5 ก.ย.2566- เมื่อเวลา 23.30 น. วันที่ 4 กันยายน 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ รับแจ้งมีผู้ได้รับบาดเจ็บถูกแทง บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 202/220 หมู่บ้านการเคหะเมืองใหม่บางพลี ซอย 6 หมู่ 16 ตำบลบางเสาธง อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ชีพโรงพยาบาลบางบ่อ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู เดินทางไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุ ภาพจากกล้องวงจรปิดภายในบ้านพักหลังหนึ่ง สามารถจับภาพได้ ขณะที่มีคนร้ายเป็นชายหนึ่งคนสวมชุดสีดำ เดินผ่านหน้าบ้านที่ติดกล้อง จากนั้นไม่นานก็จะเห็นว่ามีสองสามีภรรยาขี่รถจักรยานยนต์ตามหลังคนร้ายไป ไม่นานภาพจากกล้องวงจรปิดมุมเดิมจับภาพได้ขณะที่คนร้ายคนเดิมกำลังวิ่งหลบหนี หลังจากไปก่อเหตุใช้มีดแทงกลางอกของสามีที่ขี่รถจักรยานยนต์ผ่านกล้องวงจรปิดตัวนี้ไป
ที่เกิดเหตุพบ นาย พรเทพ ศรีวรรณ อายุ 29 ปี ชาวอำเภอเมืองสรวง จังหวัดร้อยเอ็ด นอนหายใจโรยรินอยู่บนพื้นถนนกลางซอย มีบาดแผลถูกมีดแทงที่กลางอก เจ้าหน้าที่กู้ชีพให้การช่วยเหลือปฐมพยาบาลเบื้องต้น และทำการปั้มหัวใจเพื่อยื้อชีวิต ก่อนจะเร่งเคลื่อนย้ายนำส่งโรงพยาบาลจุฬารัตน์ 5 ต่อมานาย พรเทพ ทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตในเวลาต่อมาที่โรงพยาบาล นางสาว ศิริพร สิงห์ขัน อายุ 37 ปี ภรรยาของผู้เสียชีวิต ซึ่งกำลังตั้งครรภ์ได้ 8 เดือน ได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่าทั้งสองข้าง และที่ริมฝีปากเป็นแผลแตก เจ้าหน้าที่ให้การช่วยเหลือปฐมพยาบาลก่อนเร่งนำส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ยามาฮ่า ฟีโน่ สีขาว-น้ำเงิน 1 กม 2390 สมุทรสาคร ล้มอยู่กลางซอย บริเวณที่พักเท้าพบถุงกับข้าว ห่างไปไม่ไกลพบต้นกัญชาปลูกอยู่หน้าบ้านที่เกิดเหตุมีรอยถูกตัดยอดออกไปจนหมด
จากการสอบถาม นางสาว ศิริพร ภรรยาของผู้เสียชีวิต เล่าว่า ตนเองและสามีพักอยู่ที่บ้านเช่าในซอยดังกล่าว ขณะที่เธอและสามีกลับมาจากซื้ออาหารจะกลับเข้าบ้านเพื่อพักผ่อน จนขับรถมาจะถึงบ้านพักอยู่แล้ว สังเกตเห็นว่ามีชายวัยกลางคนรายหนึ่งกำลังยืนตัดต้นกัญชาของเพื่อนบ้านที่ปลูกเอาไว้หน้าบ้าน จึงชะลอรถหันไปดู ไม่ทันได้พูดอะไร คนร้ายได้ถามกลับมาว่ามึงเป็นใคร จากนั้นชักมีดพยายามแทงใส่ตนเอง จนสามีต้องเร่งเครื่องบิดหนีตาย แต่ไปไม่ไกลรถเสียหลักล้ม คนร้ายจึงตามมาหมายจะแทงตนเอง แต่สามีโดดเข้ามาขวางรับมีดแทนตนเอง จึงทำให้สามีถูกมีดแทงที่กลางอก ส่วนคนร้ายก็วิ่งหลบหนีไป ยืนยันว่าไม่เคยรู้จักรหรือเห็นหน้าคนร้ายคนนี้มาก่อน ส่วนเจ้าของบ้านต้นกัญชานั้นไม่ใช่ของคนร้ายเพราะบ้านที่ปลูกกัญชานั้นอยู่ห่างจากบ้านที่ตนเองเช่าแค่สี่หลัง
ด้านชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์บอกว่า คนร้ายรายนี้มาขโมยตัดต้นกัญชาซึ่งเป็นจังหวะที่สองผัวเมียกลับมาเจอพอดีจึงถูกคนร้ายแทงจนบาดเจ็บสาหัสและไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล
นายคมกริช คำวง อายุ 30 ปี คนออกมาเห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ตนนั่งอยู่ในบ้านได้ยินเสียงดังโครมคล้ายรถล้ม และมีเสียงคนเขย่ารั้วบ้าน ต่อมามีเสียงดังโวยวาย ตนได้แต่แอบดูทางหน้าต่างเพราะกลัวอันตราย พอเหตุการณ์สงบเดินออกมาพบรอยเลือดที่หน้าบ้านจำนวนมาก จึงเดินออกดูตรงทางถนนกลางซอย พบผู้บาดเจ็บนอนกระอักเลือดอาการสาหัส
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เบาะแสว่าผู้ก่อเหตุ คือ นายอนุ บุญกลั่นสอน อายุ 33 ปี มีบ้านพักในซอย ซี 3 ซึ่งอยู่ห่างจากซอยที่เกิดเหตุเพียง 200 เมตร เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำกำลังทั้งสายตรวจและอาสาสมัครกว่า 50 นาย ปิดล้อมบ้านพักของคนร้ายรายนี้ ซึ่งทันที ที่คนร้ายรายนี้ เจอกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปีนหนีออกหลังบ้านก่อนจะขึ้นไปบนหลังคาบ้านข้างเคียงโดยมีมีดติดตัวอย่างน้อย 2 เล่ม และไม่ยินยอมให้ใครเข้าใกล้ ตำรวจจึงปิดล้อมและกันผู้ไม่เกี่ยวข้องออกห่างจากที่เกิดเหตุ เพื่อป้องกันอันตราย โดยจากการตรวจสอบภายในบ้านผู้ก่อเหตุพบมีดทำครัว 1 เล่ม ใบกัญชาจำนวนมาก และ หม้อต้มน้ำกัญชาผสมใบกระท่อม 1 หม้อ เจ้าหน้าที่จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน
เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามเกลี้ยกล่อมผู้ก่อเหตุให้ยอมวางมีดและมอบตัว แต่ก็ไม่เป็นผล เนื่องจากผู้ก่อเหตุรายนี้มีอาการหลอนกัญชาจนพูดจาไม่รู้เรื่อง และพูดจาโวยวายเพียงลำพังตลอดเวลา ไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้ ถึงแม้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำทีส่งบุหรี่และน้ำดื่มให้กับผู้ก่อเหตุ เพื่อหวังให้ลงมารับน้ำดื่ม แต่ก็ไม่เป็นผล จนกระทั่งเวลาผ่านไปกว่า 3 ชั่วโมง ท่ามกลางแรงกดดันจากประชาชนจำนวนมาก เนื่องจากผู้ก่อเหตุเพิ่งไปก่อเหตุฆ่าตนตายและพยายามแทงคนท้องมา
จนกระทั่ง เมื่อ เวลา 02.40 น. วันที่ 5 กันยายน 2566 พ.ต.อ.โสภณ มงคลโสภณรัตน์ ผกก.สภ.บางเสาธง ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนใช้กระสุนยางเตรียมความพร้อมอาศัยจังหวะที่ผู้ก่อเหตุรายนี้เผลอและพอสบโอกาสจึงยิงกระสุนยางใส่คนร้ายไป 3 นัด จนสามารถเข้าชาร์จจับกุมคนผู้ก่อเหตุรายนี้ได้สำเร็จ ท่ามกลางเสียงปรบมือของชาวบ้าน ใช้เวลาในการปิดล้อมจับกุมกว่า 3 ชั่วโมง จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวผู้ก่อเหตุส่งโรงพยาบาล เพื่อให้แพทย์ตรวจร่างกายก่อนอายัดตัวเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ด้าน มารดาของผู้ก่อเหตุ บอกว่า ผู้ก่อเหตุมีอาการป่วยเป็นจิตเวชจาการใช้สารเสพติดอย่างหนักมาก่อนหน้านี้จนต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลเจ้าสมเด็จเจ้าพระยา จนกระทั่งอาการดีขึ้นจึงกลับมาพักที่บ้าน แล้วไปรับยาที่โรงพยาบาลบางพลีมาทาน แต่มาในระยะหลังไม่ทานยาตามที่หมอสั่งและหันกลับไปเสพกัญชาอีกจนเกิดอาการประสาทหลอน หงุดหงิดโมโหร้าย แต่ก็ไม่เคยคุมคลั่งแบบนี้มาก่อน เพิ่งมาเกิดเรื่องก็ครั้งนี้.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ตำรวจตรังจับมือร้านขายของเก่า ช่วยบรรเทาทุกข์ปชช.
ตำรวจตรังแก้ปัญหาโจรลักขโมยทรัพย์สินทางราชการ และทรัพย์สินประชาชน นำไปขายร้านรับซื้อของเก่า ระดมเจ้าของร้านทั่วเมืองช่วยสกัดมิจฉาชีพขอหลักฐานก่อนรับซื้อ
สลด! หนุ่มเมียนมา ชะตาขาด ไฟดูดดับคาไซต์งานก่อสร้าง
ร.ต.อ.เกษม เพชรพิมานสมุทร รองสารวัตรสอบสวน สภ.คลองด่าน รับแจ้งเหตุมีคนถูกไฟฟ้าดูด ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดหน้าไซต์งานก่อสร้างทางลอดสายไฟฟ้าใต้ดิน
หดหู่ใจ! โจรบุกวัดดัง ขโมยโกศทองเหลือง เทกระดูกคนตายทิ้งไว้
พระธรรมรัตน์ กันฺตธมโม พระลูกวัดบางหลง หมู่ 9 ตำบลท่ายาง อ.เมือง จ.ชุมพร แจ้งตำรวจสายตรวจปากน้ำชุมพร ว่ามีคนร้ายบุกเข้ามาลักโกศทองเหลือง
พฤติกรรมแย่! เก๋งไม่ยอมหลบรถกู้ชีพ แถมเบรกใส่ ไปถึงผู้ป่วยเสียชีวิต
จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์ข้อความว่า "ในขณะที่กำลังจะไปเคสผู้ป่วยหมดสติ ทั้งเสียง ทั้งไฟ ทั้งประกาศไมค์ ทั้งบีบแตร ก็ยังไม่หลบ
หนุ่มปากน้ำโดนยิงสาหัส ซิ่งจยย.หนีตาย 10 กม. ขอความช่วยเหลือชาวบ้าน
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สำโรงเหนือ รับเหตุยิงกันบริเวณอู่รถเมล์เก่า ริมถนนสุขุมวิท ทิศทางมุ่งหน้าปากน้ำ ตำบลเทพารักษ์ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ
หัวร้อน! ไรเดอร์รอนานด่าหยาบ เจ้าของร้านฉุนใช้กระบวยตี เจอถีบกลับเจ็บทั้งคู่
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีเหตุทะเลาะวิวาทกัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ บริเวณร้านข้าวต้ม ปากซอยเทศบาลบางปู 70