ตร.เตือน พ.ร.ก.อาชญากรรมทางเทคโนโลยีฯใหม่ เปิดบัญชีม้าโทษหนัก

19 มี.ค.2566-พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแผ่ พระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 มีผลบังคับไปแล้วเมื่อ 17 มี.ค.66  โดยกฎหมายฉบับนี้ ออกมาเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน จากการถูกหลอกหลวงฉ้อโกงออนไลน์ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. จึงสั่งการตำรวจทั่วประเทศ ในฐานะหน่วยหลักการบังคับใช้กฎหมาย ปฏิบัติตามกฎหมายดังกล่าวแล้ว พร้อมกับแจ้งข้อกฎหมาย แนวทางการปฏิบัติให้ประชาชนรับทราบ

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอประชาสัมพันธ์ แจ้งให้ประชาชนรับทราบ เข้าใจหลักการตาม พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 ดังนี้   1. อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ คดีออนไลน์เพื่อฉ้อโกง กรรโชก และรีดเอาทรัพย์ ถือเป็นคดีที่ต้องอยู่บังคับของกฎหมายฉบับนี้  2.กรณีเพื่อการป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ มีเหตุสงสัยว่าอาจจะมีการทำผิดทางเทคโนโลยี สถาบันการเงินและผู้ประกอบธุรกิจ มีอำนาจแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีและธุรกรรมของลูกค้าผ่านระบบการแลกเปลี่ยนข้อมูล โดยไม่ถือว่าบัญชีม้าเป็นข้อมูลที่ได้รับรองตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล  ดังนั้นข้อมูลบัญชีม้า จะถูกธนาคารและเจ้าหน้าที่ส่งต่อให้กัน เพื่อระงับช่องทางการทำธุรกรรมและอายัดบัญชีด้วยความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ช่วยระงับความเสียหายของผู้เสียหายได้

3. ผู้ให้บริการโทรคมนาคม มีอำนาจแลกเปลี่ยนข้อมูล ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงาน ปปง. และหน่วยงานที่ได้รับอนุญาตเข้าถึงข้อมูลที่มีการแลกเปลี่ยนได้  4. ผู้เสียหายสามารถแจ้งข้อมูลไปยังสถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจเพื่อแจ้งให้สถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจที่รับโอนระงับการทำธุรกรรมไว้ทันทีเป็นการชั่วคราว จากนั้นให้ผู้เสียหายร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนภายในเวลา 72 ชั่วโมง โดยมีการระบุขั้นตอนในการระงับการทำธุรกรรม ไว้ชัดเจน และรวดเร็ว เพื่อป้องกันไม่ให้คนร้ายทำธุรกรรมได้ง่ายเหมือนแต่ก่อน และเมื่อผู้เสียหายไปร้องทุกข์แล้ว พนักงานสอบสวนจะพิจารณาดำเนินการกับบัญชีธนาคารดังกล่าวภายใน 7 วัน      

     5.มีการเพิ่มช่องทางการแจ้งเหตุ โดยกำหนดให้ผู้เสียหายแจ้งข้อมูลโดยง่ายและเร็ว สามารถแจ้งข้อมูลหรือหลักฐาน ทางโทรศัพท์หรือวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์กับสถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจได้  6.ผู้เสียหาย สามารถแจ้งความร้องทุกข์กับ พงส.ที่ใดก็ได้ โดยไม่ต้องถามว่าเหตุเกิดที่ใดในประเทศไทย หรือแจ้งผ่านระบบแจ้งความออนไลน์ถือว่าเป็นการร้องทุกข์ และ พงส.นั้นมีอำนาจสอบสวนตาม ป.วิ อาญา      ซึ่ง ตร.ได้มีวิทยุสั่งการไปยังพนักงานสอบสวนทั่วประเทศให้พนักงานสอบสวนรับคำร้องทุกข์ จากพี่น้องประชาชนที่เดินทางมาแจ้งความที่สถานีตำรวจ โดยถือว่าเป็นพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ ไม่ว่าเหตุจะเกิดที่ไหน ต้องอำนวยความสะดวกผู้เสียหาย เร่งช่วยเหลือ

7.มีบทลงโทษเครือข่ายอาจจะทำที่รุนแรงขึ้นทั้งบัญชีม้า คนจัดหาบัญชีม้า  7.1 ห้ามมิให้ผู้ใดเปิดบัญชี บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ โดยไม่ได้มีเจตนาใช้เพื่อตน และห้ามไม่ให้ผู้ใดยินยอมให้บุคคลอื่นใช้หรือยืมใช้ซิมโทรศัพท์ของตนในทั้งที่รู้หรือควรจะรู้ ซึ่งอาจจะนำไปใช้ในการทุจริตหรือทำผิดกฎหมาย  ผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (บัญชีม้า)   7.2 ห้ามไม่ให้ผู้ใดเป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใด ๆ เพื่อให้มีการซื้อหรือขายบัญชี บัตรอิเล็กทรอนิกส์ กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ หรือซิมโทรศัพท์ ซึ่งอาจก่อให้เกิดการกระทำความผิดอาญา ผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 2 ปี ถึง 5 ปี และปรับตั้งแต่ 200,0000 บาท ถึง 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (คนจัดหาบัญชีม้า)

“ผบ.ตร.ได้เน้นย้ำ กำชับหน่วยในการปฏิบัติตาม พระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566  เพื่อขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาล แก้ปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนจากอาชญากรรมคดีออนไลน์

  ขอประชาสัมพันธ์เพิ่มเติมว่า ระบบแจ้งความออนไลน์ Thaipoliceonline.com  ได้การปิดทำการเพื่อปรับปรุงระบบให้สอดรับกับพระราชกำหนดดังกล่าว และทำการเชื่อมระบบกับทางธนาคาร เพื่อทำการส่งต่อข้อมูล อายัดบัญชีได้ทันท่วงที ตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย โดยจะพร้อมเปิดระบบใช้งานได้ในวันที่ 20 มี.ค.66”

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ไต่สวนมูลฟ้อง 'บิ๊กโจ๊ก' ฟ้องหมิ่น 'อัจฉริยะ' เผยดีลกันแล้วบิ๊กโจ๊กจะยอมถอนฟ้องทุกคดี

ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ถ.เจริญกรุงศาล นัดไต่สวนมูลฟ้อง คดีที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.เป็นโจทก์ฟ้อง นายอัจฉริยะ เรืองรัตน

'รังสิมันต์' ซัดนายกฯตั้ง ผบ.ตร. ไม่โปร่งใส สังคมได้แต่จินตนาการความสามารถ 'บิ๊กต่อ'

นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ฟ้องคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ตรวจสอบ นายเศรษฐา ทวีสิน

'บิ๊กต่อ' บอกปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการ ปม 'โจ๊ก' ฟ้องนายกฯผิด ม.157

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. ไปยื่นต่อ ป.ป.ช.เอาผิดนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กรณีแต่งตั้ง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์เป็น ผบ.ตร. โดย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ยิ้มพร้อมป

'เศรษฐา' ไร้กังวล 'โจ๊ก' ยื่น ปปช.เอาผิดแต่งตั้ง ผบ.ตร. บอกตอนนี้โฟกัสปัญหาประชาชน

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร. ) ยื่นคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)

ระดมกำลังทุกหน่วย ปูพรมตรวจค้น 183 จุด กวาดล้างอิทธิพล ยึดของกลางอื้อ

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. สั่งการ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธ์ุเพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. ,พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ระดมกำลังตำรวจสอบสวนกลาง ,กองบัญชาการตำรวจนครบาล ,

'โจ๊ก' เผย 'บิ๊กเต่า' ขอเลื่อนนัดไต่สวนมูลฟ้องคดีหมิ่นประมาท เป็นครั้งที่ 2

ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องของโจทย์เป็นครั้งที่ 2 ในคดีที่พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ยื่นฟ้องพล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. ข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา