ตำรวจแจงผลงานปูพรมปราบยาเสพติด 91 จุดใน 13 จังหวัดทั่วประเทศ

ตำรวจระดมกำลังปูพรมค้น 91 จุดทั่วประเทศ ตามแผนพิทักษ์ประชา ปราบยาเสพติด 1/66 จับเอเย่นต์ยาเสพติดของกลางจำนวนมาก

12 ม.ค.2566 - พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศอ.ปส.ตร.) เปิดเผยว่า ตามนโยบายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ดำเนินการปราบปรามทำลายเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดทุกระดับ และเพิ่มความเข้มในการทำลายเครือข่ายผู้ค้ารายย่อยในระดับชุมชนอย่างจริงจัง สืบสวนจับกุมผู้ค้ารายย่อยในชุนชน ขยายผลไปสู่การจับกุมเครือข่ายผู้ค้ารายสำคัญ และหากมีการจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางยาเสพติดจำนวนมาก ให้ทุกหน่วยดำเนินการขยายผล จับกุม ยึด อายัดทรัพย์สินเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดทุกราย โดยดำเนินการสืบสวนและวิเคราะห์ข้อมูลเส้นทางการเงินเพื่อหา ความเชื่อมโยงเครือข่ายการค้ายาเสพติด เพื่อกำหนดเป้าหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องดำเนินการสืบสวนจับกุมทำลายเครือข่ายผู้ค้ารายกลางและรายย่อยในพื้นที่ชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ล่าสุดตำรวจภูธรภาค 5 หลังจากเมื่อวันที่ 28 ก.ย.2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการจับกุมผู้ต้องหา 5 คน พร้อมของกลาง รถยนต์ 3 คัน ยาบ้า 1.5 ล้านเม็ด ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นจึงสืบสวนขยายผลและวิเคราะห์ข้อมูลทางโทรศัพท์และเส้นทางการเงิน จนทราบว่ามีเครือข่ายที่เชื่อมโยงกับตัวการสำคัญ เครือข่ายผู้ค้าระดับกลางและรายย่อยในชุมชน กระจายตัวอยู่ในหลายจังหวัดทั่วประเทศ จึงได้กำหนด เปิดปฏิบัติการพิทักษ์ประชาปราบยาเสพติด 1/66 เมื่อวันพุธที่ 11 ม.ค.2566 โดยปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมาย 91 จุด พร้อมกันทั่วประเทศ ในพื้นที่ 13 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, พระนครศรีอยุธยา, ปทุมธานี, สิงห์บุรี, สระบุรี, ลพบุรี, เชียงใหม่, นครสวรรค์, นครปฐม, สมุทรสงคราม, กาญจนบุรี, เพชรบุรี และสุพรรณบุรี โดยมีเป้าหมายจับ 10 หมายจับ

ผลการปิดล้อมตรวจค้นครั้งนี้สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 20 คดี 21 ราย จับกุมตามหมายจับได้ 3 ราย ตรวจยึดยาเสพติด ยาบ้า 4,207 เม็ด, เคตามีน 3.63 กรัม และเห็ดขี้ควายแห้ง 797.8 กรัม นอกจากนี้ยังตรวจยึด เงินสด 8,800 บาท, รถยนต์ 3 คัน, ทองคำ 1 บาท, รถจักรยานยนต์ 1 คัน, อาวุธปืน 6 กระบอก, กระสุน 139 นัด โทรศัพท์มือถือ 17 เครื่อง และสมุดบัญชีเงินฝาก 50 เล่ม(นำไปตรวจสอบเส้นทางการเงิน) รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ตรวจยึดได้ทั้งหมด 490,190 บาท

การเปิดปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นอย่างทำต่อเนื่องเพื่อตัดวงจรการแพร่ระบาดของยาเสพติดในชุมชนให้ได้ รวมทั้งให้นำข้อมูลต่าง ๆ ที่ได้มาไปวิเคราะห์ หากพบผู้ค้ารายใหม่ให้ทำการขยายผลอย่างต่อเนื่อง ให้ทราบถึงขบวนการที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อนำเข้าสู่การดำเนินการตามกฎหมายและกระบวนการบำบัดฟื้นฟู

ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังคงปฏิบัติการอย่างต่อเนื่องในการขยายผลและทำลายเครือข่ายยาเสพติดทุกเครือข่ายในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ รวมถึงการยึดอายัดทรัพย์สิน ที่ได้มาจากการค้ายาเสพติด หากประชาชนที่พบเห็นความผิดปกติ หรือมีเบาะแสของขบวนการค้ายาเสพติด สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่สายด่วน 1599 หรือ 191 ซึ่งข้อมูลของผู้แจ้งจะถูกปิดเป็นความลับ มีการบูรณาการข้อมูลจากทุกภาคส่วน เพื่อให้การแก้ไขปัญหายาเสพติดบรรลุผลสำเร็จเป็นรูปธรรมอย่างยั่งยืน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สตช.สานต่อ 'โครงการสุภาพบุรุษจราจร ประชาชนสัญจรปลอดภัย' ต่อเนื่องปีที่ 2

สตช.ร่วมกับภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชน สานต่อ 'โครงการสุภาพบุรุษจราจร ประชาชนสัญจรปลอดภัย' ต่อเนื่องปีที่ 2 มุ่งหวังให้ประชาชนมีความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนเพิ่มขึ้น

'ดุสิตโพล' เผยคนไทยเบื่อความขัดแย้งในสตช.

สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “หัวอกของคนเสพข่าวความขัดแย้งในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ” กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 1,040 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 25-28 มิถุนายน 2567

เลขาฯ ก.ตร. แถลงผลประชุม เห็นชอบคำสั่งให้ 'บิ๊กโจ๊ก' ออกจากราชการ โดยชอบกฎหมาย

พล.ต.ท.อนุชา รมยะนันทน์ ผู้บัญชาการสำนักงาน ก.ตร. ในฐานะเลขานุการ ก.ตร. กล่าวว่า ได้รับมอบหมายให้มาชี้แจงเกี่ยวกับกรณีผู้ร้องขอให้ ก.ตร. พิจารณาเกี่ยวกับการปฎิบัติการบริหารงานบุคคลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

'บิ๊กต่าย' ไม่หวั่นตายเดี่ยว พร้อมรับทุกอย่าง ยันเซ็นปลด 'โจ๊ก' ยึดหลักสุจริต

'บิ๊กต่าย' ลั่นไม่คิดโดนเช็กบิล หลัง 'โจ๊ก' จ่อยื่น ป.ป.ช. ยันเซ็นปลดสุจริต ย้ำหากเกิดอะไรขึ้นพร้อมน้อมรับ ร้องโอ้โห ไม่เคยคิดนั่ง 'ผบ.ตร.' ไม่หวั่นตายเดี่ยว ยกธรรมะเข้าสู้