ผบ.ตร. น้อมรับคำวินิจฉัยศาลรธน. ติวเข้มทุกหน่วยทำตาม พ.ร.บ.อุ้มหาย ทันที

18 พ.ค.2566 - ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นประธานการประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ไปยังหน่วยปฏิบัติทุกหน่วยทั่วประเทศ เพื่อกำชับการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 หรือ "พ.ร.บ. อุ้มหาย" ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญได้มีมติเสียงข้างมากวินิจฉัยว่า พ.ร.ก.แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมาน และการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ 2565 พ.ศ.2566 ซึ่งเป็นการแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ดังกล่าว เพื่อขยายกำหนดเวลาในการมีผลใช้บังคับเฉพาะมาตรา 22-25 ออกไป ขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 172 วรรค1 ทำให้ พ.ร.ก.แก้ไขเพิ่มเติม พรบ.ป้องกันและปราบปรามการทรมาน และการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 พ.ศ.2566 ไม่มีผลบังคับใช้มาแต่ต้น ซึ่งมีผลให้ต้องปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหายฯ ทันที

ภายหลังการประชุมใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า วันนี้รับทราบจากการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญตีความว่าพ.ร.ก.แก้ไขเพิ่มเติม พรบ.ป้องกันและปราบปรามการทรมาน และการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 พ.ศ.2566 อาจจะไม่มีผลต่อการเลื่อนในการใช้จนถึงวันที่ 1 ตุลาคม 2566 ตำรวจจึงต้องปฏิบัติตามพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 พ.ศ.2566 หรือ "พ.ร.บ. อุ้มหาย" ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งจะได้ดำเนินการให้เป็นไปตามพ.ร.บ.ดังกล่าวตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป วันนี้จึงมีการประชุมกับรองผบ.ตร. ผู้ช่วยผบ.ตร. ผู้บัญชาการ ผู้บังคับการ และหัวหน้าสถานี เพื่อกำชับการปฏิบัติและมีหนังสือสั่งการประชุมไปแล้ว จะมีการเซ็นลงนามเป็นทางการภายในวันนี้ว่าขั้นตอนการปฏิบัติ ถึงแม้จะมีปัญหาเรื่องอุปกรณ์กล้องบันทึกภาพและเสียงมีไม่พอ ก็จะพยายามหมุนใช้ให้พอไปได้ก่อนในช่วงภายใต้การขาดแคลนอุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้ก็จะทำงานไปก่อนให้ดีที่สุดจนกว่าจะได้อุปกรณ์ครบในเดือนกันยายนนี้

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า ใน 4 เดือนนี้จะใช้อุปกรณ์ที่มีอยู่ และมีเรื่องเร่งด่วนคือการจัดเก็บต่างๆ ก็จะรีบจัดหาเครื่องจัดเก็บ ซึ่งจะรีบโอนเงินไปให้จัดหาเครื่องจัดเก็บ (External harddisk) ให้ทุกโรงพักรีบไปจัดหามาให้ได้เร็วที่สุด โดยระหว่างนี้ให้จัดเก็บข้อมูลลงในคอมพิวเตอร์ของโรงพักไปพลางก่อน ถึงแม้จะยังไม่มีระเบียบกลางของกระทรวงยุติธรรมยังไม่ออกมาให้ปฏิบัติหรือมีการซักซ้อมกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งอัยการ กรมการปกครอง ยังไม่ได้ซักซ้อมอย่างเรียบร้อย แต่เมื่อกฎหมายมีผลแล้วจะต้องประสานงานทำไปพลางก่อน หากมีเหตุติดขัด ก็จะบันทึกเหตุติดขัดนั้น และจะมีแนวทางตร.ว่าทำอะไรได้ก็ทำไปก่อน

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ยอมรับว่า มีความกังวลบ้าง แต่เมื่อกฎหมายออกมาแล้วก็ต้องทำตามกฎหมาย ถึงแม้ว่าอาจจะไม่มีการซักซ้อมร่วมกันกับหน่วยงานผู้ปฏิบัติหรือซักซ้อมได้สมบูรณ์เพราะมีเวลาจำกัด ตำรวจก็ต้องพยายามทำให้ดีที่สุด

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'บิ๊กต่อ' สั่งนครบาลสอบด่วน! ป้ายซื้อขายพาสปอร์ต ผิดจริงฟันแน่

'ผบ.ตร.' สั่งตรวจสอบที่มาของป้ายโฆษณาภาษาจีน รับทำหนังสือเดินทาง-ขอสัญชาติต่างๆ กำชับ สตม. ตรวจสอบ คัดกรองคนต่างด้าว เจอกระทำผิดฟันตามกฎหมายทุกมิติ

เสนอปูนบำเหน็จ เลื่อนยศ รอง ผกก.ป.ท่าข้าม เป็น 'พล.ต.อ'

ผบ.ตร.แสดงความเสียใจ – เสนอปูนบำเหน็จ เลื่อนยศเป็น "พล.ต.อ" รอง ผกก.ป.ท่าข้าม เสียชีวิตระหว่างสยบชายคลั่ง พร้อมสั่งถอดบทเรียนป้องกันความสูญเสียซ้ำรอย

อึ้ง!ปดิพัทธ์บอกยุบ 'ก้าวไกล' แสดงว่าไทยยังไม่เป็นประชาธิปไตยส่งผลสภานานาชาติ

'ปดิพัทธ์' ยอมรับมีชื่อเป็น กก.บห.ก้าวไกล เสี่ยงพ้น สส. หากพรรคถูกยุบจริง แต่เชื่อมั่นว่าการสู้คดีมีน้ำหนัก ไม่เสียดายตำแหน่งรองประธานสภา ชี้งานที่หาเสียงไว้ทำได้หมดแล้ว

เลขาฯกกต. โต้ก้าวไกล ปมยื่นยุบพรรค

นายแสวง บุญมี เลขาธิการกกต และนายทะเบียนพรรคการเมือง โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว กล่าวถึงอำนาจ และการปฏิบัติหน้าที่ของกกต. เลขาฯกกต.และนายทะเบียนพรรคการเมืองต่อกรณีการยื่นยุบพรรคการเมือง

'ชัยธวัช' ลั่นทุกคนในพรรคนิ่ง ถ้ายุบจริงเราตกผลึกหมดแล้ว ไม่ต้องเตรียมตัวอะไร

นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล แถลงความคืบหน้ากรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดวินิจฉัยคดียุบพรรคก้าวไกล ในวันที่ 7 ส.ค.นี้ โดยไม่มีการไต่สวน

'รังสิมันต์' รับสภาพคงสู้คดียุบพรรคยากขึ้นหลังศาลรัฐธรรมนูญขีดเส้นตาย

'โรม' รับคงสู้คดียากขึ้น หลังศาล รธน.นัดชี้ขาดยุบก้าวไกล 7 ส.ค.นี้ ย้ำความสำคัญอยู่ที่กระบวนการ ยกพยานปากสำคัญควรได้ขึ้นไต่สวน ยันพรรคไม่ได้ล้มล้างการปกครอง