ตำรวจไซเบอร์ ระดมกวาดล้างอาชญากรรมห้วงก่อนวันหยุดยาวสงกรานต์

ตำรวจไซเบอร์ ระดมกวาดล้างอาชญากรรมห้วงก่อนวันหยุดยาวสงกรานต์ จับกุมผู้ต้องหา และตรวจยึดของกลางจำนวนมาก

9 เม.ย.66 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษก บช.สอท. เปิดเผยว่า ในช่วงวันที่ 13 – 17 เม.ย.66 เป็นห้วงหยุดยาววันสงกรานต์ คาดว่าจะมีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาเป็นจำนวนมาก ประกอบกับนโยบายด้านการส่งเสริมให้ชาวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศนั้น นอกจากจะส่งผลกระทบต่อการเดินทางของประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนแล้ว มิจฉาชีพอาจฉวยโอกาสในช่วงเวลาดังกล่าวเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทำให้เกิดความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งภัยจากอาชญากรรมทางเทคโนโลยีซึ่งที่ผ่านมาได้สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนเป็นวงกว้าง

ระหว่างวันที่ 29 มี.ค. – 9 เม.ย 66 บช.สอท. ได้มีการกำหนดเป้าหมายระดมกวาดล้างอาชญากรรมทั่วไป ได้แก่ ความผิดเกี่ยวกับการพนัน ยาเสพติด การลักลอบหลบหนีเข้าเมือง อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน การสืบสวนจับกุมบุคคลตามหมายจับ เป็นต้น และอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ได้แก่ การหลอกลวงออนไลน์ด้านการเงิน การหลอกลวงจำหน่ายสินค้าออนไลน์ การเผยแพร่ข่าวปลอม คดีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ การล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กและสตรี การค้ามนุษย์ การพนันออนไลน์ และอาชญากรรมข้ามชาติ ทั้งนี้สามารถทำการจับกุมผู้กระทำความผิดได้กว่า 307 คดี ผู้ต้องหากว่า 329 ราย พร้อมทั้งตรวจยึดของกลางได้เป็นจำนวนมาก มีคดีสำคัญและน่าสนใจ เช่น ปฏิบัติการเหนือเมฆ ตรวจค้น 17 จุด ทั่วประเทศ จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายเว็บไซต์เงินหมุนเวียนกว่า 3,000 ล้านบาท, จับกุมผู้ต้องหาหลอกลวงให้เช่าบูชาพระเครื่องในกลุ่มต่างๆ กว่า 60 กลุ่ม, จับกุมผู้ต้องหาลักลอบจำหน่ายอาวุธปืนออนไลน์ รวมถึงจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับค้างเก่าอีกหลายคดี เป็นต้น นอกจากนี้แล้ว บช.สอท. ยังได้วางมาตรการป้องกัน ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบถึงกลโกง หรือแผนประทุษกรรมของมิจฉาชีพ ผ่านทางจอภาพในพื้นที่ต่างๆ หรือผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันไม่ให้ประชาชนตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพอีกด้วย

โฆษก บช.สอท. กล่าวเพิ่มเติมว่า ประชาชนส่วนใหญ่ที่เดินทางกลับภูมิลำเนาโดยใช้บริการขนส่งสาธารณะ ไม่ว่าจะเป็นการโดยสารเครื่องบิน รถโดยสารประจำทาง หรือรถไฟ พึงระมัดระวังการหลอกลวงของมิจฉาชีพที่มักให้สิทธิพิเศษต่างๆ นำไปสู่การสูญเสียทรัพย์สิน ควรตรวสอบให้ดีเสียก่อนทั้งนี้วันสงกรานต์ถือเป็นประเพณีที่สำคัญ ทำให้ผู้ที่ทำงานอยู่ต่างพื้นที่ได้เดินทางกลับภูมิลำเนา กลับมาใช้เวลาร่วมกันทำกิจกรรมกับครอบครัว จึงขอฝากไปยังประชาชน หรือลูกหลานที่ได้เดินทางกลับภูมิลำเนา ช่วยกันประชาสัมพันธ์ แจ้งเตือนญาติ พี่น้อง ผู้ปกครอง และบุคคลใกล้ชิด ให้ทราบถึงกลโกงของเหล่ามิจฉาชีพ ทราบถึงวิธีการ หรือรูปแบบของอาชญากรไซเบอร์ รวมไปถึงแนวทางการป้องกันไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ ไม่ว่าจะเป็นภัยจากมิจฉาชีพแก็งคอลเซ็นเตอร์ แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่หลอกให้ติดตั้งแอปพลิเคชันดูดเงิน หรือภัยจากการซื้อสินค้าออนไลน์ หรือภัยจากการหลอกลวงโอนเงินเพื่อหารายได้จากการทำงานออนไลน์ หรือภัยจากการหลอกลวงให้กู้เงิน หรือภัยหลอกลวงชักชวนให้ลงทุน เป็นต้น

อย่างไรก็ตามในปัจจุบันประชาชนสามารถสอบถาม ติดตามข้อมูลข่าวสาร การเตือนภัยในลักษณะต่างๆ ผ่านได้ในหลากหลายช่องทาง ได้แก่ สายด่วนตำรวจไซเบอร์ หมายเลข 1441 หรือ 081-866-3000 เพจเฟซบุ๊กตำรวจไซเบอร์ “ CybercopTH ” เพจเฟซบุ๊ก “ เตือนภัยออนไลน์ ” เว็บไซต์ตำรวจไซเบอร์ เว็บไซต์คณะทำงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันภัยอาชญากรรมทางเทคโนโลยี https://24hicarecenter.com/cybervaccinated

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ผงะ! สูญวันละ 80 ล้าน สถิติเหยื่ออาชญากรรมไซเบอร์  ‘ผู้หญิงวัยทำงาน’ เยอะสุด

จากสถิติการรับแจ้งความออนไลน์ คดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ในห้วงวันที่ 1 มีนาคม 2565 ถึง 30 มิถุนายน 2567 พบว่ามีการแจ้งความผ่านระบบแจ้งความออนไลน์ทั้งหมด 575,507 เรื่อง

ตร.ไซเบอร์เตือนภัย มิจฉาชีพฉวยวันฮาโลวีนอ้างแจกของฟรี หลอกเอาข้อมูลส่วนตัว

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษก บช.สอท. กล่าวว่า จากสถิติการรับแจ้งความผ่านศูนย์บริหารการรับแจ้งความออนไลน์พบว่า ในช่วงที่ผ่านมายังคงมีผู้เสียหายหลายรายถูกมิจฉาชีพหลอกลวงขายสินค้า และบริการออนไลน์อย่างต่อเนื่อง

ตร.ไซเบอร์ เปิด 7 รูปแบบเพจเฟซบุ๊กปลอม ที่มิจฉาชีพใช้หลอก ปชช.

จากการตรวจสอบจากศูนย์บริหารการรับแจ้งความออนไลน์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่าสามารถแบ่งรูปแบบของเพจ เฟซบุ๊กปลอมที่มิจฉาชีพมักใช้หลอกลวงประชาชนได้ จำนวน 7 รูปแบบ

ตำรวจเตือน 3 ภัยออนไลน์ ระวัง ข้าราชการเกษียณ สูญเงิน

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษก บช.สอท. กล่าวว่า ตามที่ในช่วงเดือนกันยายนของทุกปี จะมีข้าราชการต่างๆ ครบกำหนดอายุการรับราชการ หรือที่เรียกว่าเกษียณอายุราชการนั้น ก็เป็นเรื่องหนึ่งที่มีมิจฉาชีพมักนำมาใช้หลอกลวงประชาชน