"โกศลวัฒน์" โฆษกอัยการ เผย "วิรุฬห์" อธิบดีอัยการคดีพิเศษ ยื่นฟ้องเเล้ว บอสตาล เจ้าของ ลำพูนวอริเออร์ กับพวก จัดเล่นพนันออนไลน์ฟอกเงินพันล้าน
12 ก.ย.2566 - ที่สำนักงานอัยการคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่าได้รับทราบจาก นายวิรุฬห์ ฉันท์ธนนันท์ อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ ถึงความคืบหน้าในคดีที่ เมื่อวันที่ 30 ส.ค.ที่ผ่านมา ทางสำนักงานอัยการคดีพิเศษได้รับสำนวนการสืบสวนคดีอาญาที่ 616/2564 จาก พนักงานสอบสวน สน.มักกะสัน เป็นคดีระหว่าง พ.ต.อ.จิรพงศ์ รุจิรดำรงชัยกล่าวหา นายพงษ์ศิริ ฐาราชวงศ์ศึก หรือบอสตาล ประธานสโมสรฟุตบอลลำพูนวอริเออร์ กับพวกรวม 6 คน ผู้ต้องหา ในข้อหา ร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นซึ่งมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน ร่วมกันฟอกเงิน สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน
โดยพนักงานสอบสวนได้มีความเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 6 คน ตามข้อกล่าวหาดังกล่าวเเละได้ส่งตัวผู้ต้องหาที่จับได้มาจำนวน 2 คน คือ นายพงษ์ศิริ ฐาราชวงศ์ศึก ผู้ต้องหาที่ 1 และนายพัสกร หรือกันต์ธร จันมะโยม ผู้ต้องหาที่ 3 ฝากขังต่อศาล
ส่วนผู้ต้องหาอีก 4 คน คือ นายดนุพล ดอกจันทร์ ผู้ต้องหาที่ 2 นางสาวศิริรัตน์ กองแสง ผู้ต้องหาที่ 4 นายสหภาพ สู่ทองไทย ผู้ต้องหาที่ 5 และนายดำริ สุปัญโญ ผู้ต้องหาที่ 6 อยู่ระหว่างหลบหนียังไม่ได้ตัวมาดำเนินคดี ซึ่งนายวิรุฬห์ ฉันท์ธนนันท์ อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ ได้มีคำสั่งตั้งคณะทำงานโดยมอบหมายให้สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 5 เป็นผู้รับผิดชอบสำนวนคดี
โดยคดีนี้มีพยานหลักฐานเชื่อมโยมว่า นายพงษ์ศิริ ฐาราชวงค์ศึก ผู้ต้องหาที่ 1 กับพวก ได้ร่วมกันจัดให้มีการเล่นการพนันในรูปแบบต่างๆ โดยประกาศโฆษณาหรือชักชวน ให้ประชาชนทั่วไปหรือผู้อื่นเข้าเล่นพนันในโซเซียล ผ่านทางเฟซบุ๊ก เวปไซต์ และ แอพพลิเคชั่น LINE อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติการพนันฯ ในลักษณะแบ่งหน้าที่กันทำ โดยจัดได้เป็นหลายกลุ่ม คือ
1.กลุ่มบุคคลที่มีหน้าที่ดูแล จัดการและชักชวนให้ประชาชนทั่วไปเข้าเล่นการพนันออนไลน์
2.กลุ่มบุคคลที่เป็นเจ้าของบัญชีเงินฝากที่ใช้ในการจัดให้มีการเล่นพนันออนไลน์ ที่รับโอนเงินจากการเล่นการพนัน บัญชีรับแทง บัญชีโอนจ่าย และบัญชีโอนผลประโยชน์
3.กลุ่มบุคคลผู้รับผลประโยชน์ ซึ่งในการร่วมกันจัดให้มีการเข้าเล่นการพนันเข้าเล่นในลักษณะดังกล่าว พบว่ามีวงเงินหมุนเวียนมูลค่าเป็นหลักพันล้านบาท และเป็นการจัดให้มีการเล่นทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยมิได้ รับอนุญาต อันเป็นความผิดมูลฐานตาม พรบ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินพ.ศ. 2542
ทั้งนี้จากการสอบสวนพบว่ามีพยานหลักฐานของเส้นทางการเงิน ซึ่งมีความเชื่อมโยงกันในระหว่างกลุ่มของผู้ต้องหาทั้งหกและบุคคลอื่น โดยการกระทำของกลุ่มผู้ต้องหานั้นมีลักษณะการแบ่งหน้าที่กันทำและ มีการโอนเงินกันเป็นทอดๆ ทั้งนี้โดยมีเจตนาเพื่อซุกซ่อนหรือปกปิดแหล่งที่มาของทรัพย์สินนั้น หรือเพื่อ อำพรางลักษณะที่แท้จริงการได้มา แหล่งที่ตั้ง การจำหน่าย การโอน ซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด หรือให้ได้มา ครอบครอง หรือใช้ทรัพย์สิน โดยรู้ในขณะที่ได้มา ครอบครอง หรือใช้ทรัพย์สินนั้นว่าเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด อันเป็นการร่วมกันสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคน ขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน
คณะทำงานพนักงานอัยการได้พิจารณาแล้วเห็นว่า เนื่องจากพยานหลักฐานในคดีเกี่ยวข้องกับผู้ต้องหาและบุคคลภายนอกอีกจำนวนหลายคนมีความเชื่อมโยงกันเกี่ยวกับเส้นทางการเงิน ความสัมพันธ์และการติดต่อสื่อสารระหว่างกัน คณะทำงานจึงมีคำสั่งให้สอบสวนเพิ่มเติมเมื่อวันที่ 6 ก.ย. 2566 ส่งให้พนักงานสอบสวน ในประเด็นเกี่ยวกับเส้นทางการเงินและความสัมพันธ์ระหว่างกัน บุคคลใกล้ชิดหรือรู้จัก ร่วมทำธุรกิจหรือได้ประสานงานกัน ผู้ถือหุ้นหรือกรรมการในบริษัทต่างๆที่เกี่ยวข้องในคดี รวมถึงบุคคลอื่นใดที่เกี่ยวข้องทั้งหมด และในประเด็นเรื่องการติดต่อสื่อสารระหว่างผู้ต้องหาหรือบุคคลที่ต้องสงสัยทางโซเชียลมีเดียหรือวิธีการอื่นเพื่อหาพยานหลักฐานที่บ่งชี้ถึงการกระทำความผิดและความเกี่ยวพันระหว่างผู้กระทำความผิดซึ่งเกี่ยวข้องกับการร่วมกันฟอกเงิน หรือร่วมกันจัดให้มีการเล่นการพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าวในคดีนี้ และคณะทำงานจะดำเนินคดีกับบุคคลอื่น ที่เกี่ยวข้องและร่วมกระทำความผิดดังกล่าวต่อไป
เนื่องจากคดีนี้จะครบกำหนดระยะเวลาฝากขังครั้งที่ 7 สำหรับผู้ต้องหาที่ 1 และผู้ต้องหาที่ 3 ซึ่งเป็นครั้งสุดท้ายในวันที่ 13 ก.ย. โดยพนักงานสอบสวนยังไม่ได้ส่งผลการสอบสวนเพิ่มเติมมาครบถ้วน แต่คณะทำงานเห็นว่าคดีมีพยานหลักฐานพอฟ้องผู้ต้องหาที่ 1 และผู้ต้องหาที่ 3 ตามข้อกล่าวหา คณะทำงานจึงมีความเห็นและคำสั่งฟ้องและยื่นฟ้องนายพงษ์ศิริ ฐาราชวงศ์ศึก ผู้ต้องหาที่ 1 และนายพัสกร หรือกันต์ธร จันมะโยม ผู้ต้องหาที่ 3 ตามข้อกล่าวหาในวันนี้
โดยศาลรับคำฟ้องเป็นคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ.2731/2566 เพื่อกำหนดวันนัดสอบคำให้การต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ไม่รอด! ศาลสั่งจำคุก-ริบรถยนต์ เจ้าของเทสล่าหัวร้อนขับป่วนบนทางด่วน
ที่ศาลแขวงดุสิต ซอยสีคาม ถนนนครไชยศรี พนักงานอัยการสำนักงานคดีศาลเเขวง ได้ยื่นฟ้อง นายปิติพัฒน์ กาญจนภาณุรัช ในข้อหา ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย
แจ้งข้อหาเพิ่ม 'ทนายตั้ม' ปมเงิน 39 ล้าน หลังรวบคนสนิทร่วมฉ้อโกง-ฟอกเงิน
พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผู้บังคับการปราบปราม เปิดเผยถึงปมเงิน 39 ล้านบาทของ น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือ มาดามอ้อย แจ้งความดำเนินคดี ว่า ด้านตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน โดยวันที่ 11 พ.ย. 67
'ผบช.ก.' แถลงจับหมอดูชื่อดัง 'ตี่ลี่ฮวงจุ้ย' แจ้ง 2 ข้อหาหนัก
'บิ๊กก้อง' แถลงจับ 'หมอดูตี่ลี่ฮวงจุ้ย' ตุ๋นเหยื่อซื้อวัตถุมงคลแก้เคล็ดกว่า 108 ล้าน เอาไปเล่นพนัน แจ้ง 2 ข้อหา 'ฉ้อโกง-ฟอกเงิน' พร้อมยึดรถหรู 2 คัน
คุมตัว 'ทนายตั้ม-เมีย' ฝากขังศาลอาญา คัดค้านประกันตัว
ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ภายหลังจากที่เจ้าหน้าที่ทำการเบิกตัว นายษิทรา เบี้ยบังเกิด และ นางปทิตตา เบี้ยบังเกิด ภรรยาของนายษิทรา มาสอบปากคำเพิ่มเติมเมื่อช่วงเช้า กระทั่งเวลา 13.30 น.พนักงานสอบสวน ได้นำตัว ทนายษิทรา พร้อมภรรยา ไปฝากขังที่ศาลอาญา ถนนรัชดา
ผู้ช่วย ผบ.ตร. เผย 'ทนายตั้ม' เตรียมหนีออกนอกประเทศ ประสานตร.ทางหลวงสกัดจับ
พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงการจับกุม ทนายตั้มและภรรยา ว่าคดีดังกล่าว ทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติกำชับให้ตนเข้ามาดูแล
คุมตัว 'ทนายตั้ม-เมีย' ถึงกองปราบ-คัดค้านการประกันตัว
ที่กองบังคับการปราบปราม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัว นายษิทรา เบี้ยบังเกิด และ นางปทิตตา เบี้ยบังเกิด ภรรยาของนายษิทรา ผู้ต้อง