จับตัวการใหญ่! ทลายเครือข่ายทุนจีนสีเทา 'สวมบัตร-อุ้มบุญ-ค้ามนุษย์' ก่อเหตุโชกโชน

11 เม.ย.2566 - ที่สโมสรตำรวจ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.เปิดเผยถึงกรณีเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นอาคาร 5 ชั้นย่านถนนสีลม แขวงสีลม เขตบางรัก กทม. พบบุคคลต่างด้าวจำนวน 7 ราย ภายในมีการแบ่งซอยเป็นห้องพัก และมีอุปกรณ์ไว้สำหรับดูแลหญิงไทยที่รับอุ้มบุญให้กับชาวจีน ขยายผลพบชายชาวจีนสวมบัตรประจำตัวคนไม่มีสัญชาติไทย (บัตรชมพู) ว่า จากการสืบสวนทราบว่า ชื่อเจ้าของสถานที่ดังกล่าวคือ น.ส.นวพร ภาเกียรติสกุล อายุ 53 ปี ซึ่งเป็นบุคคลที่ทำหน้าที่ในการนำรายชื่อบุคคลต่างด้าวเข้ามาอยู่ภายในบ้านเลขที่ดังกล่าว

โดยใช้วิธีการแจ้งเท็จต่อเจ้าหน้าที่ว่าเป็นญาติของตน และสำแดงเอกสารเท็จต่อเจ้าหน้าที่เพื่อให้เจ้าหน้าที่ย้ายชื่อบุคคลดังกล่าวเข้ามาในทะเบียนบ้านและออกบัตรชมพูให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานและขออนุมัติหมายจับ น.ส.นวพร ดำเนินคดีในความผิดฐาน ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม, ร่วมกันแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน และร่วมกันปลอมและใช้ดวงตรา รอยตรา หรือแผ่นปะตรวจลงตรา การเดินทางระหว่างประเทศ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุม น.ส.นวพร ได้เมื่อวันที่ 8 เม.ย.66 ที่ผ่านมา

นอกจากนี้ จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจยังพบว่า น.ส.นวพร นั้น เป็นบุคคลสัญชาติจีนที่ได้รับสัญชาติไทยจากการแต่งงานกับคนไทย จากนั้นได้หย่าร้าง และมีสามีใหม่เป็นคนสัญชาติจีน ก่อนจะมีลูกด้วยกัน 3 คน โดยบุตรทุกคนได้รับสัญชาติไทยตามมารดาทั้งหมด ซึ่งทำให้ได้รับสิทธิเช่นเดียวกับคนไทยในการประกอบธุรกิจต่างๆ ได้ตามปกติ

น.ส.นวพร เคยถูกดำเนินคดีเกี่ยวกับการหลอกลวงคนจีนมาลงทุนทำธุรกิจ ความเสียหายมากกว่า 700 ล้านบาท ถูกดำเนินคดีที่ สน.ประเวศ นอกจากนี้ จากการประสานข้อมูลกับทางการจีนพบว่า น.ส.นวพร มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ทั้งในจีน ไทย และกัมพูชา เป็นระยะเวลามากกว่า 10 ปี และมีทรัพย์สินในครอบครองเป็นบริษัทหลายแห่ง ซึ่งมีชื่อของญาติและบุตรของ น.ส.นวพร เป็นกรรมการบริหาร รวมทั้งที่ดินและรถหรูอีกจำนวนมาก ทั้งยังทำหน้าที่เป็นคนประสานงานอำนวยความสะดวกต่างๆ ให้กับกลุ่มทุนจีนสีเทาอีกด้วย

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า หลังจากที่เจ้าหน้าที่สืบสวนได้ทำการขยายผลกรณีกลุ่มทุนจีนสีเทามาเป็นเวลานาน ทำให้ทราบว่าเครือข่ายทุนจีนเหล่านี้มีความเชื่อมโยงกัน โดยมีเครือข่ายของ น.ส.นวพร ในการอำนวยความสะดวกช่วยเหลือคนจีนเหล่านี้ในการสวมบัตรและอุ้มบุญ เพื่อให้ทุนจีนสีเทาเหล่านี้สามารถประกอบธุรกิจหรือทำธุรกรรมต่างๆ เสมือนเป็นคนไทยคนหนึ่ง และเข้ามากระทำผิดในราชอาณาจักรไทย ดังนั้นจึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ขยายผลติดตามเส้นทางการเงินและความเกี่ยวข้องกับเครือข่าย น.ส.นวพร ทั้งหมด หากพบผู้ที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นคนจีน คนไทย หรือเจ้าหน้าที่รัฐ จะนำตัวมาดำเนินคดีทั้งหมด นอกจากนี้หากพบการกระทำผิดของ น.ส.นวพร ที่เป็นความผิดมูลฐาน ก็จะประสานงานร่วมกับ ปปง.ในการตรวจยึดอายัดทรัพย์สินเพิ่มเติมต่อไป

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'บิ๊กโจ๊ก' ลั่นกำลังใจดีอยู่แล้ว บอกให้ว่าไปตามกฎหมาย หลัง ผบ.ตร. เซ็นไล่ออก

พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีต รอง ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณี พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้ลงนามในคำสั่งไล่ออกจากราชการตามความเห็นของคณะกรรมการเสนอแนะการลงโทษ ผิดวินัยร้ายแรงเกี่ยวข้องกับพนันออนไลน์

'บิ๊กโจ๊ก' เคลื่อนไหว หลัง ผบ.ตร. เซ็นคำสั่งไล่ออก

ตามที่พล.ต.อ.กิติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้ลงนามในคำสั่งไล่ออกจากราชการ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร.แล้ว โดยเป็นการลงนามตามมติคณะกรรมการเสนอแนะการลงโทษ ตามมาตรา 125 วรรค3 แห่ง

ผบ.ตร. เซ็นไล่ออก 'บิ๊กโจ๊ก' เผยขั้นตอนยังอุทธรณ์ ก.พ.ค.ตร.-ฟ้องศาลปค.สูงสุด

พล.ต.อ.กิติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้ลงนามในคำสั่งไล่ออกจากราชการ  พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร.แล้ว  โดยเป็นการลงนามตามมติคณะกรรมการเสนอแนะการลงโทษ ตามมาตรา 125 วรรค3 แห่ง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติฯ พ.ศ.2565 ที่มี

คกก.กลั่นกรองโทษ มีมติไล่ออก 'บิ๊กโจ๊ก' ผิดวินัยร้ายแรงปมเว็บพนัน

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร.อาวุโสสูงสุด เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพิจารณาโทษที่มี รอง ผบ.ตร.ทุกคนเป็นกรรมการ เพื่อพิจารณาโทษวินัยร้ายแรงของ

'โจ๊ก' ยังนิ่ง! เมินข่าวลือไล่ออก ขอรอฟังผลสอบวินัยทางการ

พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีต รอง ผบ.ตร. กล่าวผ่านทางโทรศัพท์ ว่า ขณะนี้ตังเองยังไม่ทราบเรื่องผลมติการสอบวินัยร้ายแรงกรณีที่มีชื่อเข้าไปเกี่ยวข้องกับคดีเว็บพนันออนไลน์ โ

ผบ.ตร. เผยสอบวินัยร้ายแรง 'บิ๊กโจ๊ก' เสร็จแล้ว ยันไม่ยื้อเวลาพิจารณาตามขั้นตอน

ที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีครบกำหนด 270 วัน คณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร.ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพนันออนไลน์ว่า