ศาลอาญา อนุญาตฝากขัง “นารา เครปกะเทย” ด้านทนายความเผย ไม่ขอยื่นประกันตัวในวันนี้ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงรอนำตัวไปคุมขังที่เรือนจำ
22 มี.ค.2566 - เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ.) ได้นำตัว นายอนิวัติ ประทุมกลิ่น อายุ 23 ปี หรือ “นารา เครปกะเทย” ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 751/2566 ลงวันที่ 20 มี.ค.2566 คดีฉ้อโกงขายกล่องสุ่ม มายื่นขออำนาจศาลฝากขัง ครั้งแรก ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน โดยทุจริต หรือ โดยหลอกลวง,นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนฯ ซึ่งผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ
คำร้องฝากขังระบุพฤติการณ์ว่า สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายกับพวก ได้เข้าร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับนายอนิวัต หรือ“นารา เครปกะเทย” กรณีผู้ต้องหาได้โฆษณาผ่านสื่อโซเชียลต่างๆ ชักชวนให้ผู้เสียหายและประชาชนทั่วไปร่วมลงทุนซื้อซื้อกล่องสุ่มทองนารา โดยเริ่มต้นที่ราคากล่องละ 1 หมื่นบาท , 5 หมื่นบาท, 1 แสนบาท และ 2.5 แสนบาท อ้างว่าจะให้ผลตอบแทนแก่ผู้ที่ลงทุน หลังจากนั้นผู้ต้องหาได้ยุติการขายกล่องสุ่ม ต่อมาได้ชักชวนผู้เสียหายให้ลงทุน โดยใช้คำว่าบิดเบือนแทน เช่นเปิดบิล 5 หมื่นบาทจะได้รับผลตอบแทนเป็นเงินสด จำนวน 7.5 หมื่นบาท ภายใน 1 เดือน , เปิดบิล จำนวน 4 พันบาท จะได้รับผลตอบแทนเป็นเงินสด จำนวน 8 พันบาท ภายใน 34 วัน แต่ประกฎว่า เมื่อลงทุนไปแล้ว ผู้เสียหาย ไม่ได้รับทองคำและเงินตามที่ผู้ต้องหากล่าวอ้าง เป็นเหตุให้ประชาชนได้รับความเสียหาย จำนวน 5 ราย มูลค่าทั้งสิ้น 885,000 แสนบาท
และจากการสอนสวน ร.ต.ทรงพล เบี้ยวทุ่งน้อย ตำแหน่งนิติกร ประจำส่วนป้องปรามการเงินนอกระบบ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง ในประเด็นเกี่ยวกับการลงทุนดังกล่าวมีใจความว่าการลงทุนดังกล่าวมีการเสนอจ่ายผลประโยชน์ตอบแทน ซึ่งถือว่าเป็นการจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนในอัตราที่สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยสูงสุดที่สถาบันการเงินตามกฎหมายว่าด้วยดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมของสถาบันการเงินจะพึงจ่ายได้ตามพ.ร.บ.ดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมของสถาบันการเงิน พ.ศ.2523 ทั้งนี้อัตราดอกเบี้ยสูงสุดที่สถาบันการเงินจะพึงจ่ายได้ในช่วงเวลาเกิดเหตุ อัตราร้อยละ 3.80 ต่อปี
การกระทำของผู้ต้องหาจึงเข้าข่ายเป็นการกระทำความผิดฐาน กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และปรากฎจาการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า นารา เครปกะเทย หรือ นายอนิวัต ประทุมถิ่น ผู้ต้องหาได้ชักชวนผู้เสียหายในคดีนี้รวมทั้งบุคคลทั่วไปผ่านสื่อโซเชี่ยล เช่น เฟซบุ๊ก และ tiktok.ของผู้ต้องหา ให้ร่วมลงทุนซื้อกล่องสุ่มทองนาราเมื่อผู้เสียหายและประชาชนทั่วไปหลงเชื่อ ได้โอนเงินเข้าบัญชีของผู้ต้องหา
หลังจากนั้นได้ประกาศยุติการขายกล่องสุ่ม เป็นเหตุให้ได้รับความเสียหาย.ซึ่งความจริงแล้วผู้ต้องหาไม่มีเจตนาจะลงทุนขายกล่องสุ่ม หรือวางบิล เพื่อค้าขายให้ได้กำไรมาแบ่งให้ผู้เสียหายมาตั้งแต่ต้น แต่เป็นการหลอกลวง ชักจูงให้คนมาลงทุน เพื่อนำเงินของคนใหม่มาจ่ายคนเก่า จากพยานหลักฐานดังกล่าวจึงมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่านายอนิวัต ผู้ต้องหาได้กระทำความผิดตามพฤติการณ์ดังกล่าวพนักงานสอบสวนจึงได้รวนรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลอาญาออกหมายจับ
ต่อมาเมื่อวันที่ 21 มี.ค.2566 เวลา 09.20 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมนายอนิวัต ผู้ต้องหาตามหมายจับ ได้ที่ ต.บ้านกรด อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา จึงแจ้งข้อหาฉ้อโกงประชาชน โดยทุจริต หรือ โดยหลอกลวง,นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือ ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือ ข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน, กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนและโฆษณาเป็นการสนับสนุนโดยตรงหรือโดยอ้อมให้มีการกระทำผิดกฎหมายหรือศีลธรรม หรือนำไปสู่ความเสื่อมเสียในวัฒนธรรมของชาติ ซึ่งถือว่าเป็นข้อความที่ไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค หรือเป็นข้อความที่อาจจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อสังคมเป็นส่วนรวม อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341,343 วรรคแรก ประกอบ มาตรา83 พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 14 (1) , พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 มาตรา 4 และพ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2522 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 22,48 ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป จากนั้นจึงคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนกองกับการ1 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ.) ดำเนินคดีตามกฎหมาย
เหตุเกิดที่ซอยเทิดราชัน 13 แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กทม. เมื่อระหว่างวันที่ 21 มี.ค. 2566 -28 ก.ค.2566 เกี่ยวพันกันหลายท้องที่
ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนยังระบุ ว่า ขอคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหา นอกจากนี้ได้ดำเนินการสอบสวนผู้ต้องหามาจะครบ 48 ชั่วโมงแล้ว แต่ยังไม่แล้วเสร็จ ยังต้องสอบสวนพยานอีก 5 ปาก รอผลการตรวจพิสูจน์ของกลาง และรอผลการตรวจสอบลายพิมพ์นิ้วมือและประวัติการต้องโทษของผู้ต้องหา จึงขออำนาจศาลฝากขังครั้งแรก มีกำหนด 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 22มี.ค.-2 เม.ย.2566
ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ฝากขังได้
ภายหลังศาลอนุญาตฝากขังแล้ว ทีมทนายความนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ประธานเครือข่าย ทนายคลายทุกข์ทนายความของ นายอนิวัติ หรือ นารา เครปกะเทยได้เปิดเผยว่า วันนี้ศาลอนุญาตฝากขัง ซึ่งในฐานะทนายความก็ได้ให้คำแนะนำกับลูกความว่า จะยังไม่ขอยื่นประกันตัวในวันนี้ โดยรอให้เวลาผ่านไปสักระยะหนึ่งแล้วค่อยยื่นประกันตัวจะดีกว่า โดยไม่เกี่ยวกับจำนวนหลักทรัพย์แต่อย่างใด เป็นเรื่องของเหตุผลประกอบคำขอยื่นประกันตัว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนี้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จะนำตัวนายอนิวัติ หรือ นารา เครปกะเทย ไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครระหว่างฝากขังต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ตร. เรียก 'เจ๊อ้อย' ให้ข้อมูลเพิ่ม 2 คดี 'ทนายตั้ม' วางแผนเป็นผู้จัดการมรดก-เงิน 39 ล้าน
พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก. กล่าวถึงความคืบหน้าคดีฉ้อโกงเงิน น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือเจ๊อ้อย จำนวน 39 ล้านบาท ว่า ขณะนี้คดีมีความคืบหน้าไปมาก สอบปากคำพยานบุคคลต่างๆไปแล้วจำนวนหลายปาก รวมถึงสืบพบพยานหลักฐานสำคัญเพิ่มเติมหลายอย่าง
แก้วสรร ออกบทความ จับหมาไปขังได้แล้ว!!!
นายแก้วสรร อติโพธิ เผยแพร่บทความเรื่อง จับหมาไปขังได้แล้ว!!! ผ่านเว็บไซต์ www.thaipost.net มีเนื้อหาดังนี้
ตั้งกรรมการสอบ 'ผกก.สน.บางซื่อ' คดีตั้มษิทราอ้างสแกมเมอร์ดูดเงิน 39 ล้าน
พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ได้ลงนามในหนังสือเลขที่ 0015/437 ลง 8 พ.ย. 67 มีคำสั่งให้ พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รอง ผบช.น. (รับผิดชอบงานจเร) ตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง พ.ต.อ.ภูวดล อุ่นโพธิ ผก
อ้าว 'ทนายของษิทรา' ยัน 71 ล้านเป็นเงินเจ๊อ้อยให้ลงทุน งง 'ตั้ม' ทำไมอ้างได้มาโดยเสน่หา!
นายสายหยุด เพ็งบุญชู ทนายความของทนายตั้ม หรือ ‘ทนายตั้ม’ ให้สัมภาษณ์ในรายการโหนกระแส กรณีทนายตั้มรับเงินก้อนใหญ่ที่สุด คือ เงิน 71 ล้าน จากคุณอ้อย ผู้เสียหายในคดีฉ้อโกงเป็นปกติธุระ โดยนา
'นิพิฏฐ์' เขียนถึง 'ตั้มษิทรา-เพื่อนทนาย'
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ทนายความ อดีตสส.พรรคประชาธิปัตย์ โสต์เฟซบุ๊กเรื่อง "ขี้สงสาร" ระบุว่า ผมน่าจะมีจุดอ่อนอยู่เรื่องหนึ่ง คือ ขี้
'ทนายตั้ม' พร้อมนอนคุก! เตรียมหลักทรัพย์ยื่นประกันเฉพาะเมีย
ทนายเผย 'ตั้ม' ยังไม่ยื่นประกันตัววันนี้ เตรียมหลักทรัพย์ประกันเฉพาะเมียแทน 'ทนายเจ๊อ้อย’ โผล่ ยื่นค้านประกันตัวชี้มีพฤติกรรมหลบหนี หวั่นยุ่งเหยิงพยาน