“บิ๊กโจ๊ก”สั่งชุดสืบเร่งติดตามแก๊งค์ผู้ต้องหาชาวจีนอุ้มเรียกค่าไถ่หนองปรือ เร่งออกหมายแดงอินเตอร์โพลตามจับคนร้ายหนีต่างประเทศ
24 มี.ค.2566 - ที่ สภ.เมืองพัทยา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.ติดตามความคืบหน้าเหตุชาวจีน 2 ราย ถูกแก๊งคนร้ายชาวจีนอุ้มรียกค่าไถ่จากสามีเป็นเงิน 5 แสนบาทโดยให้จ่ายเป็นเงินสกุล USDT ก่อนบินหลบหนีต่างประเทศ เหตุเกิดในพื้นที่ สภ.หนองปรือ ภ.จว.ชลบุรี วันที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมา
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า กรณีดังกล่าว พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้สั่งให้เร่งสืบสวนติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่ก่อเหตุในคดีดังกล่าวโดยเร็ว เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญที่ประชาชนทั้งชายไทยและชาวต่างชาติให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศไทย จึงได้สั่งการให้ พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.ภ.2, พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ กิจจาหาญ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี และ พ.ต.อ.ทวี กุดแถลง ผกก.สภ.หนองปรือ เร่งสืบสวนจับกุมคนร้ายในคดีดังกล่าวมาดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด
จากการสืบสวนทราบว่า การก่อเหตุครั้งนี้มีการเตรียมการวางแผนเป็นอย่างดี เชื่อว่าแก๊งคนจีนดังกล่าวได้วางแผนกันมาจากประเทศจีน โดยมีการตรวจสอบข้อมูลของผู้เสียหายมาก่อน จนทราบว่าผู้เสียหายมีการใช้ชีวิตประจำวันอย่างไร และมีทรัพย์สิน
จากนั้นจึงได้บินมายังประเทศไทยจำนวน 4 ราย และเข้าพักที่โรงแรมในเขตกรุงเทพมหานคร เพื่อเตรียมการวางแผนเข้าก่อเหตุ โดยมีเครือข่ายคนจีนในประเทศไทยสนับสนุนรถยนต์เพื่อใช้ในการก่อเหตุ จากนั้นได้ย้ายไปพักในโรงแรมในพื้นที่เมืองพัทยาเพื่อเตรียมเข้าก่อเหตุจริง โดยมีการศึกษาเส้นทางและสะกดรอยผู้เสียหาย
จากนั้นตามวันเวลาเกิดเหตุจึงได้เข้าก่อเหตุดังกล่าว โดยได้อุ้มผู้เสียหายขึ้นรถของตนที่เตรียมมา และได้ขับรถของผู้เสียหายไปทิ้ง จากนั้นได้พาผู้เสียหายไปที่บริเวณเขายายร้า อ.บ้านฉาง จ.ระยอง โดยเตรียมอุปกรณ์ยังชีพในป่าไปด้วย จากนั้นจึงได้ส่งคลิปวิดีโอไปให้กับสามีของผู้เสียหายเพื่อเรียกเงินค่าไถ่
หลังจากได้เงินตามที่ต้องการแล้ว เวลาประมาณ 13.00 น. จึงได้ปล่อยตัวผู้เสียหายโดยให้เดินกลับเอง ก่อนจะรีบจองตั๋วเครื่องบินกลับประเทศจีนโดยทันที
รอง ผบ.ตร.เผยอีกว่า หลังเกิดเหตุ ผู้เสียหายที่ถูกจับกุมตัวไปได้รับการช่วยเหลือโดยปลอดภัย และตำรวจสามารถสกัดการหลบหนีจนจับกุมตัวผู้ต้องหาได้จำนวน 1 ราย ที่สนามบินสุวรรณภูมิ จึงได้นำมาสอบถามและรวบรวมขยายผลจนสามารถขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหารวมทั้งสิ้น 4 ราย ประกอบด้วย1. นายหู ไฮ่หยาง (Mr.Hu Hai Yang) (จับกุมได้) 2. นายเฉิน วาน (Mr.Chen Wan) 3. นายเฉิน ฮัว (Mr.Chen Hua) 4. นายอิน ตง (Mr.Yin Dong)
นอกจากนี้ จากการสืบสวนยังพบว่า ฝ่ายผู้เสียหายจำนวน 3 คน มีพฤติการณ์ในการเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จึงได้สั่งการให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย และให้มีการสืบสวนขยายผลเกี่ยวกับพฤติการณ์ต่อเนื่องว่า มีการเข้ามาในประเทศไทยเพื่อจุดประสงค์ใด หากพบการกระทำผิดเพิ่มเติมจะให้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมา มีการก่อเหตุในลักษณะที่เป็นแก๊งคนจีนเข้ามาอุ้มคนจีนเพื่อเรียกค่าไถ่มากขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทยเป็นอย่างมาก ท่าน ผบ.ตร.จึงได้สั่งการให้มาเร่งรัดการสืบสวนจับกุมผู้ต้องหาที่ก่อเหตุในคดีนี้โดยเร็ว
ขณะนี้สามารถออกหมายจับผู้ก่อเหตุได้แล้วทั้งหมด 4 ราย จับกุมแล้ว 1 ราย ส่วนอีก 3 รายจะเร่งสั่งการ ตท. ประสานขอหมายแดงตำรวจสากล เพื่อประสานกับทางการจีนในการติดตามจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย เพื่อนำกลับมาดำเนินคดีที่ประเทศไทยต่อไป
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่สืบสวนยังพบข้อพิรุธบางอย่างของฝ่ายผู้เสียหาย เนื่องจากมีพฤติกรรมหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย มีการรับรองบุตรจากหญิงชาวไทย เชื่อว่าอาจมีการว่าจ้างในการอุ้มบุญ นอกจากนี้ผู้เสียหายยังมีบัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย (บัตรชมพู) ดังนั้นจึงได้สั่งการให้ดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง และให้เจ้าหน้าที่สืบสวนตรวจสอบข้อมูลโดยละเอียดว่า กลุ่มผู้เสียหายหลบหนีเข้ามาทำอะไร หากพบว่ามีการกระทำผิดกฎหมายเพิ่มเติมก็จะสั่งให้มีการดำเนินคดีโดยเด็ดขาดต่อไป
ทั้งนี้เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติว่า ประเทศไทยสามารถมอบความปลอดภัยให้กับประชาชนได้ และให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาโดยถูกต้องเป็นอย่างดี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ประเดิมรายแรก! หนุ่มต่างด้าววัย 23 โดนถอนสัญชาติไทย ทำผิดคดีขนแรงงานเถื่อน
ความคืบหน้ากรณี พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม. พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. พล.ต.ต.ชัยฤทธิ์ อนุฤทธิ์ ผบก.ตม.3 สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง
'บิ๊กโจ๊ก' เคลื่อนไหว หลัง ผบ.ตร. เซ็นคำสั่งไล่ออก
ตามที่พล.ต.อ.กิติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้ลงนามในคำสั่งไล่ออกจากราชการ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร.แล้ว โดยเป็นการลงนามตามมติคณะกรรมการเสนอแนะการลงโทษ ตามมาตรา 125 วรรค3 แห่ง
ผบ.ตร. เซ็นไล่ออก 'บิ๊กโจ๊ก' เผยขั้นตอนยังอุทธรณ์ ก.พ.ค.ตร.-ฟ้องศาลปค.สูงสุด
พล.ต.อ.กิติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้ลงนามในคำสั่งไล่ออกจากราชการ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร.แล้ว โดยเป็นการลงนามตามมติคณะกรรมการเสนอแนะการลงโทษ ตามมาตรา 125 วรรค3 แห่ง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติฯ พ.ศ.2565 ที่มี
คกก.กลั่นกรองโทษ มีมติไล่ออก 'บิ๊กโจ๊ก' ผิดวินัยร้ายแรงปมเว็บพนัน
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร.อาวุโสสูงสุด เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพิจารณาโทษที่มี รอง ผบ.ตร.ทุกคนเป็นกรรมการ เพื่อพิจารณาโทษวินัยร้ายแรงของ
ผบ.ตร. แจงยิบส่ง 40 อุยกูร์กลับจีน ไทยส่งจนท.ระดับสูงคอยติดตามความปลอดภัย
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงการส่งตัวชาวอุยกูร์ให้ทางการจีนจำนวน 40 คนในช่วงกลางดึกคืนที่ผ่านมาว่า เรื่องนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ผบ.ตร. แจงเป็นเรื่องความมั่นคง พูดเยอะไม่ได้ ปมส่งชาวอุยกูร์กลับจีน
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีที่มีภาพรถบรรทุกกักขังสีเลือดหมูคาดขาว ใช้เทปสีดำปิดบังช่องหน้าต่างรอบคันและปิดบังโลโก้ของหน่วยงานบริเวณประตูรวม 6 คัน