ตำรวจไซเบอร์เตือนภัยร้านอาหารระวังลูกค้าปลอม อ้างส่งอาหารให้ผิดเรียกร้องให้คืนเงิน ขู่ผู้กระทำผิดเข้าข่ายฉ้อโกงโทษหนัก แนะ 7 วิธีป้องกันปัญหา
14 มิ.ย.2566 - พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษกกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ขอฝากเตือนภัยประชาชนกรณีมิจฉาชีพแฝงตัวเป็นลูกค้าร้านอาหารโทรศัพท์ไปยังร้านอาหารขอเงินคืนเนื่องจากอาหารที่ได้รับไม่ถูกต้องหรือผิดประเภท ว่าในปัจจุบันการสั่งซื้ออาหารออนไลน์ (Food delivery) มักเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายของผู้บริโภค เนื่องจากได้รับความสะดวกและรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการสั่งซื้อผ่านแอปพลิเคชันของผู้ให้บริการ หรือสั่งผ่านเว็บไซต์ หรือสั่งผ่านสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ แต่ก็เป็นช่องทางหนึ่งที่มิจฉาชีพใช้แฝงตัวเข้ามาฉวยโอกาสในการหลอกลวงเอาทรัพย์สินของประชาชน
พ.ต.อ.กฤษณะกล่าวต่อว่า ได้รับรายงานว่าจากการตรวจสอบในระบบการรับแจ้งความออนไลน์พบเริ่มมีผู้เสียหายหลายราย ซึ่งเป็นเจ้าของร้านอาหารได้รับสายโทรศัพท์จากมิจฉาชีพโทรศัพท์แจ้งว่าเป็นลูกค้าของร้าน ก่อนหน้านี้ได้ทำการสั่งอาหารออนไลน์จากร้าน แต่กลับได้รับอาหารไม่ตรงกับที่สั่งซื้อ เช่น สั่งอาหารประเภทเนื้อวัว แต่ได้รับอาหารประเภทเนื้อหมูมาแทน ทำให้ได้รับความเสียหาย โดยจะเรียกร้องให้ร้านอาหารทำการโอนเงินค่าอาหารคืนในจำนวนต่างๆ เจ้าของร้านบางรายหลงเชื่อไม่ได้ตรวจสอบก่อน เนื่องจากเห็นว่าเป็นจำนวนเงินไม่มากจึงโอนเงินไปยังบัญชีของมิจฉาชีพ เจ้าของร้านบางรายพบพิรุธจึงตรวจสอบก่อนกลับพบว่าไม่มีลูกค้ารายใดสั่งอาหารตามรายการที่อ้างในช่วงเวลา หรือในราคาดังกล่าวจริงแต่อย่างใด เมื่อเจ้าของร้านสอบถามยืนยันอีกครั้งมิจฉาชีพก็ได้วางสายโทรศัพท์ไป ทั้งนี้การหลอกลวงในลักษณะดังกล่าว ยังคงใช้แผนประทุษกรรมเช่นเดียวกับการหลอกลวงเป็นบุคคลอื่นเพื่อยืมเงิน โดยจากสถิติการรับแจ้งความออนไลน์ นับตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.65 – 5 มิ.ย.66 พบว่ามีประชาชนแจ้งความร้องทุกข์กว่า 9,768 เรื่อง หรือคิดเป็น 3.58% ของจำนวนเรื่องการรับแจ้งความออนไลน์ทั้งหมด และมีมูลค่าความเสียหายรวมกว่า 351 ล้านบาท
โฆษก บช.สอท.กล่าวต่อว่า การกระทำในลักษณะดังกล่าวอาจจะเข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 342 และโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนฯ ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14(1) ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” หรือความผิดฐานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
พ.ต.อ.กฤษณะกล่าวว่า ฝากเตือนถึงแนวทางการป้องกันการถูกหลอกลวงในลักษณะดังกล่าว 7 ข้อ ดังต่อไปนี้ 1.หากท่านเป็นเจ้าของร้าน หรือผู้ดูแลร้าน เมื่อรับสายโทรศัพท์ในลักษณะดังกล่าวให้สอบถามข้อมูลที่เกี่ยวข้องโดยละเอียด เช่น ชื่อผู้สั่งอาหาร รายการอาหารที่สั่ง วันเวลาที่สั่ง ราคาของอาหาร และเลขคำสั่งซื้อ เป็นต้น 2.ตรวจสอบข้อมูลที่ได้รับมาให้ดีเสียก่อนว่าถูกต้องหรือไม่ ลูกค้าที่โทรศัพท์เข้ามาได้สั่งอาหารจริงหรือไม่ 3.หากจำเป็นต้องโอนเงินคืน ให้นำเบอร์โทรศัพท์ ชื่อบัญชีธนาคาร และชื่อเจ้าของบัญชีธนาคาร ไปตรวจสอบในเว็บไซต์ค้นหาทั่วไปก่อนว่ามีประวัติไม่ดีหรือไม่
4.หากเป็นกรณีอ้างว่าเป็นเพื่อนที่รู้จัก เมื่อมีการขอให้โอนเงินไปให้ ต้องทำการยืนยันตัวบุคคลนั้นก่อน โดยโทรศัพท์ไปหาโดยตรง แล้ววิดีโอคอลขอให้เปิดกล้องโทรศัพท์เพื่อให้เห็นใบหน้าอย่างชัดเจน อย่าได้เกรงใจ ซึ่งหากบุคคลที่ทักมาขอยืมเงินเป็นคนที่เรารู้จักจริง ก็ต้องยินยอมให้ยืนยันตัวตน 6.หากบัญชีธนาคารที่รับโอนเงิน ชื่อเจ้าของบัญชีธนาคารไม่ตรงกับบุคคลที่เราจะโอนเงินไปให้ สันนิษฐานได้ว่าเป็นมิจฉาชีพแน่นอน ไม่ว่าบุคคลนั้นจะอ้างว่าเป็นบัญชีของผู้ใดก็ตาม และ 7.หากท่านตกเป็นเหยื่อหลงเชื่อโอนเงินไปให้มิจฉาชีพแล้ว ให้รีบติดต่อกับสถาบันการเงิน หรือธนาคารในทันที เพื่อขอทำการอายัดบัญชีธนาคารของคนร้าย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เปิดแล้ว La Braci ร้านอาหารเทรนด์ใหม่ ในคอนเซปต์แคชชวลไฟน์ไดนิ่ง
เปิดแล้ว! La Braci ร้านอาหารไฟน์ไดนิ่งสไตล์ "โมเดิร์นแคชชวล"แห่งใหม่ ณ ชั้นลอยของตึก One City Centre ใจกลางย่านเพลินจิต ที่พร้อมนำเสนอความอร่อยผ่านศิลปะของอาหารเวสเทิร์น
รัฐบาลเร่งพัฒนาแพลตฟอร์ม สกัดมิจฉาชีพโทร-ส่งข้อความหลอกลวง คาดพร้อมใช้ต้นปี 68
นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลเดินหน้าแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์มิจฉาชีพ และอาชญากรรมข้ามชาติ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน
คุก! ศาลไม่ให้ประกัน 'เมียตั้ม ษิทรา' หวั่นหลบหนี
ที่ ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พนักงานสอบสวนกองปราบปรามนำตัวนายษิทธา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม อายุ 44 ปี ผู้ต้องหาที่ 1 ข้อหา ฉ้
เผยแจ้งความออนไลน์ 1 มี.ค 65 - 31 ต.ค. 67 เฉลี่ยเสียหายวันละ 7.7 ล้านบาท
'รองโฆษกรัฐบาล' เผยสถิติแจ้งความออนไลน์ ตั้งแต่ 1 มี.ค 65 – 31 ต.ค.67 มูลค่าความเสียหายรวม 7.48 หมื่นล้านบาท เฉลี่ย 77 ล้านบาทต่อวัน
'ทนายตั้ม' โผล่ฉายหนังคนละม้วน อ้างปมเงิน 39 ล้านค่าศิลปินจีน เป็นมิจฉาชีพหลอก 'เจ๊อ้อย'
ที่กองบังคับการปราบปราม นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ "ทนายตั้ม" เข้าพบพนักงานสอบสวน ที่ถูกน.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือ เ
ตำรวจสอบสวนกลาง CIB ผสานพลัง AIS ยกระดับเดินหน้าภารกิจปกป้องประชาชน เปิดบริการ *1185# แจ้งอุ่นใจ ตัดสายโจร กดแจ้งเบอร์โทรมิจฉาชีพได้ทันที หลังวางสาย
ตำรวจสอบสวนกลาง CIB จับมือ AIS ยกระดับการปกป้องลูกค้า และ ประชาชน จากมิจฉาชีพต่อเนื่องไปอีกขั้น เปิดตัวบริการ *1185# แจ้งอุ่นใจ ตัดสายโจร