บุกค้น 4 จุด ขยายผลจับเจ้าแม่ทุนจีนเทา 'สวมบัตร-อุ้มบุญ' พบทำลายเอกสาร

“บิ๊กโจ๊ก” นำทีมตรวจค้น 4 จุด เครือข่าย “นวพร” เจ้าแม่เอื้อทุนจีนเทาเข้าไทย-อุ้มบุญ เตรียมหารือมหาดไทยแก้ไขช่องโหว่การสวมบัตร

13 เม.ย.2566 - พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. พร้อมเจ้าหน้าที่ขยายผลเข้าตจรวจค้น 4 จุด หลังจากจับกุม น.ส.นวพร ภาเกียรติสกุล ที่นำชื่อของบุคคลต่างด้าวเข้าไปอยู่ในทะเบียนบ้าน เพื่อทำบัตรประจำตัวคนไม่มีสัญชาติไทย(บัตรชมพู) และมีส่วนเกี่ยวข้องกับการรับจ้างอุ้มบุญให้คนจีน โดยใช้กำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน บก.น.6 สน.บางรัก และ สน.ยานนาวา เข้าทำการตรวจค้น จุดที่1. บ้านของ น.ส.นวพร เลขที่ 89 ซอยสาทร 11 แขวงยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพฯ จุดที่2. ที่ตั้งบริษัท สหมงคลประกันภัย และ สมาคมส่งเสริมพัฒนาเศรษฐกิจไทย-จีน เลขที่ 7 ซอยสาทร 11 แขวงยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพฯ ซึ่ง น.ส.นวพรใช้ในการแอบอ้างกับคนจีนเพื่อหลอกลวงสร้างความน่าเชื่อถือ

จุดที่ 3. ที่ตั้งบริษัท ต้าตี้ ไบโอเทคโนโลยี จำกัด เลขที่ 9 ซอยสาทร 11 แขวงยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นบริษัทที่รับรองว่า นายหม่าหมิงชุน (ผู้เสียหายคดี สภ.หนองปรือ)เป็นพนักงาน และจุดที่ 4. สมาคมแต้จิ๋ว ซอยเย็นจิตร 12 ถนนจันทน์ แขวงทุ่งวัดดอน เขตสาทร กรุงเทพฯ ซึ่งสืบทราบว่า น.ส.นวพรได้ให้คนนำพยานหลักฐานไปซุกซ่อนในที่ดังกล่าว จากการตรวจค้นพบว่า มีการทำลายเอกสารสำคัญหลายอย่าง ที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีฉ้อโกงของ สน.ประเวศ รวมทั้ง เอกสารที่แสดงถึงความเชื่อมโยงกับบุคคลอื่น ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้รวบรวมเพื่อนำไปขยายผลดำเนินคดีต่อไป

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ปฏิบัติการเข้าค้นทั้ง 4 จุดในวันนี้ เป็นการขยายผลเพื่อแสวงหาพยานหลักฐานในการดำเนินคดีกับ น.ส.นวพร เพิ่มเติมเกี่ยวกับการสวมบัตรชมพูและการอุ้มบุญ ซึ่งจากนี้จะมีการดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม ทั้งกรณีการอำนวยความสะดวกในเรื่องการทำบัตรชมพูและการรับจ้างอุ้มบุญให้กับคนจีน นอกจากนี้จะมีการประชุมร่วมกับมหาดไทย เพื่อวางแผนในการแก้ไข ช่องโหว่ที่อาจส่งผลให้กลุ่มทุนจีนสีเทาเหล่านี้ สามารถดำเนินการเพื่อเอื้อประโยชน์ในการกระทำความผิดในประเทศไทย เพื่อเป็นการป้องกันการกระทำผิดของกลุ่มทุนจีนสีเทาที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'บิ๊กโจ๊ก' ลั่นกำลังใจดีอยู่แล้ว บอกให้ว่าไปตามกฎหมาย หลัง ผบ.ตร. เซ็นไล่ออก

พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีต รอง ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณี พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้ลงนามในคำสั่งไล่ออกจากราชการตามความเห็นของคณะกรรมการเสนอแนะการลงโทษ ผิดวินัยร้ายแรงเกี่ยวข้องกับพนันออนไลน์

'บิ๊กโจ๊ก' เคลื่อนไหว หลัง ผบ.ตร. เซ็นคำสั่งไล่ออก

ตามที่พล.ต.อ.กิติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้ลงนามในคำสั่งไล่ออกจากราชการ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร.แล้ว โดยเป็นการลงนามตามมติคณะกรรมการเสนอแนะการลงโทษ ตามมาตรา 125 วรรค3 แห่ง

ผบ.ตร. เซ็นไล่ออก 'บิ๊กโจ๊ก' เผยขั้นตอนยังอุทธรณ์ ก.พ.ค.ตร.-ฟ้องศาลปค.สูงสุด

พล.ต.อ.กิติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้ลงนามในคำสั่งไล่ออกจากราชการ  พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร.แล้ว  โดยเป็นการลงนามตามมติคณะกรรมการเสนอแนะการลงโทษ ตามมาตรา 125 วรรค3 แห่ง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติฯ พ.ศ.2565 ที่มี

คกก.กลั่นกรองโทษ มีมติไล่ออก 'บิ๊กโจ๊ก' ผิดวินัยร้ายแรงปมเว็บพนัน

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร.อาวุโสสูงสุด เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพิจารณาโทษที่มี รอง ผบ.ตร.ทุกคนเป็นกรรมการ เพื่อพิจารณาโทษวินัยร้ายแรงของ

'โจ๊ก' ยังนิ่ง! เมินข่าวลือไล่ออก ขอรอฟังผลสอบวินัยทางการ

พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีต รอง ผบ.ตร. กล่าวผ่านทางโทรศัพท์ ว่า ขณะนี้ตังเองยังไม่ทราบเรื่องผลมติการสอบวินัยร้ายแรงกรณีที่มีชื่อเข้าไปเกี่ยวข้องกับคดีเว็บพนันออนไลน์ โ

ผบ.ตร. เผยสอบวินัยร้ายแรง 'บิ๊กโจ๊ก' เสร็จแล้ว ยันไม่ยื้อเวลาพิจารณาตามขั้นตอน

ที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีครบกำหนด 270 วัน คณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร.ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพนันออนไลน์ว่า