14 ธ.ค.2564 - ที่หน้าห้องสืบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ พล.ต.ต.รุทธพล เนาวรัตน์ ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ สมกิจศิริ ผกก.สภ.เมืองบุรีรัมย์ พ.ต.ท.ภาณุวัฒน์ มากมูล รอง ผกก.สส.สภ.เมืองบุรีรัมย์ แถลงข่าวผลการจับกุมตัว นายชัยวัฒน์ วรรณะวัลย์ อายุ 60 ปี อาศัยอยู่ที่ ซ.พหลโยธิน 48 แยก 17/1 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพฯ ได้ขณะหลบหนีมากบดานซ่อนตัวอยู่ที่บ้านพักเลขที่ 49 หมู่ 9 ต.นาขาม อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ พร้อมของกลางจำนวนหลายรายการ ประกอบด้วย เครื่องฉายโปรเจกเตอร์ จำนวน 2 เครื่อง , กล้องจุลทรรศน์ จำนวน 6 กล้อง ,โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง , สายไฟ จำนวน 7 เส้น และนาฬิกาข้อมือ อีกจำนวน 1 เรือน
หลังจากก่อนหน้านี้ ผศ.กิตติศักดิ์ นามวิชา รองคณบดีฝ่ายบริหารและวางแผน คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎบุรีรัมย์ เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์ ว่ามีคนร้ายไม่ทราบจำนวน ได้เข้าไปก่อเหตุลักเอาเครื่องมือปฎิบัติการทางวิทยาศาสตร์ ภายในอาคารคณะวิทยาศาสตร์ ไปจำนวนหลายรายการ ได้แก่ กล้องจุลทรรศน์ จำนวน 10 เครื่อง เครื่องฉายโปรเจคเตอร์ จำนวน 2 เครื่อง และเครื่องมืออื่นๆอีกจำนวนหนึ่ง รวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 540,000 บาท เหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นวันที่ 26 พ.ย.64 ที่ผ่านมา
จากนั้น พ.ต.ท.ภาณุวัฒน์ มากมูล รอง ผกก.สส.สภ.เมืองบุรีรัมย์ พร้อมฝ่ายสืบสวนได้ทำการสืบสวนติดตาม จนทราบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุในคดีนี้คือ นายชัยวัฒน์ วรรณะวัลย์ อายุ 60 ปี อดีตเคยเป็นเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.กาฬสินธุ์ และยังเคยรับจ้างติดตั้งเครื่องมือปฎิบัติการทางวิทยาศาสตร์ กับเครื่องมืออุปกรณ์ห้องแล็ป ให้กับสถานศึกษาและสถานพยาบาลมาแล้วหลายแห่ง และเคยถูกจับกุมตัวดำเนินคดีมาแล้วในคดีลักทรัพย์ เครื่องมือปฎิบัติการทางวิทยาศาสตร์ในพื้นที่ จ.ราชบุรี และเพิ่งพ้นโทษออกมาได้ประมาณ 1 ปี ก่อนจะมาก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวอีก
จากการสืบสวนทราบว่าตัวนายชัยวัฒน์ ได้พักอาศัยอยู่ที่บ้านพักใน อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ จึงได้ขออนุญาตศาลอนุมัติหมายจับ และสามารถจับตัวได้ในเวลาต่อมาพร้อมของกลางดังกล่าว และยังพบมีอุปกรณ์เกี่ยวกับเครื่องมืออุปกรณ์ห้องแล็ปอยู่ในบ้านอีกหลายรายการ จึงทำการตรวจยึดมาตรวจสอบ ซึ่งเบื้องต้นในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ส่วนสาเหตุเนื่องจากตัวของนายชัยวัฒน์ รู้ว่า อุปกรณ์เครื่องมือดังกล่าว นั้นมีราคาแพง ชิ้นหนึ่งมีมูลค่าหลักหมื่นถึงหลักแสนบาท หากนำไปจำหน่ายยังตลาดมืด ก็ยังสามารถจำหน่ายได้ในราคาสูง จึงเป็นเป็นเหตุจูงใจให้ก่อเหตุลักทรัพย์ดังกล่าว
ทั้งนี้ ตำรวจได้นำตัวนายชัยวัฒน์ ต้องหาที่ก่อเหตุรายนี้ ส่งพนักงาน สภ.เมืองบุรีรัมย์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อหา “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ในสถานที่ราชการ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ป้า 67 ป่วยหลายโรค หาบเร่ขายของเลี้ยงชีพ หวังได้เงินหมื่น เฟส 2 หวั่นตกหล่น บัตรคนจนก็ไม่มี
บุรีรัมย์ ป้า 67 ป่วยความดัน มีก้อนเนื้อที่คอ แต่ต้องหาบเร่ขายของเลี้ยงชีพและลูกพิการ หวังได้เงินหมื่น เฟสสอง มาแบ่งเบา
ไก่ตายปริศนา คืนเดียว 12 ตัว พบพฤติกรรมคล้ายพังพอน ป้ายังเชื่อฝีมือผีกระสือ
ปศุสัตว์ จ.บุรีรัมย์ พร้อมปศุสัตว์อำเภอละหานทราย กำนัน และ ผญบ. ลงพื้นที่ตรวจสอบไก่ตายปริศนาคืนวันพระคืนเดียว 12 ตัว
ชาวนารับจ้างอัดก้อนฟางข้าว โกยรายได้งามช่วงหาซื้อยาก ราคาแพง
ชาวนาที่ จ.บุรีรัมย์ นำรถไถนาขนาดใหญ่ มาดัดแปลงติดตั้งเครื่องอัดฟาง ออกบริการรับจ้างอัดก้อนฟางข้าว จากชาวนาเพื่อนบ้าน
ตำรวจตรังจับมือร้านขายของเก่า ช่วยบรรเทาทุกข์ปชช.
ตำรวจตรังแก้ปัญหาโจรลักขโมยทรัพย์สินทางราชการ และทรัพย์สินประชาชน นำไปขายร้านรับซื้อของเก่า ระดมเจ้าของร้านทั่วเมืองช่วยสกัดมิจฉาชีพขอหลักฐานก่อนรับซื้อ
ชาวนาต้นทุนกระฉูด! ปุ๋ยคนละครึ่งไม่ตอบโจทย์
บุรีรัมย์ ชาวนา เรียกร้องให้รัฐบาล ช่วยค่าเก็บเกี่ยวไร่ละพัน แบ่งเบาภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้น แต่ยังขายได้ราคาต่ำ