11 ม.ค.2566 - ที่รัฐสภา นายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ และอดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทย เข้าชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การป้องกันปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด สภาผู้แทนราษฎร กรณีทุนจีนสีเทา โดยนายชูวิทย์ได้ไล่เรียงตัวละครที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่เริ่มเข้ามาติดตามคดี เมื่อวันที่ 26 ต.ค. 2565 และได้ตามเรื่องถึงปัจจุบัน ที่พบว่านายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ หรือ ตู้ห่าว ยังไม่โดนคดีฟอกเงิน ขณะที่ทรัพย์สินจากการประเมิน 5,000 ล้านบาท แต่ตั้งข้อสังเกตว่าอาจมีมากกว่านั้น ซึ่งตำรวจพบเงินสดเพียง 1 แสนบาท เพราะความชักช้า และมีรถหรู แต่ไม่รู้ตอนนี้ไปอยู่ไหน ทั้งนี้ ถ้าตนไม่ออกมาพูดกระบวนการนี้อาจเงียบ อาจมีการดำเนินการ แต่เมื่อไปถึงชั้นอัยการหลักฐานก็คงหาย
นายชูวิทย์ กล่าวย้ำว่า กระบวนการฟอกเงินและเกี่ยวโยงยาเสพติด ของนายตู้ห่าว เป็นกระบวนการจีน ที่อาศัยแผ่นดินไทยทำมาหากิน คนจีนต่างๆ เหล่านี้มาจากกัมพูชา ถือพาสปอร์ตกัมพูชา เพราะหากกลับไปจีนจะถูกดำเนินคดีมีโทษรายแรง ขอย้ำว่าขบวนบวนการทุนจีนสีเทาเป็นขบวนการบ่อนทำลายประเทศ ได้รับการสนับสนุนจากเจ้าหน้าที่รัฐ เรียกว่าเป็นกระบวนการกลืนชาติ
นายชูวิทย์ กล่าวต่อว่า ยังมีข้อมูลเกี่ยวกับพ่อแม่คนจีนที่มาคลอดลูกในไทยและให้คนไทยรับเป็นลูก เพื่อถือสัญชาติไทยด้วย อีกทั้งยังมีการซื้อบ้านยกหมู่บ้าน คอนโดหรู จึงเห็นควรให้เข้าไปสอบเรื่องฟอกเงิน และต้องตรวจสอบไปถึงกรมที่ดิน เพราะใช้บริษัทนอมินี และยังพบมี ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.)เปิดประตูให้เข้ามาเสวยสุขในประเทศเรา ดังนั้น ตม. ต้องโดนตรวจสอบด้วย ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นมีผู้กำกับ สน.ยานนาวา ถูกย้าย ไปเพียงคนเดียว แต่ 4 เสือยังอยู่ดีมีสุข ทั้งที่เรื่องนี้เป็นเรื่องระดับชาติที่ตนลากมา3 เดือน ที่สำคัญ สน.สุทธิสาร ที่มีผู้หญิงเสพยาตายยังไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ ตนจึงมองว่าเป็นเรื่องแปลกที่สุด เหมือนหนัง Mission impossible
“ขอย้ำว่าเรื่องนี้ผมไม่ได้ยกเมฆขึ้นมา ไม่ได้นั่งเทียนเขียนเอง ทุกอย่างมีข้อมูล ข้อเท็จจริง”นายชูวิทย์ กล่าว
ด้านนายสุทัศน์ เงินหมื่น ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในฐานะกรรมาธิการฯ แสดงคความเห็นด้วย ว่าการดำเนินคดีไม่คืบหน้า การทำงานของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) ก็ซับซ้อน ตามไม่ทัน ล่าช้า จึงอาจต้องเชิญมาให้ข้อมูลกับกรรมาธิการฯ เช่นเดียวกับ ตม. ที่กรรมาธิการฯต้องการข้อมูล นอกจากนี้ยังเตรียมเชิญ ผบ.ตร. มาชี้แจงเพิ่มด้วย
ทำให้นายชูวิทย์ ตั้งข้อสังเกตเพิ่มว่า ป.ป.ง.เงียบจริง จึงอยากตั้งคำถามว่าที่ผ่านมา ป.ป.ง. มีภาพโปร่งใสชัดเจน ดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว แต่ปัจจุบันไม่เห็นออกมา จึงเห็นด้วยให้เชิญ ป.ป.ง. มาชี้แจง รวมถึง ผบ.ชน. ส่วน ผบ.ตร. นั้นยืนยันได้ว่าเป็นคนดี ตรงไปตรงมา ชัดเจนเรื่องการทำงาน คนอาจมองว่า ไม่โผงผาง แต่ตนขอยืนยันว่า เป็นคนสุจริต แต่ขอให้ตัดสินใจให้ดี เพราะบางคนทำงานดีในบางเรื่อง แต่อาจทำงานสอบสวนไม่ดี จึงต้องกล้าฟัน
ขณะที่นายนิพันธ์ ศิริธร ส.ส.ตรัง พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการฯ ระบุว่า จะหารือว่าจะเชิญใครมาบ้างโดยจะทำให้เสร็จก่อนยุบสภา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แจ้งข้อหาเพิ่ม 'ทนายตั้ม' ปมเงิน 39 ล้าน หลังรวบคนสนิทร่วมฉ้อโกง-ฟอกเงิน
พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผู้บังคับการปราบปราม เปิดเผยถึงปมเงิน 39 ล้านบาทของ น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือ มาดามอ้อย แจ้งความดำเนินคดี ว่า ด้านตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน โดยวันที่ 11 พ.ย. 67
'ผบช.ก.' แถลงจับหมอดูชื่อดัง 'ตี่ลี่ฮวงจุ้ย' แจ้ง 2 ข้อหาหนัก
'บิ๊กก้อง' แถลงจับ 'หมอดูตี่ลี่ฮวงจุ้ย' ตุ๋นเหยื่อซื้อวัตถุมงคลแก้เคล็ดกว่า 108 ล้าน เอาไปเล่นพนัน แจ้ง 2 ข้อหา 'ฉ้อโกง-ฟอกเงิน' พร้อมยึดรถหรู 2 คัน
คุมตัว 'ทนายตั้ม-เมีย' ฝากขังศาลอาญา คัดค้านประกันตัว
ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ภายหลังจากที่เจ้าหน้าที่ทำการเบิกตัว นายษิทรา เบี้ยบังเกิด และ นางปทิตตา เบี้ยบังเกิด ภรรยาของนายษิทรา มาสอบปากคำเพิ่มเติมเมื่อช่วงเช้า กระทั่งเวลา 13.30 น.พนักงานสอบสวน ได้นำตัว ทนายษิทรา พร้อมภรรยา ไปฝากขังที่ศาลอาญา ถนนรัชดา
ผู้ช่วย ผบ.ตร. เผย 'ทนายตั้ม' เตรียมหนีออกนอกประเทศ ประสานตร.ทางหลวงสกัดจับ
พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงการจับกุม ทนายตั้มและภรรยา ว่าคดีดังกล่าว ทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติกำชับให้ตนเข้ามาดูแล
คุมตัว 'ทนายตั้ม-เมีย' ถึงกองปราบ-คัดค้านการประกันตัว
ที่กองบังคับการปราบปราม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัว นายษิทรา เบี้ยบังเกิด และ นางปทิตตา เบี้ยบังเกิด ภรรยาของนายษิทรา ผู้ต้อง
'ทนายตั้ม' อ่วมหนัก! 'อัจฉริยะ' แฉวิ่งอัยการได้ จ่อเปิดคดีที่ 5 รอเจ๊อ้อยไฟเขียว
นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีตำรวจออกหมายจับประเด็นที่นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม หลอกลวงนางจตุพร อุบลเลิศ หรือเจ๊อ้อย