ขอออกหมายจับเพิ่มหลายราย 'ตำรวจ-พลเรือน' รีดทรัพย์ 140 ล้าน

4 ก.ค.2566 - ที่สโมสรตำรวจ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เปิดเผยความคืบหน้าคดี อดีตผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรีและพวกตบทรัพย์ 140 ล้านจากเว็บพนันออนไลน์ ว่าในวันพรุ่งนี้น่าจะมีการขออนุมัติศาลเพื่อออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องอีกหลายราย มีทั้งตำรวจและพลเรือน ซึ่งรูปคดีไม่มีอะไรซับซ้อน เมื่อไล่ตรวจสอบพยานหลักฐานทั้งเส้นทางการเงิน บัญชีธนาคาร ก็จะพบตัวละครที่เกี่ยวข้องปรากฎขึ้นเรื่อยๆ เมื่อพบใครผิดก็ต้องดำเนินคดีแต่อย่างไรก็ตามเมื่อศาลยังไม่พิพากษาคดีจนถึงที่สุดบุคคลเหล่านี้ก็ยังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ จากนี้ไปประมาณ 2 สัปดาห์คาดว่าน่าจะปิดคดีนี้ได้ ส่วนเรื่องการตรวจสอบทรัพย์สินต่างๆเรากำลังพิจารณาข้อหาที่เกี่ยวกับความผิดฐานฟอกเงินเพื่อนำไปสู่การยึดทรัพย์ร่วมกับ ปปง.รอง ผบ.ตร. กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่อง พ.ร.บ.อุ้มหาย ขณะนี้ได้ทำหนังสือเรียนท่านอัยการสูงสุดไปแล้ว หากอัยการพิจารณาแล้วร่วมกับตำรวจ จากนั้นจะประชุมร่วมกับอธิบดีอัยการสอบสวนในวันศุกร์นี้ เมื่อพิจารณาร่วมกันแล้วว่าเป็นความผิดฐาน พ.ร.บ.อุ้มหาย ก็จะดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมในส่วนของ พ.ร.บ.อุ้มหาย ส่วนจะต้องส่งคดีให้กองปราบปรามดำเนินการต่อหรือไม่นั้นอยู่ที่ ผบ.ตร. ว่าจะสั่งการอย่างไร ทั้งนี้ต้องเรียนว่า พ.ร.บ.อุ้มหาย อย่าไปเข้าใจว่าจะต้องส่งสำนวนให้อัยการไปสอบสวนเลยนั้นไม่ใช่ จะไม่เหมือนคดีนอกราชอาณาจักรที่อัยการเป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน เพียงแต่ว่าอัยการจะต้องเข้ามาเป็นผู้สังเกตการณ์ กำกับ แนะนำต่างๆ แต่คนทำสำนวนหลักก็คือพนักงานสอบสวนส่วนกรณีที่นายอัจฉริยะออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้กับนายตำรวจที่ถูกดำเนินคดีนั้น รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า สามารถทำได้ ในส่วนของตำรวจต้องดำเนินการอย่างเที่ยงตรง รวดเร็วและเป็นธรรม ระบบตรวจสอบต่างๆต้องตอบคำถามให้กับสังคมได้ ซึ่งทางเราไม่ได้กังวล อันไหนผิดก็ต้องดำเนินคดี อันไหนถูกก็ต้องให้ความเป็นธรรม จริงๆแล้วเป็นสิ่งที่ยิ่งดีเมื่อมีกระบวนการตรวจสอบ สุดท้ายแล้วเมื่อสังคมเห็นว่าการทำงานของเราถูกต้องก็จะเป็นเครื่องการันตีในการทำงานของตำรวจ“ส่วนกรณีกระแสข่าวลือว่าจะมีการดำเนินคดีกับนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ระดับพลตำรวจตรีนั้น ตอนนี้การออกหมายจับยังไม่ถึงในระดับนั้น ตอนนี้ยังอยู่ในระดับล่างก่อน อย่างที่เรียนไว้ว่าถ้าเกี่ยวข้องถึงแค่ไหนก็ต้องดำเนินคดีแค่นั้น เราไม่สามารถดำเนินคดีไปนอกเหนือจากพยานหลักฐานได้เลย เราต้องยึดกรอบของพยานหลักฐานและต้องทำอย่างตรงไปตรงมา เพราะคดีนี้เป็นคดีที่กระทบต่อภาพลักษณ์ขององค์กร เราจึงต้องทำอย่างรอบคอบและรัดกุม” รอง ผบ.ตร. กล่าว 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

มาแล้ว! ศาลปกครอง ร่อนเอกสารชี้แจงปม 'บิ๊กโจ๊ก' ยังไม่มีคำพิพากษาใดๆ

ศาลปกครอง เผยแพร่เอกสารชี้แจง กรณีที่มีสื่อมวลชนนำเสนอผลการพิจารณาคดีของศาลปกครองสูงสุด ในคดีที่พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล ยื่นฟ้องขอเพิกถอนคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ให้ผู้ฟ้องคดีออกจากราชการไว้ก่อน นั้น

ลุ้นองค์คณะฯอ่านคำพิพากษา ดับฝัน 'โจ๊ก-แมว9ชีวิต' กลับตร.

เมื่อวันที่ 27 ส.ค. ที่ผ่านมา "บิ๊กโจ๊ก" - พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล ได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองสูงสุด เพื่อตรวจสอบความชอบธรรมของคำสั่งให้ออกจากราชการ ซึ่งคดีนี้เป็นประเด็นสำคัญที่ได้รับความสนใจ เนื่องจากเกี่ยวข้องกับการใช้อำนาจทางปกครองในระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ผบ.ตร. ไม่ขอก้าวล่วง ศาลปกครองสูงสุด ชี้ขาด 'บิ๊กโจ๊ก' ขอคุ้มครองชั่วคราว

พล.ต.อ.กิตติรัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยถึงกรณีที่ศาลปกครองยกคำร้องคุ้มครองชั่วคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนของ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล ว่า ตนขอให้ความเห็นแบบกว้าง ๆ

ศาลปกครองสูงสุด ปิดเงียบผลชี้ขาดคดีบิ๊กโจ๊ก สั่งเก็บหลักฐานฟันสื่อละเมิดอำนาจศาล

นายประสิทธิ์ศักดิ์ มีลาภ ประธานศาลปกครองสูงสุด เป็นประธานการประชุมใหญ่ตุลาการศาลปกครองสูงสุด

จบแล้วบิ๊กโจ๊ก! สะพัด ศาลปกครองสูงสุด ชี้คำสั่ง 'ให้ออกจากราชการ' ชอบด้วยกฎหมาย

ที่ศาลปกครองกลาง ถ.เเจ้งวัฒนะ มีการประชุมใหญ่ศาลปกครองสูงสุด โดยนายประสิทธิ์ศักดิ์ มีลาภ ประธานศาลปกครองสูงสุด เป็นประธานการประชุม