สุดท้ายไปไม่รอด! สืบสวนนครบาลรวบ “นิว สามโคก”หลอกขายอะไหล่รถยนต์ รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ ก่อเหตุมากว่า 10 ปี หมายจับเพียบ
8 ม.ค.2566 – พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. , พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. , พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 5 กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. ได้สืบสวนติดตามจับกุมตัว นายกฤษณะ อายุ 31 ปีที่อยู่ 66/232 หมู่ 5 ต.บางเตย อ.สามโคก จ.ปทุมธานี
ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงสุพรรณบุรี ที่ จ.178/2565 ลงวันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ.2565 “ ร่ามกันฉ้อโกงและโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น โดยมิได้กระทำต่อประชาชน ” โดยสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ที่บริเวณกลางซอย 4/1 ภายในหมู่บ้านคันทรีพาร์ค 15 ต.สามโคก อ.สามโคก จ. ปทุมธานี
ทั้งนี้ชุดลาดตระเวนออนไลน์ บก.สส.บช.น. ได้ออกลานตระเวนออนไลน์จนทราบถึงความเดือนร้อนจากประชาชนซึ่งถูกคนร้ายใช้กลอุบายโพสต์หลอกขายอะไหล่รถจักรยานยนต์ในกลุ่ม Triumph Scramber Club Thailand , Triumph-Thailand เหตุเกิดเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2565 เป็นเหตุให้ได้รับความเสียหาย ซึ่งตามพฤติการณ์น่าจะมีผู้เสียหายหลายรายหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อคนร้ายรายนี้ ทั้งอดีตและปัจุบัน มูลค่าความเสียหาย 3 ล้านบาท จนมีการตั้งกลุ่มทางโซเชี่ยล รวมพลคนถูกนายกฤษณะ โกงเงิน มีสมาชิกกว่า 200 คน
จากการแนวทางสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ประกอบการวิเคราะห์แผนประทุษกรรมการก่อเหตุของคนร้าย เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. มีพยานหลักฐานที่น่าเชื่อได้ว่าผู้ต้องหาที่ก่อเหตุข้างต้นคือ นายกฤษณะ เข็มทอง หรือนิว คนสามโคก จึงได้ตรวจสอบประวัติการกระทำความผิดในฐานข้อมูลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปรากฏพบว่า ณ ปัจจุบันนายกฤษณะ เข็มทอง ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับที่ยังต้องการตัวเพื่อดำเนินคดี จำนวน 5 หมายจับหลายท้องที่
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรีบดำเนินการสืบสวนเพื่อติดตามจับกุมตามหมายจับและอายัดตัวดำเนินคดีตามกฎหมายตามหมายจับที่ยังต้องการตัวให้ครบถ้วน ประกอบกับตรวจสอบพยานหลักฐานที่ชุดสืบสวนเชื่อว่าจะสามารถพิสูจน์ทราบถึงความเชื่อมโยงกับคดีที่เพิ่งเกิดขึ้นตามที่มีผู้เสียหายโพสต์แจ้งเตือน/ร้องเรียนในกลุ่ม Triumph Scramber Club Thailand , Triumph-Thailand
ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การว่ารับสารภาพตามข้อกล่าวหาตามหมายจับ พร้อมให้ข้อมูลว่าตนเริ่มมีพฤติกรรมโพสต์หลอกขายสินทางทางออนไลน์มาตั้งแต่ประมาณปี 2553 โดยเริ่มจากการหลอกขายโทรศัพท์มือถือที่ไม่ตรงกับคำสั่งซื้อของลูกค้า ในเว็บไซต์ siamphone ( https://www.siamphone.com/ ) จนมาถูกจับกุมในข้อหา “ ฉ้อโกง ” เมื่อช่วงปลายปี 2554 ครั้งนั้นถูกศาลตัดสินจำคุก 3 ปี แต่เนื่องจากตนให้การรับสารภาพศาลจึงลดโทษเหลือ 1 ปี 6 เดือน โทษ 1 ปี 6 เดือนให้รอลงอาญา 2 ปี ต่อมาปี 2555 ถูกจับกุมในข้อหา “ ฉ้อโกง ” ท้องที่ สภ.ท่าช้าง ภ.จว.สิงบุรี ครั้งนี้ถูกตัดสินจำคุก 2 ปี 9 เดือน
หลังพ้นโทษได้หลอกขายอะไหล่รถยนต์ในเพจ/กลุ่ม เฟซบุ๊ก ต่างๆ กว่า 50 กว่ากลุ่ม เช่น กลุ่ม BMW F10 & Series 5 (Thailand) , กลุ่ม ซื้อขาย เต็นท์บนหลังคารถ เต็นท์พื้นสนาม อุปกรณ์แคมป์ปิ้งราคาแบ่งปัน , กลุ่ม BMW X1 E84 Club Thailand , กลุ่ม โตโยต้า ไทเกอ ดีโฟดี , กลุ่ม ซื้อขายอะไหล่ ฮุนได H1 และรถ H1 มือสอง , Coleman Thailand ห้องซื้อ-ขาย , HILUX TIGER AND SPORT CRUISER 4X4 CLUB THAILAND (พูดคุย สอบถาม) , Range Rover P3 Thailand , กลุ่ม ชมรม คนรักรถจิ๊ปทหาร ซื้อ – ขาย , Haval H6 Club Thailand โดยใช้บัญชีธนาคารในนามชื่อบัญชีธนาคารของตนเอง กว่า 14 บัญชี
ล่าสุดรับสารภาพว่าเมื่อช่วงเดือนธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา ได้ใช้เฟซบุ๊กชื่อบัญชี “ อ๊อฟ แลนพีสามแปด (คุณอ๊อฟฯ) ” เข้าไปโพสต์หลอกขายอะไหล่รถจักรยานยนต์ Triumph เช่น ท่อไอเสีย ไฟเลี้ยว กันตก เบาะ ในกลุ่ม Triumph Scramber Club Thailand , Triumph-Thailand โดยใช้บัญชีธนาคารกรุงศรีอยุธยา เลขที่บัญชี 8014647871 ชื่อบัญชี นายธนพล และบัญชีธนาคารธนชาตทหารไทย เลขที่บัญชี 6342526578 ชื่อบัญชีนายไพรสน และบัญชีอื่นๆ ซึ่งได้ไปเช่ามาเพื่อใช้รองรับเงิน จากกลุ่มเฟซบุ๊กซื้อขายบัญชีธนาคาร เช่น กลุ่ม “ ดีลงาน/บัญชี/ซื้อ-ขาย ” , กลุ่ม “ ซื้อ ขาย บัญชี ธนาคาร ” , กลุ่ม “ ซื้อขาย บัญชีธนาคาร ใน กทม. ” รวมทั้งซื้อผ่านเฟซบุ๊กชื่อบัญชี “ Noone Champ ” , ชื่อบัญชี “ อยากเป็นคนที่ใช่ ในวันที่เทอเจ็บ ” , ชื่อบัญชี “ Pueng Noi ” โดยเสียค่าใช้จ่ายในการเช่าบัญชีประมาณ 900 บาท โดยจะได้ทั้งเลขบัญชีธนาคารและรูปถ่ายบัตรประจำตัวชาชนของเจ้าของบัญชีมาเพื่อใช้ในการรองรับเงินที่หลอกได้จากผู้เสียหาย
จากการก่อเหตุตั้งแต่ปี 2553 ถึงปัจจุบันผู้ต้องหารับว่าได้เงินจากการก่อเหตุมากกว่า 3,000,000 เงินที่ได้ส่วนใหญ่นำมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวันในครอบครัว รวมทั้งซื้อสิ่งของที่ตนเองอยากได้
เมื่อตรวจสอบประวัติการกระทำความผิดของผู้ต้องหาในฐานข้อมูลสำนักงานตำรวจแห่งชาติพบว่าผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมมีประวัติเคยถูกดำเนินคดีรวมทั้งหมด ทั้งที่เคยถูกจับกุมได้ และยังต้องการตัวเพื่อดำเนินคดี จำนวนรวม 13 คดี ซี่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ทำหนังสือประสานเพื่อให้พนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบแต่ละคดีทำการอายัดตัวผู้ต้องหาเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มือกม.ตำรวจ วิเคราะห์กระบวนการหลอกลวง ธุรกิจ ’ดิไอคอนกรุ๊ป’
ตอนถูกชักชวนเข้ามาธุรกิจนี้ ดาราทุกคนถูกบอสพอลเสนอการตลาดแบบตรง (ขายออนไลน์) และเช็คแล้วบริษัทจดทะเบียนถูกต้องแถม
‘ตำรวจปลอม’ ล่อลวงโอนเงิน แนะหากเจอ 3 มุกแบบนี้ มิจฉาชีพชัวร์ 100%
เพจสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โพสต์ข้อความแจ้งเตือนเรื่อง อย่าหลงกล 'ตำรวจปลอม' ล่อลวงให้โอนเงิน
รวบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ลวงคุณปู่วัย 81 โอนเงินพร้อมจำนองบ้านหมดตัว 22 ล้าน
พ.ต.อ.อดิชาต อมรประดิษฐ ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.3 พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนร่วมกันจับกุม นางอัจฉรา อายุ 54 ปี ชาวหนองคาย แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตามหมายจับ “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน
ตำรวจไซเบอร์เตือนภัยพี่น้องชาวมุสลิม มิจฉาชีพสร้างเพจปลอมหลอกลงทุนหุ้นอิสลาม
สืบเนื่องจากเพจปลอมหลอกลงทุนออนไลน์กำลังระบาด ซึ่งมิจฉาชีพใช้วิธียิงแอดบูสต์โฆษณาเพื่อให้ผู้คนเห็นโพสต์ได้มากขึ้น โดยตำรวจไซ
สลด! บิ๊กไบค์วิ่งฝ่าฝน ชนประสานงา จยย. ดับ 1 สาหัส 1
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางปู จังหวัดสมุทรปราการ รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนกันทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต