'บิ๊กโจ๊ก' สั่งจับมาเฟียฝรั่ง แอบอ้างชื่อเรียกค่าคุ้มครองนักท่องเที่ยวเสียหายกว่า 100 ล้าน


2 ก.พ.2566 - ที่สโมสรตำรวจ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกันแถลงการจับกุมตัวนายเฮอวี่ คริสเตียน โรเบิร์ต ลีโอนาร์ด อายุ 58 ปี สัญชาติฝรั่งเศส แอบอ้างชื่อ"บิ๊กโจ๊ก" เรียกค่าคุ้มครองจากกลุ่มชาวต่างชาติในพื้นที่พัทยา ความเสียหายกว่า 100 ล้าน

ในการจับกุมครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้รับการร้องเรียนจากกลุ่มชาวต่างชาติซึ่งพักอาศัยอยู่ภายในพื้นที่เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ว่ามีชายชาวฝรั่งเศสมีพฤติกรรมแสดงตนเป็นผู้มีอิทธิพล โดยแอบอ้างนายตำรวจในพื้นที่พัทยาและพื้นที่ใกล้เคียง รวมถึง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. (ยศและตำแหน่งในขณะนั้น) โดยมีการนำภาพถ่ายของตนเองซึ่งถ่ายภาพคู่กับนายตำรวจรายต่างๆ ขณะที่ตนเองเป็นอาสาสมัครเพื่อช่วยเหลือการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ (Volunteer) ไปใช้ในการแอบอ้างต่อกลุ่มชาวต่างชาติเพื่อเรียกรับเงินค่าคุ้มครองให้สามารถพักอาศัยอยู่ในพื้นที่พัทยา จังหวัดชลบุรี ได้นั้น

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนดำเนินการตรวจสอบในกรณีดังกล่าว เนื่องจากเป็นการกระทำความผิดที่ส่งผลกระทบการการท่องเที่ยวและภาพลักษณ์ของประเทศไทย หากพบการกระทำความผิดจริงให้ดำเนินการตามกฏหมายจนถึงที่สุด

จากการสืบสวนของชุดสืบสวนทราบว่า บุคคลดังกล่าวคือ นายเฮอวี่ คริสเตียน โรเบิร์ต ลีโอนาร์ด หรือ Mr.Herve Christian Robert Leonard อายุ 58 ปี สัญชาติฝรั่งเศส มีประวัติเคยถูกจับกุมในคดีเกี่ยวกับ ฉ้อโกงและกรรโชกทรัพย์ ในพื้นที่จังหวัดชลบุรีมาแล้วหลายคดี โดยครบกำหนดการอนุญาตพักอาศัยอยู่ในราชอาณาจักรตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน 2563 แต่ยังไม่พบข้อมูลว่าเดินทางออกจากประเทศไทย เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนจึงตรวจสอบเพื่อแกะรอยหาของตัวของบุคคลดังกล่าว

เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนใช้เวลาในการเฝ้าติดตามตัวนายเฮอวี่ฯ กว่า 4 เดือน จนทราบว่า หลังจากที่นายเฮอวี่ ถูกจับกุมในข้อหาฉ้อโกงและกรรโชกทรัพย์ก่อนหน้านั้น ได้รับการประกันตัวออกมาระหว่างพิจารณาคดีของศาล แต่เมื่อถึงกำหนดนัดพิจารณาคดีกลับหลบหนี โดยนายเฮอวี่ มีพฤติกรรมในการย้ายที่พักอาศัยบ่อยครั้ง ในวงรอบทุกๆ 2 – 3 สัปดาห์ เพื่อหลบหนีการติดตามของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในพื้นที่พัทยา หัวหิน และ กรุงเทพมหานคร และแสดงตนเป็นบุคคลอื่น โดยจะแจ้งกับสถานที่พักต่างๆ ว่าเอกสารหนังสือเดินทางของตนสูญหาย สุดท้ายเจ้าหน้าที่สืบทราบว่า นายเฮอวี่ ได้หลบหนีมาพักอาศัยที่คอนโดมิเนียมย่านลาดพร้าว ถนนพหลโยธิน แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนจึงได้เข้าตรวจสอบคอนโดมิเนียมดังกล่าวจนพบ นายเฮอวี่ฯ พักอาศัยอยู่จริง ซึ่งรวมระยะเวลาในการเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด ( 868 วัน ) และเพิ่งย้ายเข้ามาพักอาศัยที่คอนโดมิเนียมดังกล่าวเพียง 2 สัปดาห์ จึงได้จับกุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวนสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

จากการตรวจสอบยังพบอีกว่า นายเฮอวี่ฯ ถูกแจ้งความร้องทุกข์ในข้อหาฉ้อโกงและกรรโชกทรัพย์ ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี จากผู้เสียหายอื่นๆ อีกเป็นจำนวนมาก และ ถูกออกหมายจับในคดีดังกล่าวจำนวนหลายหมายจับ มีผู้เสียหาย 10 คนเสียหายกว่า 100 ล้าน

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า คดีดังกล่าวมีผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทยในสายตาของชาวต่างชาติเป็นอันมาก เนื่องจากมีการแอบอ้างเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมถึงข้าราชการหน่วยอื่นเพื่อนำไปแสวงหาผลประโยชน์อันมิควรได้ ซึ่งจะได้มีการตรวจสอบเพิ่มเติมต่อไป หากพบการกระทำดังกล่าวอีก จะต้องดำเนินคดีตามกฏหมายให้ถึงที่สุดทุกราย โดยขอฝากสื่อมวลชนช่วยกันประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวได้ทราบ หากพบพฤติการณ์ในลักษณะดังกล่าวสามารถแจ้งสายด่วนตำรวจท่องเที่ยว 1155 หรือ 1599 เพื่อแจ้งเบาะแสหรือขอความช่วยเหลือได้ตลอด 24 ชั่วโมง.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'บิ๊กอ้อ' ลุยปราจีนฯ คุมสางคดีฆ่า 'สจ.โต้ง' มั่นใจหลักฐานพอ ไม่พึ่งวงจรปิด

'บิ๊กอ้อ' บินสางปมยิง 'สจ.โต้ง ปราจีน' เชื่อชนวนเหตุสังหารจากการเมืองท้องถิ่น มั่นใจหลักฐานเพียงพอ แม้วงจรปิดที่เกิดเหตุเสีย

‘ก.ตร.เอก’ เตือนผู้มีอำนาจ ตั้ง ‘รองผบช.-ผบก.’ 116 เก้าอี้ ยึดกฎระเบียบ ฝ่าฝืนโทษวินัย-อาญา

พล.ต.อ.เอก แจงยิบการแต่งตั้ง รอง ผบช.จำนวน 41 ผบก.75  ตำแหน่ง เตือนผู้มีอำนาจแต่งตั้งทุกระดับ ทั้งโทษวินัยและอาญา

หนุ่มขับรถขโมยท่อน้ำเทศบาล พลเมืองดีช่วยกันจับได้ทัน

พ.ต.ท.ดำรงค์ สุชชูศรี สารวัตรสอบสวน สภ.บางแก้ว รับแจ้งเหตุมีโจรขโมยตัดท่อสูบน้ำเหล็กที่ต่อไว้กับท่อยางของเทศบาลเมืองบางแก้ว

หนุ่มสมุทรปราการโร่แจ้งความ มือมืดปาถุงเลือดใส่หน้าบ้าน

นายปริญญา ไกรกิจธนโรจน์ อายุ 24 ปี เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ ว่า เมื่อเวลา 00.20 น. ได้มีผู้ก่อเหตุมาขว้างปาถุงเลือดสด