หอบหลักฐาน ร้องจเรตำรวจ พงส.ลาดกระบัง รวบรัดคีร่วมกันลักทรัพย์ ถูกศาลตัดสินคุก 7 ปี

'น.ส.ทัศนีย์'พร้อมทนายความหอบหลักฐาน ร้องจเรตำรวจ พงส.ลาดกระบัง รวบรัดคีร่วมกันลักทรัพย์ ถูกศาลตัดสินคุก 7 ปี โวยไม่เปิดโอกาสให้ได้ชี้แจงพยานหลักฐานข้อเท็จจริงอย่างเป็นธรรม

3 ธ.ค.2564 - ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) น.ส.ทัศนีย์ ลิ้มเจริญธัญญะผล พร้อมนายชณุนาท ณัฐภัทรกุล ทนายความ ได้นำหลักฐานเป็นเอกสารที่เกี่ยวข้องกับคดี เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนถึงพล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.) หลังได้รับความเดือดร้อนและไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการดำเนินคดีของพนักงานสอบสวนสน.ลาดกระบัง ในการแจ้งข้อกล่าวหาในคดีที่น.ส.ทัศนีย์ ตกเป็นจำเลยร่วมกับพวกอีก 7 คน ถูกกล่าวหาโดยพระครูปลัดสุชาติ ฐานจาโร ประธานมูลนิธิศูนย์ส่งเสริมพระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษว่า ร่วมกันเบียดบังเอาเงินจำนวน 41 ล้านบาท ของประธานมูลนิธิศูนย์ส่งเสริมพระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทยไป เป็นความผิดฐาน “ร่วมกันลักทรัพย์หรือร่วมกันรับของโจร ร่วมกันปลอม และใช้เอกสารสิทธิปลอม และเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติ หรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต” โดยที่ยังไม่สอบสวนจนสิ้นกระแสความเสียก่อน เหตุเกิดเมื่อปี 2559 และคดีความอยู่ในชั้นฎีกาของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ทั้งนี้มีพ.ต.อ.เกรียงศักดิ์ ชุติวุฒน์ รองผบก.คพ. ในฐานะนายตำรวจเวรอำนวยการเป็นตัวแทนรับมอบหนังสือ

น.ส.ทัศนีย์ เปิดเผยว่า คดีนี้ในชั้นสอบสวนพนักงานสอบสวนสน.ลาดกระบัง รับสอบสวนดำเนินคดี โดยไม่เปิดโอกาสให้ตัวเองได้ชี้แจงพยานหลักฐานข้อเท็จจริงอย่างเป็นธรรม จึงทำให้ตัวเองเสียโอกาสในการต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรม เมื่อคดีเข้าสู่การพิจารณาของศาล จนกระทั่งศาลมีคำพิพากษาชั้นต้นและชั้นอุทธรณ์ให้จำคุกตัวเอง จำนวน 7 ปี ส่วนจำเลยร่วมที่เหลือ รับคำพิพากษาแตกต่างกันไป และอยู่ในการสู้คดีชั้นฎีกา เช่นกัน

น.ส.ทัศนีย์ เปิดเผยว่า ตั้งแต่การต่อสู้คดีในจุดเริ่มต้นของศาลชั้นต้นและชั้นอุทธรณ์ ซึ่งส่วนตัวไม่รู้กฎหมาย หรือช่องทางในการร้องเรียนการทำงานของพนักงานสอบสวน จึงทำให้จำเป็นต้องใช้โอกาสนี้ขอความเป็นธรรมให้กับตัวเอง แม้ว่าคดีนี้ จะอยู่ในการพิจารณาในชั้นศาลฎีกาของศาลฯ แล้วก็ตาม

ขณะที่นายชณุนาท กล่าวว่า การทำงานของพนักงานสอบสวน รวบรัดคดีและไม่ยอมรับฟังข้อมูลข้อเท็จจริงจากพยานให้รอบด้าน ทั้งที่คดีนี้น.ส.ทัศนีย์ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในกระบวนการเบียดเบียนทรัพย์ไปเป็นของตัวเอง โดยน.ศทัศนีย์ เป็นหนึ่งในคนที่รู้จักกับจำเลยร่วมของคดีนี้เท่านั้น จึงทำให้น.ส.ทัศนีย์ ไว้ใจปล่อยให้มีการโอนเงินบางส่วนเข้ามาในบัญชีชื่อของตัวเองจริง แต่อ้างว่าไม่มีส่วนรู้เห็นในการกระทำผิดแต่อย่างใด

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้รับเรื่องราวร้องทุกข์ไว้สอบสวนดำเนินการตามขั้นตอน เพื่อส่งต่อให้กับผู้บังคับบัญชาพิจารณาต่อไป

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ผ่านฉลุย ‘สุวรรณภูมิ‘ เทสต์รันเวย์เส้นที่ 3 พร้อมเปิดใช้ปลายปี 67

‘สุวรรณภูมิ’ได้รับการสนับสนุนจากกองทัพอากาศ นำเครื่องบิน A320 ทำการทดลองปฏิบัติการ ทางวิ่งเส้นที่ 3 เน้นย้ำความพร้อมก่อนการเปิดให้บริการปลายปี67 หวังเพิ่มประสิทธิภาพรองรับการขยายตัวของการจราจรทางอากาศในอนาคต

ทอท.เล็งศึกษาเปิดคอมมูนิตี้มอลล์ - OUTLET ใกล้อาคารผู้โดยสาร

ทอท.เดินหน้าศึกษาพื้นที่เชิงพาณิชย์ “สุวรรณภูมิ” เตรียมพัฒนาคอมมูนิตี้มอลล์ ใกล้อาคารผู้โดยสาร สร้างจุดเช็คอินก่อนเดินทาง คาดแล้วเสร็จภายในปีนี้ หวังดันเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนรายได้นอกเหนือธุรกิจการบินกว่า 50%

'วิสนุ' รอลุ้นข้อมูลส่วยสติกเกอร์จาก 'วิโรจน์-นายกสมาพันธ์รถบรรทุก'

จเรตำรวจรอรับข้อมูลส่วยสติกเกอร์จาก 'วิโรจน์' เผยรักษาการผู้บังคับการทางหลวงมีอำนาจสั้งย้ายตำรวจที่ต้องสงสัยได้

จเรตำรวจ ชง ผบ.ตร. ฟันวินัย 4 ตำรวจ เอี่ยวพนันออนไลน์ 'พล.ต.ต.' ไม่รอด

พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.) มีหนังสือเรื่อง การแจ้งผลตรวจสอบข้อเท็จจริง ถึงนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ อ้างถึง หนังสือชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ด่วนที่สุด ที่ 17/2566 ลงวันที่ 16 ม.ค.2566

จตช. เร่งสอบ 'นายพล จ.' เอี่ยวเว็บพนัน รอเรียก 'ชูวิทย์-สันธนะ-อัจฉริยะ-ตั้ม' ให้ข้อมูล

พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.)​ กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบนายพล จ. ที่มีส่วนพัวพันอ้างว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเว็บพนันออนไลน์ ว่า โดยหลักยังไม่ทราบว่า นายพล จ.คือใคร