‘นอท’ ส่งทนายฟังไต่สวนฉุกเฉิน ขอคุ้มครองชั่วคราว ปิดกองสลากพลัส

‘นอท กองสลากพลัส’ ส่งทนายเข้าร่วมฟังการไต่สวน ฉุกเฉิน ขอคุ้มครองชั่วคราว  ปิดแพลตฟอร์มกองสลากพลัส จนกว่าคดีจะถึงที่สุด ทนาย ยัน ก.ดิจิทัลไม่จำเป็นต้องยื่นคำร้องก็ได้ 

6 ก.พ.2566-ที่ห้องพิจารณา 908  ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก  ศาลนัดไต่สวนคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวคดี ดำ พศ.109/2565 ที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งปิดแพลตฟอร์มของบริษัท ล็อตเตอรี่ออนไลน์ จำกัด หรือกองสลากพลัส  ที่มีนายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ หรือ “นอท กองสลากพลัส” เป็นผู้บริหาร เนื่องจากตรวจสอบพบว่า  มีผู้ใช้ข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีเนื้อหาขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน การเข้าเล่นการพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยใช้ บาย ช่วยประกาศ โฆษณา โดยทางตรงกรือทางอ้อม ให้ผู้เข้าเล่นหรื เข้าพนันในดารเล่น ซึ่งมิได้รับอนุญาต ผู้ร้องจึงขอให้ศาลมีคำสั่งให้ผู้ถูกร้องระงับการเผยแพร่ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ดังกล่าวจำนวน 1URLs ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550  มาตรา 14 (3) และมาตรา 20

โดยวันนี้ นายศุภชัย ทิพย์สิทธิ์ ทนายความของ นายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ หรือ “นอท กองสลากพลัส”  ได้เดินทางมาเพื่อเข้าร่วมฟังคําไต่สวนคําร้องฉุกเฉิน ขอให้ปิดแพลตฟอร์มกองสลากพลัส จนกว่าคดีจะถึงที่สุด

โดยทนายศุภชัย กล่าวว่า วันนี้ตนเดินทางมาในฐานะเป็นผู้คัดค้านคำร้องของกระทรวงดิจิทัล ส่วนนอทไม่ได้มาด้วย เนื่องจากต้องไปพบพนักงานอัยการ โดยย้ำว่า ก่อนหน้านี้ที่ทางกองสลากพลัสได้เลื่อนนัดพิจารณาไต่สวนของศาลในการปิดเว็บไปเป็นวันที่ 26 มี.ค. นี้ นั้น ไม่ได้เป็นการประวิงคดีแต่อย่างใด แต่จากการตรวจสำนวนที่ผ่านมา ตัวผู้ร้องคือกระทรวงดิจิทัลฯเป็นผู้นำพยานเข้าสืบ ทั้งหมด 7 ปากเพียงฝ่ายเดียว ซึ่งฝ่ายผู้คัดค้านไม่ได้นำพยานเข้าสืบเลยสักปาก ทำได้แต่เพียงถามค้านไปตามขั้นตอนกระบวนการ ฉะนั้น การที่มีข่าวออกไปว่าทางทนายผู้คัดค้านประวิงคดีนั้น มันไม่ถูกต้องและไม่เป็นธรรม เนื่องจากฝ่ายผู้ร้องเป็นฝ่ายที่นำพยานเข้าสืบฝ่ายเดียว ส่วนในนัดต่อไปวันที่ 26 มี.ค.นี้ จะเป็นวันที่ฝ่ายผู้คัดค้านจะนำพยานฝ่ายผู้คัดค้านเข้าสืบ  แต่วันที่ 31ม.ค. ที่ผ่านมา ทางฝ่ายผู้ร้องได้กลับมายื่นคำร้องอีกฉบับหนึ่ง เป็นคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวโดยขอให้ศาลมีคำสั่งปิดแพลตฟอร์มกองสลากพลัสไปก่อนในระหว่างการพิจารณาคดี ซึ่งก็ขัดกับข้อเท็จจริงอีกเนื่องจากว่า ทางคุณนอทได้ประกาศปิดเว็บไซต์ไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 31 ม.ค.แล้ว ซึ่งวันนี้ก็ไม่จำเป็นต้องมีการไต่สวนอะไรด้วยซ้ำ

“รู้สึกเหมือนโดนรังแกแม้กระทั่งว่าตำรวจพนักงานสอบสวนทั่วประเทศที่ออกหมายเรียกคุณนอทไป ก็ขัดกับกฎหมาย  เพราะ DSI รับคดีพิจารณาเป็นคดีหมายเลข 6/2566 ซึ่งเป็นพนักงานสอบสวนการซื้อขายสลากทุกครั้งทุกฉบับ   ดังนั้น คดีที่พนักงานสอบสวนที่เป็นตำรวจได้รวบรวมและออกหมายเรียกนั้น ผมคิดว่าเป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะในความจริงแล้วพนักงานสอบสวนเหล่านี้ต้องส่งสำนวนให้ DSI ตามข้อบังคับการร่วมมือกันระหว่างหน่วยงานรัฐ ภายใน 15 วัน มิเช่นนั้นจะมีบทลงโทษ”

สำหรับการไต่สวนในวันนี้ ทางกระทรวง DES ผู้ร้องได้เบิกพยานบุคคลมาให้การจำนวน 18 ปาก เป็นตัวแทนจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล  กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ.)  สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.)  และเครือข่ายเด็กรุ่นใหม่ไม่เล่นการพนัน ส่วนฝั่งผู้คัดค้านมีเพียงแค่ทนายความของนอท กองสลากพลัส พร้อมพยานเอกสารเพียงอย่างเดียว

เบื้องต้น ทางฝ่ายผู้ร้องหรือกระทรวง DES ให้เหตุผลว่า ก่อนหน้านี้ทางกระทรวงฯ ได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งปิดเว็บของกองสลากพลัสไปตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2565 และมีการเลื่อนการไต่สวนพิจารณาคำร้องดังกล่าว เนื่องจากฝ่ายผู้คัดค้านหรือนอท กองสลากพลัส เป็นผู้ขอเลื่อน ซึ่งศาลอาญาได้นัดพิจารณาไต่สวนคำร้องให้ปิดแพลตฟอร์มในวันที่ 26 มี.ค. นี้แต่ในช่วงระยะเวลาดังกล่าวก่อนถึงวันนัดพิจารณาไต่สวน ปรากฏพฤติการณ์ว่า ที่ผ่านมากองสลากพลัสยังคงเปิดแพลตฟอร์มขายสลากกินแบ่งอย่างต่อเนื่อง อันก่อให้เกิดความเสียหายเป็นอย่างมาก อาทิ ขายสลากเกินราคา และจำหน่ายสลากให้แก่เด็กที่อายุต่ำกว่า 18 ปี จึงยื่นคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวต่อศาลอาญา ให้ดำเนินการปิดเว็บไซต์ไปก่อน จนกว่า การไต่สวนคำร้องขอให้ปิดเว็บไซต์จะถึงที่สุด

ด้านฝ่ายผู้คัดค้าน นอท กองสลากพลัสให้เหตุผลว่า ทางผู้ให้บริการกองสลากพลัสได้ระงับการขายล็อตเตอรี่ ผ่านระบบออนไลน์ ตั้งแต่งวดวันที่ 1 ก.พ แล้ว จึงเห็นว่าไม่มีเหตุผลในการยื่นคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราว ให้ปิดเว็บไซต์จนกว่าจะคดีจะถึงที่สุด

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ไพศาล' ปูดข่าวกึกก้องนักการเมืองโกง-ขรก.ชั่ว ที่ถูกฟ้องร้อง กำลังวิ่งเต้นขอให้ศาลอย่ารับฟ้อง!

นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย โพสต์เฟซบุ๊กว่าผู้พิพากษาตุลาการและศาลทั้งหลาย จะต้องเป็นหลักชัยให้แก่ประเทศชาติและประชาชน ในการธำรงรักษาไว้ซึ่งความศักดิ์สิทธิ์ของศาล และการ

นายกสภาทนายความ เข้าพบ ประธานศาลฎีกา หารือป้องกันทนายความปลอม

ที่ศาลฎีกา นายวิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ พร้อมด้วยคณะบริหารสภาทนายความและตัวแทนประธานสภาทนายความจังหวัด ได้เข้าพบนางชนากานต์ ธีรเวชพลกุล ประธานศาลฎีกา พร้อม