5 ส.ค. 2566 – จากกรณี เมื่อช่วงเย็น วันที่ 4 สิงหาคม 2566 ได้มีคนร้ายซึ่งเป็นหญิงสาวคนหนึ่งก่อเหตุจี้พนักงานในร้านทองให้ส่งถาดทองให้ก่อนจะกวาดเอาสร้อยคอทองคำน้ำหนักหนึ่งสลึงไป ตามรายงานในตอนแรกคาดว่าคนร้ายได้ไปทั้งหมด 37 เส้น รวมน้ำหนักประมาณ 9 บาท มูลค่าประมาณ 3 แสนบาท ซึ่งหลังเกิดเหตุ ผู้บังคับบัญชาของตำรวจแห่งชาติ ตั้งแต่ระดับ ผบ.ตร. ไล่ลงมายันผู้การจังหวัด ได้สั่งกำชับให้ฝ่ายสืบสวนเร่งติดตามตัวคนร้ายรายนี้มาให้ได้ เนื่องจากเป็นการก่อเหตุใจกลางชุมชน และไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย กระทั่งช่วงสายของวันที่ 5 สิงหาคม 2566 พ.ต.อ.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ ในฐานะหัวหน้าทีมสืบสวน ได้เรียกประชุม ชุดสืบสวนทั้งสืบภาค 1 สืบจังหวัด สืบ สภ.บางเสาธง และชุดสืบสวน สภ.บางพลี ประชุมแบ่งงานออกติดตามหาเบาะแสของคนร้ายกระทั่งมีข้อมูลจากแหล่งข่าวพลเมืองดีรายหนึ่งที่ คุ้นเคยรูปพรรณสัณฐานและน้ำเสียงของคนร้ายรายนี้ออกมาให้เบาะแสกับทางตำรวจจนทราบตัวหญิงต้องสงสัยรายนี้
ต่อมาเมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 5 สิงหาคม 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ได้ดักจับกุม นาง วนิดา (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี หัวหน้าคนงานของโรงงานแห่งหนึ่งในอำเภอบางเสาธง โดยจับตัวได้ในขณะที่กำลังกลับเข้าบ้านพักย่านอำเภอบางเสาธง โดยเธอยอมจำนนด้วยหลักฐานทั้งจากกล้องวงจรปิดและพยานหลักฐานอื่น จึงรับสารภาพว่าลงมือก่อเหตุจริง ตำรวจจึงขยายผลตามไปยึดของกลาง สร้อยคอทองคำที่ซุกซ่อนภายในกระเป๋าวางไว้ภายในบ้านพักจากนั้นขยายผลตามไปถึงของกลางไม่ว่าจะเป็นรองเท้า เสื้อผ้า ถุงมือ ที่ใช้สวมใส่ในการก่อเหตุ และคุมตัวผู้ต้องหารายนี้มาสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.บางเสาธงพร้อมกับของกลาง เป็นสร้อยคอทองคำน้ำหนักเส้นละ 1 สลึง จำนวน 28 เส้น นอกจากนั้นยังมีบางส่วนที่ขาดหายไปจากการก่อเหตุ ซึ่งผู้ต้องหารับสารภาพว่าได้นำสร้อยคอจำนวน 5 เส้นไปขายให้กับร้านทองในห้างเมกาบางนาในราคาเส้นละ 1 หมื่นบาท ก่อนจะนำเงินไปใช้หนี้สินบางส่วนแล้ว โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าลงมือก่อเหตุจริง อ้างว่าหาเงินจ่ายค่าบ้านค่ารถ
ด้าน นายเอ สามีของผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า ยังช็อกกับการจับกุมภรรยาของตนเองในครั้งนี้ ไม่คิดว่าจะกล้าลงมือก่อเหตุ ช่วงค่ำวานเลิกงานที่บริษัทเดียวกันและยังกลับบ้านพร้อมกันโดยไม่พบพิรุธของภรรยาแต่อย่างใด กระทั่งมาทราบเรื่องว่าภรรยาถูกจับ ส่วนสาเหตุก็คาดว่าจะมาจากหนี้สินในโรงงานหรืออาจจะเป็นหนี้นอกระบบ ซึ่งภรรยาไม่เคยบอกอะไรกับตนเอง แต่ยอมรับว่าก่อนหน้านี้ตนเองก็เคยช่วยใช้หนี้ไปบ้างแล้วบางส่วน
พ.ต.อ.โสภณ มงคลโสภณรัตน์ ผกก.สภ.บางเสาธง เปิดเผยว่าสำหรับคดีนี้ หลังเกิดเหตุฝ่ายสืบสวนได้ลงพื้นที่หาเบาะแสของ จนสามารถติดตามจับกุมตัวได้อย่างรวดเร็วและยึดของกลางเป็นสร้อยคอกลับมาได้ค่อนข้างเกือบหมด มีเพียง 5 เส้นที่คนร้ายนำไปขายในช่วงสายของวันนี้ ส่วนสาเหตุที่ลงมือคนร้ายอ้างว่ามาจากการต้องหาเงินไปจ่ายค่างวดรถค่างวดบ้านรวมถึงภาระในครอบครัวจึงคิดสั้นลงมือก่อเหตุ ส่วนอาวุธที่นำมาข่มขู่พนักงานตามคลิปวงจรปิดนั้น จากการตรวจสอบพบว่าเป็นชุดกันฝนลักษณะเป็นกางเกงกันฝนสีฟ้านำมาพันม้วนให้ดูคล้ายกับมีอาวุธในการก่อเหตุ โดยในเบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหาชิงทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะในการหลบหนี เตรียมนำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย ทั้งนี้ผู้ก่อเหตุไม่ประสงค์ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ แต่ยอมรับว่าก่อเหตุจริง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นักท่องเที่ยวแห่ชมนกนางนวลที่ตากอากาศบางปู
ภาพบรรยากาศในช่วงเย็นวันหยุดสุดสัปดาห์ ที่มีนักท่องเที่ยว ทุกเพศ ทุกวัย ที่เดินทางมาชมและให้อาหาร นกนางนวล ที่อพยพบินหนีหนาว
หนุ่มขับรถขโมยท่อน้ำเทศบาล พลเมืองดีช่วยกันจับได้ทัน
พ.ต.ท.ดำรงค์ สุชชูศรี สารวัตรสอบสวน สภ.บางแก้ว รับแจ้งเหตุมีโจรขโมยตัดท่อสูบน้ำเหล็กที่ต่อไว้กับท่อยางของเทศบาลเมืองบางแก้ว
หนุ่มสมุทรปราการโร่แจ้งความ มือมืดปาถุงเลือดใส่หน้าบ้าน
นายปริญญา ไกรกิจธนโรจน์ อายุ 24 ปี เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ ว่า เมื่อเวลา 00.20 น. ได้มีผู้ก่อเหตุมาขว้างปาถุงเลือดสด
สลด! หนุ่มเมียนมา ชะตาขาด ไฟดูดดับคาไซต์งานก่อสร้าง
ร.ต.อ.เกษม เพชรพิมานสมุทร รองสารวัตรสอบสวน สภ.คลองด่าน รับแจ้งเหตุมีคนถูกไฟฟ้าดูด ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดหน้าไซต์งานก่อสร้างทางลอดสายไฟฟ้าใต้ดิน
พฤติกรรมแย่! เก๋งไม่ยอมหลบรถกู้ชีพ แถมเบรกใส่ ไปถึงผู้ป่วยเสียชีวิต
จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์ข้อความว่า "ในขณะที่กำลังจะไปเคสผู้ป่วยหมดสติ ทั้งเสียง ทั้งไฟ ทั้งประกาศไมค์ ทั้งบีบแตร ก็ยังไม่หลบ
หนุ่มปากน้ำโดนยิงสาหัส ซิ่งจยย.หนีตาย 10 กม. ขอความช่วยเหลือชาวบ้าน
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สำโรงเหนือ รับเหตุยิงกันบริเวณอู่รถเมล์เก่า ริมถนนสุขุมวิท ทิศทางมุ่งหน้าปากน้ำ ตำบลเทพารักษ์ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ