ป.ป.ส.ขยายผลเครือข่ายส่งยาเสพติดผ่านพัสดุไปต่างประเทศ ยึดทรัพย์ 2 ล้านบ.

7 ส.ค.2566-นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวถึงการขยายผลปิดล้อมตรวจค้น 3 จุด ในจังหวัด กรุงเทพฯ จันทบุรี และระยอง  เพื่อติดตามผู้ต้องหาหลบหนีหมายจับ 2 ราย ยึดทรัพย์สินได้กว่า 2,010,000 บาทว่า การขยายผลปิดล้อมดังกล่าว เป็นปฏิบัติการของหน่วยสกัดกั้นยาเสพติดพื้นที่ท่าอากาศยาน (AITF) และหน่วยสกัดกั้นยาเสพติดพื้นที่ท่าเรือ (SITF) ที่เป็นความร่วมมือของ กรมศุลกากร กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ศูนย์รักษาความปลอดภัย และ สำนักงาน ป.ป.ส. 

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 25 เม.ย.2566  หน่วย AITF ได้จับกุมนายสุรพงศ์ (สงวนนามสกุล) พร้อมเฮโรอีน น้ำหนัก 2.8 กก. ซุกซ่อนในผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร คอลลาเจนผสมรังนก จำนวน 19 ถุง บรรจุอยู่ในพัสดุระหว่างประเทศ จำนวน 2 กล่องเตรียมจัดส่งปลายทางประเทศออสเตรเลีย เหตุเกิดที่ บริษัทขนส่งสินค้าเอกชน เขตบึงกุ่ม กทม.

หลังจากการจับกุมตนได้มอบหมายให้ นายปฤณ เมฆานันท์ ผู้อำนวยการสำนักปราบปรามยาเสพติด ติดตามขยายผลอย่างใกล้ชิด จนกระทั่งสืบสวนทราบว่าเครือข่ายดังกล่าวมี นายภูธฤทธิ์ หรือ บอส มีบทบาทเป็นผู้สั่งการ และ น.ส.มัทนา หรือ จ๋อม มีบทบาท เป็นผู้นำยาเสพติดมาส่งให้ นายสุรพงศ์ ชุดปฏิบัติการจึงได้นำหมายค้นเค้าปิดล้อมตรวจค้นใน 3 จุด (กทม. จันทบุรี ระยอง) ซึ่งผู้ต้องหาตามหมายจับไหวตัวหลบหนีไปได้ โดยเจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับผู้ต้องหาได้แก่ บ้านพร้อมที่ดิน, รถยนต์, ตู้เซฟ และสมุดบัญชีธนาคาร รวมมูลค่าทรัพย์สินประมาณ 2,010,000 บาท และพบถุงที่ใช้ใส่ยาเสพติดและอุปกรณ์การเสพ ในอพาร์ทเม้นในพื้นที่ จ.ระยอง ซึ่งสำนักงาน ป.ป.ส. จะดำเนินการสืบสวนพิสูจน์ทราบที่พักของผู้ต้องหาตามหมายจับทั้ง 2 คน เพื่อติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า กลุ่มลักลอบขนส่งยาเสพติดผ่านพัสดุไปยังต่างประเทศเป็นกลุ่มที่เราต้องจับตาและจัดการอย่างเข้มงวด ซึ่งเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบไปทั่วโลกไม่เพียงแค่แต่เฉพาะประเทศใดประเทศหนึ่ง โดยเราได้มีการจัดตั้งหน่วย AITF และ SITF ขึ้นมาโดยเฉพาะเพื่อควบคุมจุดที่นำเข้า-ขนส่งพัสดุหรือสินค้าจากต่างประเทศ ตั้งแต่กระบวนการหาข่าว ตรวจยึด ไปจนถึงการขยายผล และตนได้เน้นย้ำให้เร่งขยายผลในทุกการตรวจยึดจับกุมพัสดุที่มีการซ่อนยาเสพติด โดยการลักลอบขนส่งยาเสพติดผ่านพัสดุ ข้อมูลผู้รับผู้ส่งจะมีการระบุไว้ ซึ่งทำให้สามารถขยายผลถึงขบวนการผู้กระทำผิด และยึดทรัพย์เช่นในกรณีนี้ และต้องขอเน้นย้ำว่าเป็นหน้าที่ของผู้ประกอบการขนส่งพัสดุที่ต้องเข้มงวดในการให้บันทึกข้อมูลบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ส่งและผู้รับในการรับ-ส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ เพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่กรณีพบการกระทำผิดกฎหมายด้วย

“บริษัทขนส่งพัสดุต้องเข้มงวดกวดขันในการตรวจสอบเอกสารหลักฐานของการส่งพัสดุทุกครั้ง และต้องมีการคัดกรองประวิติของผู้ที่จะเข้ามาพนักงาน โดยหากผู้ประกอบการฝ่าฝืน ปล่อยปะละเลยให้มีการขนส่งยาเสพติดผ่านบริษัทของตนเอง จะมีโทษปรับ 50,000 บาทต่อครั้ง หากกระทำผิดซ้ำก็จะพิจารณาโทษทางอาญา หรือ เพิกถอนใบอนุญาต”

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ระทึก! ตร.ไล่ล่า 3 พ่อค้ายา ซิ่งหนีตาย เจอฉลามบกรวบ

พ.ต.ท.อภิชาติ วงษ์ศรี สารวัตรใหญ่ สถานีตำรวจทางหลวง 3 กองกำกับการ 5 (ทล.3 กก.5) สั่งการให้ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.ยุทธ จตุรชัยภิญโญ สว.ทางหลวง, ร.ต.ต.สินจัย เจียรเพชร

'จุลพันธ์' โวมีแต่เพื่อไทยพาประเทศไปข้างหน้า 'ยศชนัน' กล้าพูดทุจริตไม่จบไม่เลิก

'จุลพันธ์' กร้าวมีแต่ พท.ที่จะพาประเทศไปข้างหน้า 'สุริยะ' ลั่นเลือกตั้งครั้งนี้พร้อมมากที่สุด 'ยศชนัน' ลั่นยาเสพติด-ทุจริต ไม่จบไม่เลิก อ้อนเลือก พท.ทั้งคนทั้งพรรค

'ชนนพัฒฐ์' เมินกระแสพัวพันเว็บพนัน ยันได้ลงเลือกตั้งสงขลา

กล้าธรรมคึกคัก แกนนำ-ว่าที่ผู้สมัคร-อดีต สส. ทยอยตบเท้าเข้าพรรค "ชนนพัฒฐ์" ยันได้ลงเลือกตั้งสงขลา พร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ปมถูกตรวจสอบ

“พลังรัก–ศรัทธา"ร่วมวางรากฐานใหม่ สู่ประเทศไทยปลอดภัยจากยาเสพติด

ปัญหายาเสพติดยังคงเป็นบาดแผลเรื้อรังของสังคมไทยมานานนับทศวรรษ และยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นจากความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ สังคม และความเสี่ยงรอบด้าน

รู้จักน้อยไปจริง! กระทุ้ง 'อนุทิน' เผยตัวตนให้มากขึ้น

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า หรือเรารู้จักท่านนายกรัฐมนตรีน้อยไปจริงๆ