'บิ๊กเด่น' โต้ 'ชูวิทย์' โยงคดีรีดทรัพย์ 140 ล้าน เป็นเกมชิง ผบ.ตร.คนใหม่

“บิ๊กเด่น” ไม่เชื่อปมรีดเงิน 140 ล้านเป็นการชิงเก้าอี้ ผบ.ตร.คนต่อไป ส่วนพลเรือนใหญ่กว่าตำรวจโยนถามบิ๊กโจ๊ก

20 มิ.ย.2566 - ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีเงิน 140 ล้านบาทมีการพาดพิงถึงว่าที่ ผบ.ตร.คนใหม่ จะมีการพิจารณาหรือทวนคำพูดของนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หรือไม่ ว่า เรื่องนี้ผมไม่ได้ทราบรายละเอียด ส่วนคดีของชลบุรีจะต้องทำตรงไปตรงมา ซึ่งได้กำชับทาง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ไปแล้วว่าคดีนี้เป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจเป็นเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจที่เข้าข่ายเรื่องผิดในตำแหน่งหน้าที่ จะต้องทำอย่างตรงไปตรงมา โปร่งใสที่สุด เมื่อมีความคืบหน้าในแต่ละขั้นตอนให้สัมภาษณ์หรือชี้แจงประชาชนได้เลย

เมื่อถามว่าบุคคลที่เกี่ยวข้องมีถึงระดับผู้บังคับการ และยังมีการกล่าวหาไปยังคนที่ใหญ่กว่าผู้บังคับการจะต้องตรวจสอบหรือไม่ ผบ.ตร. กล่าวว่า ที่มีการกล่าวหาระดับผู้บังคับการ ตนยังไม่ได้ยินจาก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จะต้องฟังจากผู้ที่กำกับดูแลก่อน คงจะมีการรายงานมาเป็นระยะๆ ซึ่งทางพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ บอกว่ามีหลักฐานค่อนข้างเยอะแต่ในส่วนที่จะเกี่ยวข้องในเรื่องของตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 พ.ศ.2566 หรือ "พ.ร.บ. อุ้มหาย" จะต้องมีการทำให้ถูกขั้นตอน แต่ในเบื้องต้นเห็นว่าการกระทำของตำรวจอาจจะผิดขั้นตอนไปหลายขั้นตอน ซึ่งจะเข้าข่ายผิดกฎหมายตาม พ.ร.บ.ดังกล่าวนี้ด้วย ทั้งนี้จะต้องดูในภาพรวมอีกครั้ง โดยทางกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ได้ตั้งพล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 เป็นหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ซึ่งตนจะต้องรอความชัดเจนของทุกฝ่ายก่อน

ซักว่าจากการขยายผลยังพบตำรวจเข้ามาเกี่ยวข้องเพิ่มเติ่มอีก 2-3 นาย ได้รับรายงานแล้วหรือไม่ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า มีรายงานมาเบื้องต้น ส่วนใครจะเกี่ยวข้องหรือไม่เกี่ยวข้องเร็วๆนี้คงจะมีความชัดเจนมาเรื่อยๆ ส่วนพลเรือนที่เกี่ยวข้องได้มีการออกหมายจับไปเรียบร้อยแล้ว คงเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม หากจะมามอบตัวก็เข้ามามอบตัว หากไม่มามอบตัวก็จะพยายามประสานงานเอาตัวมา

ถามอีกว่ามีการระบุว่าพลเรือนมีอำนาจมากกว่าผู้บังคับการมีที่มาที่ไปอย่างไร ผบ.ตร. กล่าวว่า ขอให้คนที่รู้เรื่องเป็นผู้ชี้แจงดีกว่า ตนรอรับรายงานในภาพรวมเรื่องนี้

เมื่อถามว่าจะดูแลกวาดบ้านอย่างไรในเมื่อพื้นที่จังหวัดชลบุรีมีเรื่องอยู่บ่อยครั้ง พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า ทุกเรื่องอาจจะมีปัญหาสะสมมานาน ในโลกยุคโซเชียลบางทีโผล่ขึ้นมา เราก็จะรีบแก้ไขโดยเร็วอะไรที่เป็นปัญหาสะสม อะไรที่แก้ให้มันดีขึ้นก็จะรีบแก้ ทุกอย่างจะทำงานแบบตรงไปตรงมา

ถามต่อว่ากรณีรักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจชลบุรีคนใหม่ โดนแจ้งความดำเนินคดีด้วย แต่กลับมารักษาการ อาจจะไม่เหมาะสมหรือไม่ ผบ.ตร. กล่าวว่า การที่จะส่งใครไปรักษาการ ตนจะต้องหารือกับผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ด้วย ท่านก็มองว่าคนนี้เหมาะสมที่จะไปรักษาการ และเป็นคดีเก่าที่มีการกล่าวหาในคดีเดิม ซึ่งได้มีการตั้งเป็นชุดคณะทำงานของภาค 2 แล้ว ไม่ได้มีส่วนที่จะทำให้จะเสียความเป็นธรรมไปได้ เบื้องต้นจึงยังไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไร ขอรอพิจารณาการทำงานสักระยะก่อน หากเห็นว่าทำงานแล้วเกิดความไม่เรียบร้อย ก็อาจจะมีการเปลี่ยนตัว

ซักอีกว่ามลทินอาจจะถึง ผบ.ตร.ได้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า อย่าไปคิดอย่างนั้นเลย เพราะตนไม่ได้เน้นว่าใครเป็นใคร ถ้าเขารับประกันมาว่าดีก็ลองดู ถ้าไม่ดีเราก็เปลี่ยนตัว ไม่เห็นยาก

เมื่อถามว่าจะมีการทบทวนการแต่งตั้งชุดเฉพาะกิจในพื้นที่ต่างๆ หรือไม่ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า วันนี้ในการประชุมบริหารตร.ครั้งที่ 6/2566 จะมีการกำชับเรื่องการปฏิบัติตามระเบียบ ข้อกฎหมาย ในทุกๆเรื่อง ส่วนคำว่าชุดเฉพาะกิจต่างๆ ไม่ได้เป็นคำสั่งในคณะทำงาน อาจจะเป็นการกระทำ เขาเรียกว่าพฤตินัย ไม่ใช่เป็นนิตินัย เพราะว่าคำสั่งในการแต่งตั้งศูนย์ต่างๆ เป็นการแต่งตั้งโดยหัวหน้าศูนย์ ที่เราให้ความสำคัญอย่างเช่นหัวหน้าศูนย์ยาเสพติด เนื่องจากตนให้ความสำคัญเรื่องยาเสพติด เรื่องการปราบปรามอาชญากรรมทางออนไลน์ ตนก็บอกว่าตนจะประชุมเอง ถ้าเป็นไปได้อยากให้ผู้บัญชาการ ผู้บังคับการ ลงมาควบคุม แต่เน้นปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ปัญหายาเสพติด ปัญหาการหลอกลวงทางออนไลน์ แต่ที่มีชุดไปจับกุมลักษณะการพนันออนไลน์อาจจะเพี้ยนไป ตนจะมีการย้ำเตือนในการประชุมในวันนี้อีกครั้ง

ถามว่าข่าวที่ปรากฎมีลักษณะศึกชิงเก้าอี้ผบ.ตร.คนใหม่ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า ต้องไปถามคนที่มีความคิดนี้ ตนยังไม่ทราบรายละเอียดเรื่องนี้ ตนยังไม่ได้คิดไกลขนาดนั้น ต้องไปถามคนที่มีความคิด ตนยังไม่มีความคิดอย่างนั้น ไปดูตามข้อเท็จจริงตามคดีต่างๆ เนื่องจากเรื่องนี้มีการร้องเรียนและมีการไปแจ้งความที่ สภ.คูคต จ.ปทุมธานี นำไปสู่การตรวจสอบ ไม่ได้มีกระบวนการที่จะต้องไปแซะอะไร อาจจะเป็นความเชื่อของแต่ละบุคคล ก็ว่ากันไป

ถามอีกว่าการที่ผู้ต้องหามาแจ้งจับตำรวจ ทำไมถึงมีกรณีแบบนี้เกิดขึ้นได้ ผบ.ตร. กล่าวว่า มีโอกาสเกิดขึ้นได้หมด ทุกคนอยู่ภายใต้กรอบกฎหมาย ผู้กระทำผิดเมื่อถูกรีดหรือถูกอะไรก็สามารถมาเป็นผู้กล่าวหาได้

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ศาลปกครองสูงสุด ปิดเงียบผลชี้ขาดคดีบิ๊กโจ๊ก สั่งเก็บหลักฐานฟันสื่อละเมิดอำนาจศาล

นายประสิทธิ์ศักดิ์ มีลาภ ประธานศาลปกครองสูงสุด เป็นประธานการประชุมใหญ่ตุลาการศาลปกครองสูงสุด

จบแล้วบิ๊กโจ๊ก! สะพัด ศาลปกครองสูงสุด ชี้คำสั่ง 'ให้ออกจากราชการ' ชอบด้วยกฎหมาย

ที่ศาลปกครองกลาง ถ.เเจ้งวัฒนะ มีการประชุมใหญ่ศาลปกครองสูงสุด โดยนายประสิทธิ์ศักดิ์ มีลาภ ประธานศาลปกครองสูงสุด เป็นประธานการประชุม

โฆษก พปชร. แจง 'ฟิล์ม รัฐภูมิ' ไม่ได้ร่วมงานพรรคนานแล้ว

พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรค พปชร. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือ ฟิล์ม อดีตทีมโฆษกพรรค พปชร. ที่ล่าสุดมีความเกี่ยวข้องคดีรีดทรัพย์ 20 ล้าน จากบอสบริษัทดิ ไอคอน กรุ๊ป

อัยการคดีพิเศษ พิจารณายื่นศาล ขอริบทรัพย์ 'โจ๊ก' และพวก ตกเป็นของเเผ่นดิน

มีรายงานว่า พนักงานสอบสวน ปปง.ได้ยื่นคำร้องขอให้พนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษยื่นคำร้องต่อศาลขอยึดทรัพย์สิน พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล และพวกรวม 3

'อนุทิน' แจงรูปคู่ 'ทนายตั้ม' บังเอิญเจอกันที่ฮ่องกง อย่าโยงมั่วเอี่ยวเว็บพนัน

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย ชี้แจงกรณีปรากฏภาพถ่ายกับทนายษิทรา เบี้ยบังเกิดที่ฮ่องกง ว่าเป็นภาพเก่าตั้งแต่ปีที่แล้วช่วงหลังเลือกตั้ง ซึ่งตั้งตนเดินทางไปกับครอบครัวและนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ

ตำรวจกองปราบบุกรวบ 'แม่เสี่ยโป้' ชักชวนเล่นพนันออนไลน์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ กก.1 บก.ป.ร่วมกันจับกุม น.ส.บานเย็น อายุ 51 ปี แม่เสี่ยโป้ ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลอาญาที่ 240/2564 ลงวันที่ 3 ก.พ.64 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันจัดให้มี