กลับลำแทบไม่ทัน! ‘บช.น.’ ออกข่าวประชาสัมพันธ์ ขอโทษประชาชน

30 ม.ค.2566-กองบัญชาการตำรวจนครบาล แจกจ่ายข่าวประชาสัมพันธ์ระบุว่า ตามที่มีกระแสข่าวข้าราชการตำรวจสถานีตำรวจนครบาลห้วยขวางเรียกเงินนักท่องเที่ยวชาวไต้หวันนั้น ทาง บช.น. ไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยได้ดำเนินการให้รวบรวมพยานหลักฐาน สอบพยานบุคคล พยานวัตถุ กล้องวงจรปิดต่างๆ เพื่อเป็นข้อมูลให้ได้มากที่สุด ซึ่งในขณะนี้การรวบรวมพยานหลักฐานเบื้องต้นข้อเท็จจริงปรากฏว่า มีการตั้งจุดตรวจบริเวณหน้าสถานทูตจีนจริง และปรากฏภาพนักท่องเที่ยวมีการครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าหรือบารากู่ไฟฟ้า ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีแหล่งกำเนิดหรือผลิตภัณฑ์จากต่างประเทศและไม่ได้ผ่านโดยไม่ได้ผ่านพิธีการศุลกากรซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 มาตรา 242, 246 แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจในขณะปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งพบเห็นวัตถุดังกล่าวที่มีลักษณะเป็นบุหรี่ไฟฟ้าไม่ได้ตรวจยึดเป็นของกลางเพื่อส่งตรวจสอบและดำเนินคดีตามกฎหมาย แต่ให้นักท่องเที่ยวที่ครอบครองออกเดินทางจากจุดตรวจดังกล่าวไปเพราะวัตถุต้องสงสัย ซึ่งกรณีนี้เบื้องต้นเข้าข่าย ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ซึ่งทางกองบัญชาการตำรวจนครบาลได้ตรวจสอบรวบรวมพยานหลักฐานแล้ว ให้ดำเนินการทั้งวินัยและอาญาอย่างเด็ดขาดแล้ว

ส่วนประเด็นการรีดเงินนักท่องเที่ยว และกระแสข่าวบางแห่งออกมายืนยันว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจรับว่ามีการเรียกเงิน โดยมีบุคคลยืนยันว่าเป็นผู้ให้เงินเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาลขอยืนยันว่าในประเด็นดังกล่าว เราติดตามและให้ความสำคัญอย่างต่อเนื่องตลอดมา แต่ขณะนี้ อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานที่ชัดเจน  ทั้งพยานบุคคล พยานเอกสาร  บันทึกรับสารภาพ จำนวนเงินแน่นอน ที่ระบุ รวมถึงคำรับของเจ้าพนักงานตำรวจมาให้การรับสารภาพ เพื่อใช้ดำเนินคดีรวบรวมพยานหลักฐาน และตามที่มีกระแสข่าวนั้น  ขณะนี้มีแนวทางการสืบสวนที่สอดคล้องกับกระแสข่าวดังกล่าวอยู่แล้ว และอยู่ระหว่างติดตามพยานมาให้การยืนยันการกระทำความผิดและจำนวนเงินที่ส่งมอบดังกล่าว ว่าใครเป็นผู้มอบสินบนให้เจ้าพนักงาน เพื่อปล่อยตัวนักท่องเที่ยว  และเจ้าพนักงานคนใดเป็นผู้รับสินบน แต่จะต้องมีแนวทางการสืบสวนสอบสวนให้ชัดเจน เพราะข้อมูลบางอย่างยังไม่ตรงกัน จึงต้องระมัดระวัง และจะแจ้งข้อมูลที่ชัดเจนให้ทราบต่อไป

ทั้งนี้ หากพยานหลักฐานชัดเจนก็จะดำเนินคดีอย่างเด็ดขาดไม่มีการละเว้น ไม่ว่าฝ่ายใด ทาง บช.น. ต้องขอโทษมายังประชาชนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้กระทำการให้เป็นไปตามระเบียบและกฎหมายอย่างเคร่งครัด ทำให้เกิดผลกระทบต่อส่วนรวม ซึ่งทาง บช.น. จะรายงานความคืบหน้าในการดำเนินการ ในโอกาสต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 29 ม.ค.ที่ผ่านมา พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(รอง ผบช.น.) ในฐานะโฆษก บช.น. ได้แถลงผลการประชุมคลี่คลายปมดาราไต้หวันอ้างถูกตำรวจรีดเงิน 27,00 บาท ยืนยันสอบปากคำพยาน ไปแล้ว กว่า 10 คน เบื้องต้นยังไม่พบหลักฐานว่ามีการเรียกรับเงินตามถูกกล่าวอ้าง อย่างไรก็ตาม หลังมีข่าวตร.สน.ห้วยขวาง รับสารภาพมีการรีดเงินดาราสาวไต้หวันจริง ทางบช.น.ก็ได้ทำเอกสารข่าวแจก ไม่ได้มาตั้งโต๊ะแถลงข่าวแต่อย่างใด

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“DITP” เปิดตัวโลโก้ใหม่ ภายใต้แนวคิด “3E CREATE POSSIBILITIES” ส่งเสริมผู้ประกอบการไทยสู่เวทีโลก

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดตัวตราสัญลักษณ์ใหม่ พร้อมจัดกิจกรรมส่งเสริมภาพลักษณ์ด้านการค้าระหว่างประเทศ

ผบ.ตร. เซ็นไล่ออก 'บิ๊กโจ๊ก' เผยขั้นตอนยังอุทธรณ์ ก.พ.ค.ตร.-ฟ้องศาลปค.สูงสุด

พล.ต.อ.กิติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้ลงนามในคำสั่งไล่ออกจากราชการ  พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร.แล้ว  โดยเป็นการลงนามตามมติคณะกรรมการเสนอแนะการลงโทษ ตามมาตรา 125 วรรค3 แห่ง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติฯ พ.ศ.2565 ที่มี

จับมาเฟียรัสเซีย เรียกค่าคุ้มครองเกาะพะงัน อ้างมีแบ็กใหญ่

เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวได้รับเรื่องร้องเรียนจากนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวในเกาะพะงันว่า มีชายต่างชาติ มีพฤติกรรมชอบข่มขู่ชาวรัสเซียด้วยกัน

ผลัดใบ 'ตำรวจตาก'

เมื่อกฎเหล็ก ผบ.ต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ แม่ทัพใหญ่สีกากี ขีดเส้นให้การแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจระดับ "นายพัน" หากพื้นที่ใดมีปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ บ่อนพนัน สถานบริการ และหย่อนยานจะต้องถูกโยกย้ายพ้นพื้นที่ ก็ไม่แปลกใจที่พอคำสั่งแต่งตั้ง บช.ภ.6 ออกมา