จับได้แล้ว 3 ชาวจีนอุ้มฆ่านักศึกษาแลกเปลี่ยนที่ไทย

4 เม.ย. 2566 – ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) เปิดเผยว่า ล่าสุดทางการจีนสามารถจับกุมนายโจว เผิงเฟย อายุ 24 ปี, นายเฉิน ไซกัง อายุ 23ปี และนายโจว เซี่ยวเฟย อายุ 23 ปี เหอชาวมลฑลเป่ย ประเทศจีน ผู้ต้องหาตามหมายจับข้อหา ร่วมกันก่อเหตุฆาตกรรม น.ส.จิน ซ่าน นักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ย่านธนบุรี ได้แล้ว หลังก่อเหตุได้หลบหนีไปกบดานในประเทศจีน โดยสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองของไทยได้ส่งพนักงานสอบสวนไปถึงยังกรุงปักกิ่งแล้ว อยู่ระหว่างเดินทางไปสอบปากคำผู้ต้องหาร่วมกับทางการจีนถึงสาเหตุการฆาตกรรมครั้งนี้ ซึ่งการสอบสวนจะร่วมกันทั้งสองประเทศเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับขั้นตอนการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาแบ่งเป็น 2 แนวทาง คือ เหตุที่เกิดขึ้นครั้งนี้ผู้ต้องหาและผู้เสียชีวิตเป็นคนจีนที่เหตุเกิดนอกประเทศจีนและทางการจีนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ภายในประเทศจีน ทางการจีนสามารถดำเนินคดีได้ที่ประเทศจีน โดยไม่ต้องส่งตัวผู้ต้องหากลับมาประเทศไทย เพราะกฎหมายของประเทศจีน มีอัตราโทษสูงถึงประหารชีวิต ซึ่งตามขั้นตอนตำรวจไทยจะต้องรวบรวมพยานหลักฐานทั้งก่อนและหลังเกิดเหตุ รวมทั้งการแจ้งความที่อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับคดี ส่งไปให้ทางการจีนเพื่อพิจารณาคดีในชั้นศาล

” ในทางกลับกันหากเป็นคนไทยที่ก่อเหตุฆาตกรรมกันเองต่างประเทศ แล้วทางการไทยจับผู้ต้องหาได้ในประเทศไทยก็สามารถนำตัวกลับมาดำเนินคดีที่ไทยได้เช่นกัน ส่วนกรณีที่มีการสอบปากคำหญิงไทย ที่เป็นสาวคาราโอเกะวัย 19 ปี ย่านอินทามระ ที่เป็นนกต่อ ถือว่าให้การที่เป็นประโยชน์ แต่ในรายละเอียดไม่สามารถเปิดเผยได้เพราะอยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผล”ผบ.ตร.ระบุ

ทั้งนี้ มีรายงานว่ามีหญิงไทยคนดังกล่าวเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องช่วยเหลืออำนวยความสะดวกและรู้เห็นการก่อเหตุทั้งหมด และเจ้าหน้าที่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหา กับหญิงสาวคนดังกล่าวแล้ว ส่วนจะมีบุคคลอื่นส่วนเกี่ยวข้อถึงขั้นร่วมลงมือก่อเหตุด้วยหรือไม่ ยังไม่สามารถตอบได้ต้องรอการสืบสวนขยายผลของเจ้าหน้าที่

ด้าน เพจ ลุยจีน แชร์ข้อมูลระบุว่า #จับได้แล้ว3ชาวจีนอุ้มฆ่านักศึกษาจีน

ตำรวจจีนจับได้แล้วครับ รวบตัวที่มณฑลเหอเป่ย หลังจากหลบหนีออกจากไทยบินไปที่เฉิงตู คนร้ายอายุ 23-24 ปีเท่านั้น จุดสำคัญคือมีสาวไทยที่ร่วมขบวนการสมรู้ร่วมคิดอีก 1 คน!!!

ข้อสังเกตที่น่าสนใจของคดีนี้ จากที่ตำรวจจีนสอบสวนคนร้ายทั้งสามคือ…มีพฤติกรรมแบบวางแผนไว้ล่วงหน้า + Romance Scam คือเล็งเหยื่อสาวชาวจีนที่พ่อเหยื่อเป็นครูสอนดนตรีฐานะระดับเศรษฐี โดยตามสืบข้อมูลตั้งแต่เหยื่อเรียนปี 1-2 ที่จีน จากนั้นทักมาตีสนิทกับเหยื่อ โดยให้ 1 ในคนร้ายเป็นคนจีบ จากนั้นพอเหยื่อมาแลกเปลี่ยนปี 3 ที่ไทยก็บินมาไทย เช่าบ้านไว้พร้อม(สัญญาเช่า 10 วัน) เมื่อสบโอกาสก็จะชวนเหยื่อมาพบหน้า แล้วอุ้มเรียกค่าไถ่

เบื้องต้นคนร้ายให้การกับตำรวจจีนว่า เผลอพลั้งมือฆ่าสาวจีนคนดังกล่าว ในคืนที่ส่งข้อความไปเรียกค่าไถ่กับพ่อเหยื่อแต่พ่อเหยื่อไม่ได้โอนเงินมาให้ และไม่มีการติดต่อกลับมาใดๆจากพ่อเหยือ จึงโกรธและทรมานเหยื่อซ้ำๆจนเหยื่อทนไม่ไหวเสียชีวิต คนร้ายทั้งสามจึงรีบนำศพใส่ถุงไปทิ้งในหนองน้ำป่าข้างทาง แล้วรีบบินกลับไปกบดานที่จีน

จุดที่ชาวเน็ตจีนจำนวนมากยังสงสัยอยู่คือ…ทำไมพ่อเหยื่อคนดังกล่าว เมื่อได้รับข้อความเป็นภาพลูกสาวตัวเองถูกจับทรมานมีรอยบาดแผล ถึงไม่พยายามโอนเงิน(5 แสนหยวนที่ถูกเรียกพ่อเหยื่อสามารถจ่ายได้แน่ๆ) ไม่ได้แจ้งความกับตำรวจจีน หรือแม้แต่จะติดต่อกับทางมหาวิทยาลัยเพื่อยืนยันใดๆเลย?? (เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยที่ดูแลที่ไปแจ้งความกับตำรวจว่า นศ จีนหายตัวไป จนในเวลาต่อมาไปพบศพ) และในตอนนี้ตำรวจจีนก็เรียกพ่อของเหยื่อมาสอบสวนอยู่เช่นกัน

ซึ่งในตอนนี้ตำรวจกำลังคุมตัวคนร้ายทั้งสามที่มณฑลเหอเป่ย คาดว่าหลังสอบสวนเสร็จจะส่งมารับโทษที่ไทยก่อน แล้วเมื่อพ้นโทษที่ไทยแล้วจะต้องส่งคนร้ายกลับมารับโทษต่อที่จีน ซึ่งที่จีนเป็นโทษประหารแน่นอน.012

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เคลียร์ปมร้อน! 'บิ๊กต่อ-กมธ.มั่นคง' ไม่เห็นด้วยดึงตร.จีนเข้ามาดูแลนักท่องเที่ยว

นายรังสิมันต์ โรม ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร พาคณะ กล่าวภายหลังเข้าร่วมประชุมกับ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อสอบถามกรณี

'บิ๊กเด่น' เรียก 'ผบช.สตม.' หารือทบทวนวีซ่า VOA ปมแก๊งมังกรอุ้มฆ่านักศึกษาจีน

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงคดีกลุ่มผู้ต้องหาชาวจีนที่่ร่วมกันก่อเหตุฆาตกรรม นศ.จิน ซ่าน นักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ย่านธนบุรีว่า พบว่าเดินทางมาที่ไทยเมื่อวันที่ 8 มี.ค.66