ผบ.ตร. วางมาตรการเข้มช่วงตรุษจีน กำชับห้ามเรียกรับผลประโยชน์อันไม่ชอบ

19 ม.ค.2566 - ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึง มาตรการการดูแลความปลอดภัยอำนวยความสะดวกพี่น้องประชาชน ช่วงเทศกาลตรุษจีน ระหว่างวันที่ 20-22 ม.ค.2566 ว่า พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนในช่วงเทศกาลตรุษจีน ที่คนไทยเชื้อสายจีนจะออกมาจับจ่ายใช้สอย ทำพิธีเซ่นไหว้บรรพบุรุษ เดินทางไปเยี่ยมญาติและท่องเที่ยว ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดความไม่ปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สิน จากกลุ่มมิจฉาชีพ และอันตรายจากอัคคีภัย รวมทั้งปัญหาการจราจรจึงได้กำหนดมาตรการในการดูแลความปลอดภัยเพื่อป้องกันปราบปรามการก่อเหตุอาชญากรรมรูปแบบต่างๆ และการอำนวยความสะดวกด้านจราจรแก่พี่น้องประชาชน กำชับสายตรวจและฝ่ายสืบสวนเพิ่มความเข้มออกตรวจตราตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ เฝ้าระวังคดีประทุษร้ายต่อทรัพย์ ตามตลาดที่จำหน่ายสินค้าเพื่อนำไปประกอบพิธีเซ่นไหว้ และเฝ้าระวังเหตุประทุษร้ายต่อทรัพย์ตามธนาคาร ร้านทอง ร้านอัญมณี ร้านสะดวกซื้อ โรงทาน สถานที่ที่มีการจัดกิจกรรมต่างๆ รวมทั้งกลุ่มมิจฉาชีพที่จะหลอกหลวงในรูปแบบต่างๆ เช่น การหลอกหลวงทางออนไลน์  ส่วนประชาชนที่จะเดินทางไปเที่ยว เยี่ยมญาติให้ประชาสัมพันธ์การฝากบ้านไว้กับตำรวจเพื่อความปลอดภัย เฝ้าระวังเหตุไฟไหม้ อัคคีภัยต่างๆ ในการไหว้บรรพบุรุษ จุดธูปเทียน เผากระดาษ ตามความเชื่อ โดยมีการทำแผนเผชิญเหตุ ซักซ้อมเหตุในพื้นที่เสี่ยง ชุมชนหนาแน่นโดยประสานงานกับหน่วยเกี่ยวข้อง  โฆษก ตร.กล่าวต่อว่าให้ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง  เพิ่มความเข้มในการตรวจตราเอกสารคนเข้าเมือง บุคคลต้องห้ามขึ้น แบล็คลิสต์และจัดกำลังเจ้าหน้าที่ให้เพียงพอในการดูแลอำนวยความสะดวกพิธีการเข้าเมือง    สำหรับการอำนวยความสะดวกด้านการจราจรให้เตรียมความพร้อมด้านกำลังพล อุปกรณ์เครื่องมือ และระบบการสื่อสาร เพื่อลดปัญหาการจราจรติดขัดบริเวณที่ประชาชนนิยมเดินทางไปท่องเที่ยว หรือเซ่นไหว้บรรพบุรุษ มีการจัดเตรียมเส้นทางรองรับการจราจรที่หนาแน่น ไม่ให้มีผลกระทบต่อการจราจรบนเส้นทางหลัก

โฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า  ผบ.ตร.กำชับห้ามข้าราชการตำรวจเรียกรับผลประโยชน์อื่นใดอันไม่ชอบ ในวันตรุษจีนโดยระมัดระวังการปฏิบัติที่อาจจะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ขององค์กรและอาชีพ โดยให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับลงไปตรวจตรา กำกับ และดูแลการปฏิบัติงานของผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างใกล้ชิด   สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชน โปรดระมัดระวังการหลอกลวงเอาทรัพย์สินจากกลุ่มมิจฉาชีพที่ใช้วิธีการแอบอ้างในรูปแบบต่างๆ และขอความร่วมมือใช้ความระมัดระวังในการจุดธูปเทียน และการเผากระดาษ ควรดูแลจนไฟมอดดับเรียบร้อยแล้ว หลีกเลี่ยงการจุดประทัด ดอกไม้เพลิง ในลักษณะที่อาจก่ออันตรายและสร้างความรำคาญแก่ผู้อื่น หากจะเดินทางไปเที่ยว หรือเยี่ยมญาติต่างจังหวัด สามารถฝากบ้านไว้ตามโครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจได้ นอกจากนี้ต้องการขอความช่วยเหลือ หรือแจ้งเหตุ สามารถแจ้งมายังเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ หรือโทรศัพท์สายด่วน 191 และ 1599 ตลอด 24 ชั่วโมง  

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'บิ๊กต่อ' สั่งนครบาลสอบด่วน! ป้ายซื้อขายพาสปอร์ต ผิดจริงฟันแน่

'ผบ.ตร.' สั่งตรวจสอบที่มาของป้ายโฆษณาภาษาจีน รับทำหนังสือเดินทาง-ขอสัญชาติต่างๆ กำชับ สตม. ตรวจสอบ คัดกรองคนต่างด้าว เจอกระทำผิดฟันตามกฎหมายทุกมิติ

อดีตจเรตำรวจฯ ขอทำเรื่องเฉพาะหน้า ‘เพิ่มเงิน-สวัสดิการตำรวจ’ ก่อนจะไปเปลี่ยนประธาน ก.ตร.

ณะนี้มีการเคลื่อนไหวจะปฏิรูปตำรวจโดยตำรวจเอง หลักๆคือให้นายกรัฐมนตรีไม่เป็นประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร.  แต่ประธานจะมาจากการเลือกกันเองเหมือนคณะกรรมการข้าราชการอัยการ หรือ ก.อ. กระผม ไม่แน่ใจว่าจะเกิดผลดีกว่าเดิมหรือแย่กว่าเก่า

‘นักกฎหมายตำรวจ’ ถอดบทเรียน การเข้าระงับเหตุ ลดความสูญเสีย

ด้วยความเคารพความกล้าหาญ และเสียสละของผู้เสียชีวิต ควรแก่การยกย่องเป็นเกียรติประวัติสืบไป แต่การเข้าระงับเหตุ ของตำรวจไทยมีข้อผิดพลาด ต้องนำไปถอดบทเรียนแก้ไข

สลด! หนุ่มมุกดาหารโดนไฟดูด ดับคาเสาไฟฟ้าแรงสูง

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.มุกดาหาร ได้รับแจ้งเหตุว่ามีคนตายบนเสาไฟฟ้าแรงสูง บริเวณทางเข้าหมู่บ้านคำตุนาง ไปยังหมู่บ้านกุดโง้ง ตำบลมุก อำเภอเมือง

‘บิ๊กเอก’ ยกเสียงสะท้อนจากตำรวจ เจ็บปวดผู้มีอำนาจข่มขืนองค์กร ถึงเวลาต้องปฏิรูปตร.

อีกเสียงสะท้อนจากนายตำรวจ ที่สื่อสารออกมา อย่างเจ็บปวด เปรียบเทียบให้เห็นภาพองค์กรตำรวจ ผู้มีอำนาจทางการเมือง อดีตผู้บังคับบัญชาสูงสุด ทำอะไรไว้ ควรที่จะปฏิรูปตำรวจอีกหรือไม่

เสนอปูนบำเหน็จ เลื่อนยศ รอง ผกก.ป.ท่าข้าม เป็น 'พล.ต.อ'

ผบ.ตร.แสดงความเสียใจ – เสนอปูนบำเหน็จ เลื่อนยศเป็น "พล.ต.อ" รอง ผกก.ป.ท่าข้าม เสียชีวิตระหว่างสยบชายคลั่ง พร้อมสั่งถอดบทเรียนป้องกันความสูญเสียซ้ำรอย