อัยการเชียงใหม่ยื่นฟ้องเเก๊งหลอกลงทุนสินเชื่อกู้ยืมเสียหาย 389 ล้าน ทนายเผยยังมีผู้ต้องหาเพิ่มอีกเสียหายขยายอีกเป็น 100 ล้าน เตือนอย่าหลงเชื่อคนหลอกนำเงินทุน
9 มี.ค.2566 -นายเกษม ศุภสิทธิ์ อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดพัทยา ทนายความและที่ปรึกษากฎหมายของกลุ่มผู้เสียหายในคดีฉ้อโกงประชาชนที่จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา พนักงานอัยการจังหวัดเชียงใหม่ได้นำตัว น.ส.ประวีร์ วังแจ่ม ,นายจิรภัทร พร้อมเพรียง กับพวกรวม 11 คนยื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดเชียงใหม่เป็นคดีอาญาหมายเลขดำที่ 292/2566 ในฐานความผิดร่วมกันกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน และฐานสมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป
โดยคำฟ้องระบุพฤติการณ์ว่า เมื่อระหว่างประมาณต้นปี 2564 - 22 เมษายน 2565 จำเลยทั้ง 11 คนกับพวกมีเจตนาทุจริตได้ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชนโดยร่วมกันหลอกลวงประชาชนด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งร่วมกันหลอกลวงประชาชน โดยชักชวนกลุ่มผู้เสียหายทั้ง 21 คน ให้ร่วมลงทุนปิดยอดเงินสินเชื่อกู้ยืม ปิดยอดสินเชื่อไฟแนนซ์รถ ปิดยอดสัญญาประกันชีวิตไถ่ถอนทรัพย์จำนอง และนำเงินไปใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันการขอสินเชื่อเงินกู้ยืม(แต่งรายการเดินบัญชีธนาคารเพื่อนำไปขอสินเชื่อ)ให้แก่ลูกค้าของธนาคาร โดยชักชวนประชาชนทั่วไป รวมทั้งผู้เสียหายทั้ง 21 คนให้นำเงินมาลงทุน โดยจำเลยทั้ง 11 คน กับพวกเสนอจ่ายผลประโยชน์ตอบแทน หรือตกลงว่าจะจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนคืนให้กับผู้ร่วมลงทุนระยะสั้น เช่น ลงทุนราย 1 วันได้ผลตอบแทนอัตราร้อยละ 1% ลงทุน 3 วันได้ผลตอบแทนร้อยละ 1.5% ลงทุน 5 วันได้ผลตอบแทนร้อยละ 3% และลงทุน 15 วันได้ผลตอบแทนร้อยละ 10% ของจำนวนเงินที่ลงทุน
โดยจำเลยทั้ง 11 คนกับพวกหลอกลวงว่าจะจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนให้สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยสูงสุด
ตามกฏหมายอันเป็นความเท็จ เมื่อจำเลยกับพวก หลอกเงินจากผู้เสียหายได้เงินมาแล้ว ก็นำเงินไปให้กลุ่มของจำเลยเพื่อร่วมกันเปลี่ยนสภาพทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดเพื่อซุกซ่อนหรือปกปิดแหล่งที่มาของเงิน อันเป็นความผิดฐานร่วมกันฟอกเงิน รวมความเสียหายที่จำเลยทั้ง 11 คนกับพวกหลอกลวงไปเป็นเงินจำนวน 389,000,000 บาทเศษ ต่อมากลุ่มผู้เสียหายได้ร่วมกันแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีจำเลยกับพวก เมื่อประมาณ ต้นเดือน ก.พ. 2565
นายเกษม กล่าวต่อว่า ทั้งนี้กลุ่มของผู้เสียหายได้รับความเป็นธรรมจาก พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ที่ช่วยเร่งรัดสำนวนคดีให้เสร็จโดยเร็ว เนื่องจากกลุ่มผู้เสียหายมีจำนวน มากถึง 21 คนและมีความเสียหายสูงเกือบ 400 ล้านบาท
ทั้งนี้ พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย แจ้งว่า ในทางการสืบสวนและสอบสวน พนักงานสอบสวนกำลังรวบรวมหลักฐานดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ต้องหารายอื่นเพิ่มเติมอีกหลายคน ในความผิดฐานร่วมกันฟอกเงินของผู้เสียหายไปอีกนับ 100 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะมีกลุ่มของผู้ต้องหาถูกดำเนินคดีเพิ่มเติมอีกหลายคนอย่างแน่นอน ทั้งนี้เหตุที่ลงข่าวนี้เนื่องจากไม่ต้องการให้ประชาชนในจังหวัดเชียงใหม่ หลงเชื่อคนที่มาหลอกลวงให้นำเงินไปลงทุน และอ้างว่าจะได้ผลตอบแทนในอัตราสูง เพราะหากหลงเชื่อมีโอกาสถูกฉ้อโกงได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ผบ.ตร. มอบ 'พล.ต.อ.ธนา' คุมคดีหมอบุญ เร่งประสานอินเตอร์โพลออกหมายแดงล่าตัว
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) ที่มีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน
เพื่อนร่วมรุ่น แจ้งจับ 'หมอบุญ' หลอกลงทุนโรงพยาบาล สูญเงิน 25 ล้าน
น.ส.ชลิดา พะละมาตย์ หรือต้นอ้อ เป็นหนึ่ง พานายโพธิรัตน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 53 ปี ทันตแพทย์ และพญ.สลวย (สงวนนามสกุล) อายุ 86 ปี คุณแม่ภรรยาและเป็นเพื่อนร่วมรุ่นของนายแพทย์บุญ วนาสิน หรือหมอบุญอายุ 86 ปี เข้าพบพนักงานสอบสวนบก.ปอศ.
รองผบช.ก. เผยเตรียมออกหมายจับเพิ่ม 1-2 ราย เอี่ยว 'ทนายตั้ม' ฉ้อโกงเจ๊อ้อย
พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยความคืบหน้าคดีของน.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือ เจ๊อ้อย ที่ถูกนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ฉ้อโกง โดยระบุว่า ขณะนี้ยังไม่มีรายงานจากพนักงานสอบสวนเกี่ยวกับการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมต่อทนายตั้มในกรณีเงิน 39 ล้านบาท
เมีย-ลูก 'หมอบุญ' มอบตัวคดีร่วมกันฉ้อโกง อ้างถูกปลอมลายเซ็น ยันเอาผิดสามี-ผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด
นางจารุวรรณ วนาสิน อายุ 79 ปี ภรรยาของนายแพทย์บุญ ซึ่งเป็นผู้ลงลายมือชื่อเป็นผู้ค้ำประกันในสัญญาต่างๆ พร้อมด้วย น.ส.นลิน วนาสิน อายุ 51 ปี บุตรสาวของนายแพทย์บุญ ซึ่งเป็นผู้ลงลายมือชื่อเป็นผู้ค้ำประกันในสัญญาต่างๆ
'เชน ธนา' ปล่อยโฮกลางวงสื่อ ชี้แจงหลังถูกกล่าวหาโกงเงิน 79 ล้าน!
กำลังเป็นประเด็นร้อนเลยทีเดียวเมื่อ เชน-ธนาตรัยฉัตร ภูโชคอนันต์ อดีตนักร้องนักแสดงที่ผันตัวไปทำธุรกิจ บริษัท อมาโด้ กรุ๊ป จำกัด ถูกกล่าวหาว่าโกงเงินค่าสินค้ามากถึง 79 ล้านบาท ล่าสุดเจ้าตัวพร้อมภรรยา เจมส์ กาลย์กัลยา และทนายความ ได้หอบหลักฐานเข้าพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียก ในช่วงบ่ายของวันนี้ (จันทร์ที่ 18 พฤศจิกายน 2567) ที่กองบังคับการปราบปราม
อัยการ สั่งฟ้อง 'แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์' 4 ข้อหา ฉ้อโกง พรบ.คอมพ์ฯ โฆษณาเท็จ ขายทองไม่ได้มาตรฐาน
นายศักดิ์เกษม นิไทรโยค ผู้ตรวจการอัยการ ในฐานะโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า ตามที่พนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.)