร์ บก.สอท.3 ได้ดำเนินการสืบสวนจับกุมได้แล้วรวม 13 ราย และจับกุม นายเมธาพร รายล่าสุด รวมเป็น 14 ราย ซึ่งอีก 14 รายที่เหลือ จะเร่งติดตามจับกุมมาดำเนินคดีโดยเร็วต่อไป

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

จับแล้ว! 2 แม่ลูก แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ลูบคม 'ปธ.กมธ.ตำรวจ'

พล.ต.ต.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 5 (ผบก.สอท.5) พ.ต.อ.อุกฤช ศรีนิติวรวงศ์ ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ

จ่อออกหมายเรียก 'เท้าแชร์กิ๊ฟซี่' โกงเหยื่อ 66 ราย เสียหาย 15 ล้าน

ร.ต.อ.พนัส โกรดประโคน รอง สว.(สอบสวน) สภ.บ้านกรวด ให้ข้อมูลว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างสอบปากคำผู้เสียหาย และรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง

สรุป'พีที กรังปรีซ์ฯ2024' สร้างเงินหมุนเวียนในบุรีรัมย์-อื่นๆ ประมาณ4,759 ล้าน

สรุปผลกระทบทางเศรษฐกิจ (สร้างเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ) PT Grand Prix of Thailand 2024 ระหว่างวันที่ 25 – 27 ต.ค. 67 ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต

'ก้อง'บิดแซงสุดระห่ำ ออกสตาร์ทที่13จบอันดับ4 ศึก'ไทยจีพี 2024'บุรีรัมย์

“ก้อง” สมเกียรติ จันทรา ยอดนักบิดขวัญใจชาวไทยจากโครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” สวมหัวใจ “พยัคฆ์คำราม” ลงบิดโฮมเรซต่อหน้าแฟนๆ ชาวไทยที่ร่วมส่งกำลังใจเชียร์ บู๊ไล่แซงสุดโหดจากกริด 13 ทะยานคว้าอันดับ 4 หลังเกิดธงแดง 2 รอบสุดท้าย ในศึก โมโตทู เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ 2024 สนาม 18 รายการ พีที กรังด์ปรีซ์ ออฟ ไทยแลนด์ ท่ามกลางเสียงเชียร์กระหึ่มก้อง สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์

'ไทยจีพี'เปิดฉากสุดโหด ทุบสถิติสนามช้างฯทุกรุ่น 'มาร์เกซ'เร็วสุด'พรีเมียร์คลาส'

ทัพนักบิดระดับพระกาฬของโลกพร้อมหน้า ประเดิมลงสนามวันแรก ต่อหน้าแฟนความเร็วชาวไทยที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ในศึก โมโตจีพี สนาม 18 ในศึก PT Grand Prix of Thailand 2024 พร้อมโชว์ความเร็วสุดโหดทุบสถิติทุกรุ่น “มาร์ค มาร์เกซ” แชมป์โลก 8 สมัยชาวสแปนิชจาก เกรซินี เรซซิ่ง รั้งจ่าฝูงในรุ่นใหญ่ ส่วน ขณะ “แอรอน คาเน็ต” รั้งหัวแถว โมโตทู ด้าน “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา นักบิดไทย รั้งอันดับ 14 ส่วนรุ่น โมโตทรี เป็น “ดาวิด อลอนโซ” แชมป์โลกคนใหม่ถอดด้ามครองหัวแถว

นักบิดโมโตจีพี ถึงบุรีรัมย์ ลุยทัวร์ย้อนยุค ชมปราสาทหินเมืองต่ำ ชิมอาหารพื้นบ้าน

6 สุดยอดนักบิดของโลก เดินทางถึงบุรีรัมย์แล้ว เตรียมสู้ศึกโมโตจีพี 2024 ตะลุยกิจกรรมต้อนรับ พาทัวร์ย้อนยุค “ปราสาทหินเมืองต่ำ”