‘บิ๊กจ้าว’ ฮึ่ม! แจ้งข้อหา 157 ตร.ห้วยขวาง 6 นาย รีดเงินสาวไต้หวัน

‘นครบาล’ แจ้งข้อหา 157 ตำรวจห้วยขวาง 6 นาย รีดเงินดาราสาวไต้หวัน ‘ผบช.น.’ยันไม่มีการช่วยเหลือ ตำรวจไม่ดีไม่จำเป็นต้องเก็บไว้ในองค์กร

30 ม.ค.2566-ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พร้อมด้วยพล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 ร่วมกันแถลงผลการตรวจสอบกรณีดาราสาวชาวไต้หวันอ้างถูกตำรวจไทยตั้งด่านรีดเงิน 27,000 บาท หลังจากเข้ามาเที่ยวเทศกาลปีใหม่ เหตุเกิดช่วงกลางดึกวันที่ 4 ม.ค.ที่ผ่านมา หลังจากนายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ ออกมาแฉว่าตำรวจห้วยขวาง รีดเงินจริงโดยมีหญิงคนไทยเป็นชาวสิงคโปร์ที่ไปร่วมสังสรรค์เป็นคนนำเงินมาจ่ายพร้อมคลิปยืนยันจึงต้องยอมจำนนต่อหลักฐาน ทำให้ตำรวจตั้งออกมาแถลงหลังจากเย็นวานนนี้โฆษก บช.น.ได้ออกมาแถลงยืนยันไม่มีตำรวจเรียกรับเงินจากดาราสาวแต่อย่างใด

พล.ต.ท.ธิติ กล่าวว่า การดำเนินการในส่วนของการตรวจสอบตั้งแต่มีคำสั่งให้ดูทั้ง 2 ส่วน ส่วนที่ 1.ประเด็นเป็นการละเว้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือไม่ ในส่วนนี้ได้มีการเรียกผู้ที่ทำการสืบสวนนำข้อมูลมาสรุปให้ฝ่ายคณะกรรมการตรวจสอบรับทราบ ซึ่งคณะกรรมการได้ตรวจสอบมาแล้วระยะหนึ่งมีความเห็นรอสรุป โดยความสรุปแล้วคณะกรรมการมีความเห็นเรื่องการละเว้นนั้น เจ้าหน้าที่มีการละเว้นอันเป็นความผิด 157 และได้มีหนังสือสั่งการแจ้งข้อกล่าวหาไปส่วนหนึ่งแล้ว 2.เรื่องการเรียกรับเป็นคนละส่วนกับ 157 จะต้องดำเนินการติดตามพยานบุคคลที่เกี่ยวข้องมาสอบสวน ถ้ามีความผิดชัดเจนก็แจ้งข้อหาเพิ่มเติม ไม่ได้มีการละเว้น ดำเนินการทั้ง 2 ส่วน ทั้ง157 และการเรียกรับ แต่ในขณะนี้หลักฐานชัดเจนว่า พนักงานสอบสวนตรวจสอบจากวงจรปิดที่มีก่อนเกิดเหตุ หลังเกิดเหตุ และช่วงเวลาตรวจค้นพบว่า ก่อนเกิดเหตุกลุ่มนักท่องเที่ยวดำเนินการอย่างหลัง หลังเกิดเหตุดำเนินการอย่างไร ในช่วงเวลาทำการตรวจค้นคณะกรรมการตรวจค้นตั้งว่า เหตุใดจึงมีการเรียกหยุดตรวจค้น ตรวจอะไร พบอะไร และทำไมถึงใช้เวลานาน ทุกอย่างอยู่ในเรื่องตรวจสอบข้อเท็จจริง และเมื่อตรวจสอบพบว่าพยานหลักฐานที่ได้จากคลิปวงจรปิดสอดคล้องหรือไม่สอดคล้อง ส่วนที่มีความผิดชัดเจนหรือ 157 ก็เอาเรื่อง 157 ดำเนินการทางอาญาและวินัยไปก่อน ส่วนเรื่องการเรียกรับคณะพนักงานสอบสวนจะดำเนินการตรวจสอบและรวบรวมพยานหลักฐานบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ถ้าครบองค์ประกอบก็แจ้งข้อหาเพิ่มเติม

ผู้สื่อข่าวถามว่า ผบก.น1 และ ผกก.สน.ห้วยขวาง ได้มีการสั่งให้ทำลายหลักฐานโดยบลบภาพวงจรปิดตามสถานที่ต่างๆตามที่นายชูวิทย์ กล่าวหาหรือไม่ พล.ต.ท.ธิติ ตอบว่า ยืนยันไม่มีใครสั่งให้ทำอะไรที่ผิดกฎหมายได้ เพราะต้นฉบับมีอยู่ที่กรุงบเทพฯตรวจสอบได้ ถามต่อว่าแล้วกล้องติดตัวตำรวจมีไหม ผบช.น.กล่าวว่า ตอนนี้มีหนังสือส่งไปตรวจที่ พฐ.เนื่องจากไฟส์ถูกลบต้องกู้คืน ส่วนจะลบเองหรือไฟทับต้องให้ พฐ.ตรวจกู้ขึ้นมา ส่วนกล้องที่สถานทูตจีนเราไม่สามารถเข้าไปดำเนินการอะไรได้แต่ได้มีหนังสือไปขอรับการตรวจรับแล้ว ถ้าได้มาเป็นสิ่งที่ดี ผิดว่าไปตามผิดตำรวจที่ไม่ดีไม่จำเป็นต้องเก็บไว้ในองค์กร เราต้องเอาออกจากองค์กร ไม่มีใครปกป้อง ถ้ามีหลักฐานต้องดำเนินการอย่างชัดเจน

ถามต่อว่าตำรวจทั้ง 6 นาย รับสารภาพหรือยัง ผบช.น.ตอบว่าสอบครั้งแรกยังไม่รับ แต่ครั้งนี้ถ้ามีข้อมูลเอาเข้ามา ส่วนจะกลับคำให้การหรือไม่ต้องให้ ผบก.น.1 ไปตรวจสอบอีกครั้ง ต้องทำเรื่องนี้ให้ชัดเจน ถามอีกว่า จะมีการเรียกสอบคนที่อยู่ในเหตุการณ์เพิ่มเติมหรือไม่ เขากล่าวว่า ฝ่ายสืบสวนพยายามติดต่อมาให้การยืนยัน การดำเนินคดีการเรียกรับ ต้องสอบทั้งผู้รับ-ผู้ให้ ส่วนการประสานงานกับไต้หวันมีการมีการประสานงานกับเจ้าหน้าที่แต่ยังไม่มีการตอบรับ แต่ในขณะนี้ได้มอบหมายให้กองบังคับการสืสวนสอบสวนนครบาล จัดเจ้าหน้าที่ติดต่อเพื่อไปพบกับเจ้าหน้าที่ของไต้หวันในการรวบรวมข้อมูล ไม่ใช่เฉพาะดาราสาวรวมถึงทุกคนที่อยู่ในรถรวมอยู่ในสำนวน เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่จะปกปิดต้องทำให้ปรากฏข้อเท็จจริง เอาคนไม่ดีออกจากองค์กร จะทำให้เร็วที่สุด

 ซักว่าผู้บังคับบัญชาจะต้องถูกสอบบกพร่องด้วยหรือไม่ ผบช.น.กล่าวว่า ต้องไปสอบว่าบกพร่องเรื่องอะไร การควบคุมกำกับดูแลหรือการสั่งการ การรู้เห็นต้องไปดูในเนื้อหา ไม่ใช่เฉพาะ ผกก. ต้องลงไปถึง รอง ผกก. สารวัตร ด้วย เรื่องที่เกิดขึ้นเพราะขาดการกำกับดูแลปล่อยปะละเลยหรือเปล่า หรือรู้เห็นเป็นใจต้องดำเนินคดี ถ้าใครมีหลักฐานเพิ่มเติมก็ยินดีรับไว้ ยืนยันว่าคดีนี้ไม่มีการช่วยเหลือกัน ดำเนินการเต็มที่ผิดก็ว่าไปตามผิด ออกก็ว่ากันไปตามออกดำเนินคดี ต้องถูกจำคุกก็ต้องดำเนินคดี ไม่มีใครไปช่วยเรื่องแบบนี้ ใครจะไปปกปิดเรื่อฃราวเหล่านี้เป็นไปไม่ได้ คนอย่างนี้อยู่ในองค์กรมีแต่ความเสียหาย

เมื่อถามว่ามีอะไรจะฝากถึงนายชูวิทย์หรือไม่เพราะเขาอ้างว่ามีหลักฐานอยู่ในมือทั้งหมด เขาตอบว่าถ้ามีหลักฐานก็เอาหลักฐานออกมา ถ้ามองว่าผมเป็นคนสั่ง หรือ ผบก.น.1 สั่งให้ลบหลักฐานก็เอาออกมา ผมจะไม่มาโต้แย้งในประเด็นเหล่านี้ ผมและคณะกรรมการคดีนี้ไม่เคยมีความคิดเหล่านั้น ถ้าทำแบบนี้ไม่มีตำรวจถูกแจ้งข้อหา 157 ยืนยันว่ามีหลักฐานส่ง พฐ.ตรวจแล้วมีการตัดต่อหรือไม่ ถูกทับหรือตัดออกช่วงไหน ถ้าหลักฐานพบว่ามีการตัดต่อเจ้าหน้าที่ก็ถูกดำเนินคดีทำลสายพยานหลักฐาน

“ในฐานะที่เป็นข้าราชการตำรวจต้องขอฝากขออภัยไปยังพี่น้องประชาชนทุกท่านที่การปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจบางส่วนทำให้เกิดผลกระทบภาพลักษณ์ของสังคมและประเทศแทนข้าราชการตำรวจทุกคนด้วย”

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สืบนครบาลรวบ 'แซม นวมินทร์' ตรวจสอบประวัติอาชญากรอื้อ

พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น.,พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ได้สั่งการให้ พ.ต.ต.พิสิทธิ์ เตชะ สว.กก.สส.1ฯ พร้อมชุดปฎิบัติการที่ 1 ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายอภิวัฒน์ หรือแซม อายุ 26 ปี ภูมิลำเนา แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร

นายกฯ ลั่นต้องสอบต่อ! ปมแชตหลุด 'ผกก. แฉนาย' ไม่ใช่ขอโทษแล้วจบ

นายกฯ ไม่รู้แซตไลน์หลุด ผกก.ภาษีเจริญ พ้อโดน ผบก.น.9 บีบตั้งตู้ม้า ชี้ต้องตรวจสอบคำสั่งจริงหรือไม่ นครบาลต้องตอบคำถาม ไม่ใช่ขอโทษแล้วจบ ยันให้ความเป็นธรรม 2 ฝ่าย

จบข่าว! ผกก.สน.ภาษีเจริญ ขอโทษผู้ใหญ่ ว่อนโซเชียล 'ลงตู้ม้า'

กองบัญชาการตำรวจนครบาล ร่อนแถลงการณ์ ผกก.สน.ภาษีเจริญ ขอโทษ ผบก.น.9 รับเครียดขาดสติ ฟ้อง "ผบช.น." ถูกบังคับลงตู้ม้าในพื้นที่

ประธาน ป.ป.ช. ลั่นไม่คืนสำนวนให้ตำรวจ ขู่งัดกฎหมายจัดการเข้าข่ายละเว้นปฏิบัติหน้าที่

พล.ต.อ.วัชรพล ประสานราชกิจ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงกรณีตำรวจนครบาล ระบุว่า ป.ป.ช. เตะถ่วงคดีพล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.ในคดีฟอกเงินจากเว็บพนันออนไลน์ BNK Master

บช.น. เบี้ยวนัดเคลียร์ ป.ป.ช. ส่งหนังสือชี้แจงขอคืนสำนวนบิ๊กโจ๊กแทน

นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป.ป.ช. แถลงถึงกรณีกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) มีหนังสือขอคืนสำนวนคดีเว็บพนันออนไลน์ สน.เตาปูน จาก

ป.ป.ช. แจงไม่ได้ดองคดีบิ๊กโจ๊ก ชี้มองกฎหมายคนละมุม บช.น.

นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวถึงกรณีกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ส่งหนังสือขอรับการสอบสวนคดีอาญาของ สน.เตาปูน