นายกฯ เอาจริง สั่งปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์เด็ดขาด ช่วยปชช.ไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ

โฆษกรัฐบาล เผย นายกฯ เอาจริง สั่งการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์เด็ดขาด 'ลักลอบใช้อินเทอร์เน็ตข้ามประเทศ ซิมผี บัญชีม้า'ช่วยเหลือประชาชน ไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ สูญเสียทรัพย์สิน

20 ม.ค.2566 - นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยความคืบหน้าการดำเนินการเพื่อปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ ตามข้อสั่งการของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ด้วยความห่วงใยพี่น้องประชาชนซึ่งได้รับความเดือดร้อนจากอาชญากรรมรูปแบบดังกล่าว โดยนายกรัฐมนตรีกำชับให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการความร่วมมือเพื่อดำเนินการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์อย่างจริงจัง เด็ดขาด

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การทำงานร่วมกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องซึ่งได้บูรณาการการดำเนินงาน เดินหน้าปราบปรามการลักลอบใช้ อินเทอร์เน็ตข้ามประเทศผิดกฎหมาย แก้ปัญหาซิมผี และบัญชีม้า โดยกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้บูรณาการการดำเนินงาน เดินหน้าปราบปรามการลักลอบใช้อินเทอร์เน็ตข้ามประเทศผิดกฎหมาย แก้ปัญหาซิมผี และบัญชีม้า โดยมีความคืบหน้า ดังนี้

1) การแก้ปัญหาการลักลอบใช้อินเทอร์เน็ตข้ามประเทศผิดกฎหมาย กสทช. ได้กำชับผู้ให้บริการโทรคมนาคมเข้าตรวจสอบการใช้บริการอินเทอร์เน็ตข้ามประเทศ และได้ดำเนินการเข้าตรวจสอบหาบริเวณที่มีการกระทำความผิด รวมถึงตัวผู้กระทำผิด

2) การแก้ปัญหาซิมผี กสทช. ดำเนินการให้ผู้ให้บริการโทรคมนาคมแจ้งเจ้าของซิมโทรศัพท์มายืนยันตัวตนให้ถูกต้อง ตามแผนงาน ดังนี้ กรณีผู้มี 100 ซิมขึ้นไป ประมาณ 8,000 ราย ให้ยืนยันตัวตนภายในเดือนมกราคม 2566 กรณีผู้มี 30 ซิมขึ้นไป ประมาณ 22,000 ราย ให้ยืนยันตัวตนภายในเดือนมีนาคม 2566 และกรณีผู้มี 5 ซิม ขึ้นไป ประมาณ 380,000 ราย ให้ยืนยันตัวตนภายในเดือนมิถุนายน 2566

3) การแก้ปัญหาบัญชีม้าและบัญชีต้องสงสัยนำไปใช้กระทำผิดกฎหมาย สำนักงาน ปปง. ได้จัดทำประกาศ หลักเกณฑ์ในการพิจารณากำหนดหรือทบทวนรายชื่อบุคคลที่มีความเสี่ยงสูง ซึ่งควรได้รับการเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดตามกฎกระทรวงการตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้า พ.ศ. 2563 และได้แจ้งรายชื่อผู้กระทำผิดกฎหมาย ให้สถาบันการเงินดำเนินมาตรการที่เกี่ยวข้องต่อไป

นอกจากนี้ ดีอีเอส อยู่ระหว่างเสนอ (ร่าง) พระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. .... ต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อเร่งแก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ให้เป็นรูปธรรม

“นายกรัฐมนตรีห่วงใยพี่น้องประชาชน ไม่ต้องการให้ตกเป็นเหยื่อการฉ้อโกงและหลอกลวงผ่านสื่อสังคมออนไลน์ในทุกรูปแบบ ซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนจำนวนมาก โดยได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการอย่างเร่งด่วนและจริงจัง เพื่อปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ในทุกรูปแบบ สอบสวนให้ถึงต้นตอการกระทำผิด ควบคู่ไปกับการให้ความรู้ที่ถูกต้อง และแจ้งเตือนประชาชน เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันไม่ให้ตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมออนไลน์” นายอนุชา กล่าว

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ดีอี เตือนประชาชนระวังเพจปลอม 'ป.ป.ง' หวั่นตกเป็นเหยื่อ 'โจรออนไลน์'

กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ตรวจพบข่าวปลอมที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมออนไลน์รายสัปดาห์ ที่ประชาชนให้ความสนใจสูงสุดอันดับที่ 1 เรื่อง “สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) เปิดเพจเฟซบุ๊กใหม่” รองลงมาคือเรื่อง “ก.ล.ต. รับรองเว็บไซต์เทรดทองออนไลน์” โดยขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข่าวปลอม เลือกเชื่อ เลือกแชร์ ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ หวั่นตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ หรืออาจทำให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สิน และมีผลกระทบต่อประชาชนในสังคมเป็นวงกว้าง

'ดีป้า' เดินหน้า โครงการ Coding for Better Life สร้างรากฐานอนาคตประเทศไทย

'รัดเกล้า'เผย ดีป้า ดศ. ขับเคลื่อนโมเดลพัฒนากำลังคนดิจิทัลของประเทศ แก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานอย่างยั่งยืนผ่าน 'โครงการ Coding for Better Life สร้างรากฐานอนาคตประเทศไทย'