รวบตำรวจปลอม-ทหารเก๊ บุกบ้านกรรโชกทรัพย์เหยื่อ 3.1 ล้านบาท

23 เม.ย.2566-พล.ต.ท.ธิติ  แสงสว่าง ผบช.น., พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น.  พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น.,พล.ต.ต.สุระพรรณ นาทวรทัต ผบก.น.4  พ.ต.อ.วิชิต ถิรขจรวงศ์ ผกก.สส.บชน.พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน บก.น.4  เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.หัวหมาก  และ  ร.ท.เอกชาติ อ่อนทา หัวหน้าชุดพัฒนาสัมพันธ์มวลชน ที่ 4110 จว.สงขลานำกำลังสืบสวนติดตามจับกุมนายยะฝาด ชุมประมาณ อายุ 59 ปี  ,นายธนพัฒน์ เล็กมณี อายุ 26 ปี ที่อยู่ และนายธนมงคล ชาวสมุทร อายุ 38 ปี  โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันกรรโชกทรัพย์และร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใดหรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่น

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 11 เม.ย. 66 เวลาประมาณ 12.30 น. ขณะที่ผู้เสียหายได้พักอาศัยอยู่ที่บ้านพักที่เกิดเหตุ ได้มีชายจำนวน 4 คน แอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ กอ.รมน. และเจ้าหน้าตำรวจกองปราบ มาขอทำการตรวจค้นบ้านหลังที่เกิดเหตุ และได้แจ้งแก่ผู้เสียหายว่าได้กระทำความผิดฐานยักยอก ต่อมาได้เรียกรับเงินจากผู้เสียหายเป็นจำนวนเงิน 3,100,000 บาท หลังจากนั้นได้หลบหนีไป

ต่อมาวันที่ 13 เม.ย. 66 ผู้เสียหายได้มาพบพนักงานสอบสวน สน.หัวหมาก และให้การยืนยันว่ากลุ่มคนร้ายใช้รถยนต์ ยี่ห้ออีซูซุ มิวเซเว่น สีขาว เลขทะเบียน 1ชง-5306 กรุงเทพมหานคร เป็นยานพาหนะ มาที่บ้านที่เกิดเหตุ และได้ร่วมกันแสดงหมายค้นปลอม ขอเข้าบ้าน และร่วมกันกรรโชกทรัพย์สิน รวมเป็นเงิน 3,100,000 บาท   และขณะก่อเหตุ กลุ่มคนร้ายไม่ได้ใช้อาวุธในการข่มขู่ผู้เสียหายแต่อย่างใด แต่ผู้แจ้งเกรงว่าจะได้รับอันตรายแก่ตน ตลอดจนภรรยา,บุตรอายุ9 ปี กับ 6 ปี และแม่บ้าน อยู่ในบ้านดังกล่าว  จึงได้มอบเงินจำนวนดังกล่าว ให้กับกลุ่มคนร้ายไป

จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการพิสูจน์ทราบตัวบุคคลที่ร่วมกันก่อเหตุและทำการจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 คน โดยจับกุมนายยะฝาด ผู้ต้องหาที่ 1 ได้ที่ บริเวณสวนยางพารา ถนนบ้านหลังสวน หมู่ที่ 4 ตำบลทุ่งหมอ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา จับกุมนายธนพัฒน์ ผู้ต้องหาที่ 2 ได้ที่ บริเวณหน้าร้านเซเว่นอีเลฟเว่นสาขางวัดพระยาทำ แขวงบางช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย กทม.

และจับกุมนายธนมงคล ผู้ต้องหาที่ 3 ได้ที่ บริเวณหน้ามิตรอนันต์คอนโด บางขุนนนท์ 12 แขวงบางขุนนนท์ เขตบางกอกน้อย กทม. พร้อมด้วยของกลางเงินสด 200,000 บาท สร้อยทองคำ  ทองรูปพรรณ สร้อยข้อมมือทองคำ  รถตักรยานยนต์และอื่นๆที่ใช้ในการก่อเหตุรวม 25 รายการ ในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาทั้งสามคนให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัว ผู้ต้องหาทั้งสามคน พร้อมของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน สน.หัวหมาก ดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป

พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า กลุ่มมิจฉาชีพได้มีการหาช่องทางและกลอุบายในการกระทำความผิดโดยอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน และเกิดความเสียหายต่อหน่วยงานราชการที่ถูกแอบอ้าง  จะไม่ปล่อยให้คนกระทำความผิดลอยนวล   และ ผบช.น. สั่งการให้ สืบสวนนครบาลประสานงาน กองปราบปราม เร่งรัดดำเนินการขยายผลต่อไป เพราะเชื่อว่าน่าจะมีประชาชนตกเป็นเหยื่ออีก

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อดีตจเรตำรวจฯ ขอทำเรื่องเฉพาะหน้า ‘เพิ่มเงิน-สวัสดิการตำรวจ’ ก่อนจะไปเปลี่ยนประธาน ก.ตร.

ณะนี้มีการเคลื่อนไหวจะปฏิรูปตำรวจโดยตำรวจเอง หลักๆคือให้นายกรัฐมนตรีไม่เป็นประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร.  แต่ประธานจะมาจากการเลือกกันเองเหมือนคณะกรรมการข้าราชการอัยการ หรือ ก.อ. กระผม ไม่แน่ใจว่าจะเกิดผลดีกว่าเดิมหรือแย่กว่าเก่า

‘นักกฎหมายตำรวจ’ ถอดบทเรียน การเข้าระงับเหตุ ลดความสูญเสีย

ด้วยความเคารพความกล้าหาญ และเสียสละของผู้เสียชีวิต ควรแก่การยกย่องเป็นเกียรติประวัติสืบไป แต่การเข้าระงับเหตุ ของตำรวจไทยมีข้อผิดพลาด ต้องนำไปถอดบทเรียนแก้ไข

สลด! หนุ่มมุกดาหารโดนไฟดูด ดับคาเสาไฟฟ้าแรงสูง

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.มุกดาหาร ได้รับแจ้งเหตุว่ามีคนตายบนเสาไฟฟ้าแรงสูง บริเวณทางเข้าหมู่บ้านคำตุนาง ไปยังหมู่บ้านกุดโง้ง ตำบลมุก อำเภอเมือง

‘บิ๊กเอก’ ยกเสียงสะท้อนจากตำรวจ เจ็บปวดผู้มีอำนาจข่มขืนองค์กร ถึงเวลาต้องปฏิรูปตร.

อีกเสียงสะท้อนจากนายตำรวจ ที่สื่อสารออกมา อย่างเจ็บปวด เปรียบเทียบให้เห็นภาพองค์กรตำรวจ ผู้มีอำนาจทางการเมือง อดีตผู้บังคับบัญชาสูงสุด ทำอะไรไว้ ควรที่จะปฏิรูปตำรวจอีกหรือไม่

'อดีตผช.ผญบ.' ยิงกำนันสาวเจ็บสาหัส ก่อนฆ่าตัวตายหนีความผิด

'อดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน' ใช้อาวุดปืน .38 จ่อยิงกำนันสาว ต.แก่งโสภา จนบาดเจ็บสาหัส กลางงานเลี้ยง ก่อนยิงตัวเองเสียชีวิตหนีความผิด

ทั่นโรมเตือนสติตำรวจอย่างรีบปิดคดี 6 ศพชาวเวียดนาม

'โรม' หวัง ผลสอบ 'พบศพชาวต่างชาติ' โปร่งใส เตือน 'ตำรวจ' พึงสังวรณ์หากรีบปิดคดีให้เรื่องเงียบ จะสูญเสียศรัทธาในกระบวนการยุติธรรม-ทำลายภาพลักษณ์ของประเทศอย่างป่นปี้