รวบแล้ว 'พลทหาร' ยิง ตชด.ล่อซื้อยา เจ็บสาหัส คนร้ายอีกรายยังหนีลอยนวล

ตำรวจกองปราบบุกจับพลทหาร หนึ่งในคนร้ายที่ก่อเหตุยิง ตชด.ชุดปราบปรามยาเสพติดได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 นายขณะล่อซื้อยาบ้าที่ จ.สตูล หลังจากที่หนีมากบดานในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ ส่วนอีกคนยังติดตามไล่ล่าพบประวัติเคยก่อคดีมาอย่างโชกโชนทั้งคู่

26 ม.ค.2566 - เมื่อเวลา 17.30 น.วันที่ 25ม.ค.65 ตำรวจกองปราบกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม นำโดย พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว ผู้กำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ ตชด.43 ชุดสืบสวนภาค 9 และชุดสืบสวน สภ.เมืองสตูล ภายใต้การสั่งการของ พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 9 บุกเข้าจับกุม นายอามีน พรรณราย อายุ 27 ปี หรือมิน ซึ่งเป็นทหารเกณฑ์ค่ายอิงคยุทธบริหาร จ.ปัตตานี ขณะกบดานภายในขนำหลังบ้านเลขที่ 66 หมู่ 7 ต.ท่าข้าม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา

โดย นายอามีน เป็นหนึ่งในคนร้ายที่ร่วมกับ นายสุรพงศ์ ฮะอุรา อายุ 25 ปี หรือบีดีน ยิงเจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามยาเสพติดขณะเข้าล่อซื้อยาเสพติด ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 นาย คือ ส.ต.ต.เจษฎา อุ้ยเส้ง ผบ.หมู่ กองร้อย ตชด.ที่ 436

โดยถูกยิงด้วยอาวุธปืนพกสั้นไม่ทราบเข้าบริเวณช่องท้องซ้าย 1 นัด และแขนซ้าย 1 นัด ขณะเข้าล่อซื้อยาเสพติดจากคนร้ายทั้งสองคน เหตุเกิดเมื่อตอน 4 ทุ่มคืนวันที่ 24 มกราคมที่ผ่านมา บริเวณถนนหน้าโกลบอลเฮ้าส์ ม.1 ต.บ้านควน อ.เมือง จ.สตูล โดยพบยาบ้าในที่เกิดเหตุจำนวน 2,000 เม็ด โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง หมวกแก๊ป แว่นตาดำและรองเท้าแตะเอาไว้ในที่เกิดเหตุ

และพากันหลบหนีมายังพื้นที่อ.หาดใหญ่และต่างคนต่างแยกย้ายกันหลบหนี ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะแกะรอยตามจับกุมนายอามีนได้เป็นคนแรก ส่วนนายสุรพงศ์ คนร้ายอีกคนเจ้าหน้าที่กำลังตามล่าตัวและเป็นคนสำคัญที่ใช้อาวุธปืนยิงเจ้าหน้าที่

จากการสอบสวนนายอามีน ในชั้นจับกุม ยังให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยอ้างว่าแค่ร่วมเดินทางไปกับ นายสุรพงศ์ หรือบีดีน หลังจากที่มาหาที่บ้านและชวนไปทำธุระ แต่ไม่รู้ว่าไปส่งยาบ้า โดยตนเป็นคนขับรถจักรยานยนต์ส่วนนายสุรพงศ์ นั่งซ้อนท้าย มารู้อีกทีตอนเจ้าหน้าที่แสดงตัวว่าเป็นตำรวจ

ตนจึงรีบขับรถจักรยานยนต์หลบหนีทันทีและได้ยินเสียงปืนดังขึ้นตามมา ส่วนนายสุรพงศ์ ได้ให้เพื่อนขับรถจักรยานยนต์พาหนีตามหลังมา และก็เดินทางต่อด้วยรถยนต์พาพวกตนทั้งสองมาส่งที่ ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 25 มกราคมและแยกย้ายกันหลบหนี

เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อหา นายอามีนรวม 5 ข้อหาทั้ง “ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติด, ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติหน้าที่, พยายามฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทำตามหน้าที่หรือเพราะเหตุที่จะกระทำตามหน้าที่หรือได้กระทำตามหน้าที่, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทาง

สาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันสมควรและไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัวจากนายทะเบียน และไม่มีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์”

จากการตรวจสอบประวัติของทั้งนายอามีน ที่ถูกจับกุมได้แล้ว และนายสุรพงศ์ ที่ยังหลบหนีพบว่ามีประวัติติดตัวโชกโชนเคยก่อคดีทั้งค้ายาเสพติด ชิงทรัพย์โดยโดยใช้อาวุธ และล่าสุดถึงขั้นยิงเจ้าหน้าที่ขณะเข้าล่อซื้อยาเสพติด โดยในส่วนของ นายอามีน เพิ่งพ้นโทษจากคดีชิงทรัพย์และเข้าเกณฑ์ทหารก่อนที่จะมาร่วมกันก่อเหตุซ้ำและหนักกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา

โดยหลังจับกุมได้ถูกควบคุมตัวกลับไปดำเนินคดีที่สภ.เมืองสตูลพื้นที่เกิดเหตุ ส่วนนายสุรพงศ์ ตำรวจกำลังเร่งไล่ล่าติดตามจับกุมอย่างเร่งด่วน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

จับเรือประมงเวียดนาม รุกล้ำน่านน้ำไทย ตั้ง 3 ข้อหาหนัก

พลเรือโท พิจิตต ศรีรุ่งเรือง ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 2 ได้สั่งการให้เรือหลวงสัตหีบ ลาดตระเวนพิสูจน์ทราบ โดยเวลา 11.15 น. วันที่ 4 ก.ค. ที่ผ่านมา เรือหลวงสัตหีบ ตรวจพบเรือประมงสัญชาติเวียดนาม

อึ้ง! ขายน้ำมันเถื่อนกลางเมือง เย้ยกฎหมาย

หลังจากที่มีการนำเสนอข่าวการขายน้ำมันเถื่อนอย่างเปิดเผยเมื่อกลางเดือนที่ผ่านมาในพื้นที่ อ.สะเดา โดยขายน้ำมันเถื่อนริมถนนกลางเมืองสะเดา

รองผู้การกองปราบ โยนถามตำรวจน้ำ ปมผู้กำกับ น. เก็บส่วยน้ำมันเถื่อน

พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการกองปราบปราม (รอง ผบก.ป.) เปิดเผยความคืบหน้าหลังคุมตัว 8 ลูกเรือนํ้ามันเถื่อน เข้าสอบปากคําที่กองบังคับการปราบปรามเมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมาว่า ผู้ต้องหาหลายคนให้การที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี

เศร้า! 'น้องฟลุ๊ค' สุนัขพิทบลูโดนเจ้าของทิ้ง สุดยื้อชีวิต

จากกรณีทีม The hope songkhla และมูลนิธิ The hope Thailand ได้เข้าช่วยเหลือสุนัขพิบูลที่ถูกเจ้าของนำมาทิ้งไว้ ภายในซอย 6 ราษฎร์อุทิศ เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ จ.สงขลา และได้รับการช่วยเหลือ

เตรียมฟื้นสถานีรถไฟสงขลา ให้เป็นจุดเช็คอินและสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่

ฟื้นสถานีรถไฟสงขลา หลังหลับใหลมากว่า 40 ปีนำหัวรถจักรดีเซล โบกี้ผู้โดยสาร และตู้บรรทุกสินค้า รวมทั้งสิ้น 7 โบกี้ที่ปลดระวางแล้วจากสถานีชุมทางหาดใหญ่มาวางประดับโชว์ไว้บนราง โดยจะทำการซ่อมแซมและพ่นสีใหม่ทั้งหมด รวมทั้งปรับปรุงภูมิทัศน์โดยรอบบริเวณสถานีรถไฟสงขลา