19 พ.ค.2566 - พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท.,พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท.,พล.ต.ต.อำนาจ ไตรพจน์ รอง ผบช.สอท. ได้สั่งการให้ให้มีตรวจสอบการกระทำความผิดตามสื่อสังคมออนไลน์ ระดมกวาดล้างอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยเฉพาะอย่างยิ่งขบวนการซื้อขายซิมผีบัญชีม้า สร้างความเดือดร้อนให้พี่น้องประชาชนเป็นจำนวนมาก
สืบเนื่องจากการจับกุมนายสมชาย ศิริเดชไพบูลย์ อายุ 59 ปี พร้อมลูกจ้างชาวเมียนมาอีก 2 คน เมื่อวันที่ 17 พ.ค.2566 พร้อมของกลางซิมการ์ดที่ได้ลงทะเบียนแล้วพร้อมใช้งานกว่า 346 ซิม เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.สอท.4 จึงได้ขยายผลไปถึงตัวการใหญ่ในการส่งซิมการ์ดโทรศัพท์ที่พร้อมใช้งานขายในประเทศและประเทศเพื่อนบ้าน จากสืบสวนทราบว่าเฟสบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า “นู๋นุช ธรรศธนพร” มีผู้ติดตามกว่า 3.5 พันคน โพสต์ข้อความพร้อมรูปภาพขายซิมการ์ดโทรศัพท์พร้อมใช้งาน และยังโพสต์ภาพขณะที่กำลังนั่งลงทะเบียนเปิดใช้งาน (Activate)
พล.ต.ต.ฐิตวัฒน์ สุริยฉาย ผบก.สอท.4 กล่าวอีกว่า จากการสืบสวนเจ้าของบัญชีเฟสบุ๊คดังกล่าว คือ น.ส.ธรรศธนพร โชคสกุลอมรกิจ อายุ 38 ปี ชาวอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก มีพฤติกรรมในการนำบัตรประจำตัวประชาชนของผู้อื่นและบัตรบุคคลต่างด้าว (บัตรสีชมพู) มาลงทะเบียนซิมการ์ดเปิดใช้งาน (Activate) เพื่อส่งขายแก่ผู้ที่สนใจและขายให้แก่บุคคลทั่วไปหรือพวกมิจฉาชีพ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่กบดานอยู่ตามประเทศเพื่อนบ้าน นำไปใช้โทรหลอกกลวงประชาชนในประเทศไทย หรือพวกที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์นำไปใช้ติดต่อในการชักชวนให้ประชาชนทั่วไปมาเล่นพนันออนไลน์ ทั้งในและต่างประเทศ นำมาซึ่งความเสียหายมหาศาล
กระทั่งในวันที่ 18 พ.ค.66 พ.ต.อ.อนุชา ศรีสำโรง ผกก.2 บก.สอท.4 ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.วีระพล กันธวงศ์ รอง ผกก.2 บก.สอท.4 นำทีมสืบสวนพร้อมหมายค้นเข้าค้นบ้านพักหลังหนึ่งในพื้นที่ ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก โดย น.ส.ธรรศธนพรฯ แสดงตัวเป็นเจ้าของบ้านนำตรวจค้น พบซิมการ์ดโทรศัพท์ที่พร้อมใช้งาน กว่า 4,397 ซิม, โทรศัพท์เคลื่อนที่ จำนวน 20 เครื่อง, สายแพรวงจรสำหรับต่อโทรศัพท์ (Activate), อาวุธปืนรีวอลเวอร์ ยี่ห้อสมิธแอนด์เวสสัน ขนาด.22 จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุนอีกกว่า 50 นัด จึงได้จับกุม น.ส.ธรรศธนพร โชคสกุลอมรกิจ ในความผิดฐาน “เป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใดๆเพื่อให้มีการซื้อหรือขายเลขโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งลงทะเบียนผู้ใช้บริการในนามของบุคคลใดบุคคลหนึ่งแล้ว แต่ไม่สามารถระบุตัวผู้ใช้บริการได้ และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต”
เบื้องต้นผู้ต้องหารับว่า ตนได้นำบัตรของบุคคลต่างด้าว (บัตรสีชมพู) มาลงทะเบียนซิมการ์ดโทรศัพท์จริง โดยประกอบอาชีพขายซิมการ์ดโทรศัพท์ที่ได้ลงทะเบียนแล้วเป็นเวลากว่า 6 ปี และได้ขายไปแล้วหลายหมื่นซิม ก่อนที่กฎหมายประกาศใช้ แต่เมื่อได้ประกาศใช้แล้วและตนทราบว่าจะมีการกวดขันจับกุมซิมผี จึงเตรียมจะนำซิมผีดังกล่าวไปโยกย้าซุกซ่อนไว้ที่อื่น หากแต่มาถูกจับเสียก่อน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ธนกร' จี้กวาดล้างแก๊งลวงผู้สูงวัย-ปชช. หลอกกดลิงก์รับเงินหมื่น หลังรัฐเตรียมแจกเฟส 2
'ธนกร' เรียกร้อง รัฐบาล-ตร. เร่งกวาดล้างปราบแก๊งลวงผู้สูงวัย-ปชช. ระบาดหนัก หลอกกดลิงก์รับเงินหมื่น หลัง รัฐเตรียมแจกเฟส 2 ฝาก ดีอีล้อมคอก เตือนภัยให้คนรู้เท่าทัน หยุดกระบวนการไม่ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพอีก
รัฐบาลเร่งพัฒนาแพลตฟอร์ม สกัดมิจฉาชีพโทร-ส่งข้อความหลอกลวง คาดพร้อมใช้ต้นปี 68
นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลเดินหน้าแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์มิจฉาชีพ และอาชญากรรมข้ามชาติ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน
ตร. แถลงจับจีนเทาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เช่าเบอร์โทร 02 นับหมื่นเลขหมาย โทรหลอกกว่า 700 ล้านครั้ง
พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. แถลงผลการปฏิบัติการ “มาตรการระเบิดสะพานโจร” 2 ปฏิบัติการ จับแก๊งจีนเทาเช่าเบอร์โทร 02-xxxxxxx กว่าหมื่นเลขหมาย โทรหลอกประชาชนมากกว่า 700 ล้านครั้ง และใช้เครื่องส่ง SMS ปลอม (False Base Station) ส่งข้อความถึงประชาชนภายใน 3 วัน เกือบล้านครั้ง
จับแล้ว! 2 แม่ลูก แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ลูบคม 'ปธ.กมธ.ตำรวจ'
พล.ต.ต.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 5 (ผบก.สอท.5) พ.ต.อ.อุกฤช ศรีนิติวรวงศ์ ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ
จับแล้ว 'แม่ใบหนาด' ตุ๋นขายทอง เหยื่อ 500 ราย เสียหาย 180 ล้าน
พล.ต.ต.จิระวัฒน์ พยุงธรรม รอง ผบช.สอท. รรท.ผบช.สอท., พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.จิตติพนธ์ ผลพฤกษา ผบก.สอท.4 ได้ร่วมแถลงข่าวกรณี ตำรวจไซเบอร์บุกรวบ
เตือนระวังข่าวปลอม ลงทะเบียนคุ้มครองสิทธิแก๊งคอลเซ็นเตอร์
ดีอี เตือน อย่าเชื่อ-แชร์ ข่าวปลอม “เปิดลงทะเบียนคุ้มครองสิทธิผู้เสียหายจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ผ่านเพจ หน่วยงานคุ้มครองสิทธิ์อาชญากรรมทางออนไลน์” หวั่นปชช.สูญเงิน-ข้อมูลส่วนบุคคล