'ผู้ช่วย ผบ.ตร.' สั่งติดตามติดตามแผนป้องกันอุบัติเหตุช่วงปีใหม่เข้ม

“ผู้ช่วย ผบ.ตร.” ติดตามมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน เตรียมอำนวยความสะดวกประชาชนเดินกลับกรุงเทพฯ

1 ม.ค.66 – พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. เปิดเผยว่า ตามนโยบายของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่ให้ความสำคัญในการอำนวยความสะดวกการจราจร การป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน สร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินแก่ประชาชนและสังคม ในช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2566 นั้น

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ภายใต้การนำของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร.(มค) ได้นำนโยบายรัฐบาลมาสู่การปฏิบัติ โดยได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุ ทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2566 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และมอบหมายให้ พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะ รอง ผอ.ศูนย์ฯ ประชุมศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2566 เพื่อติดตามข้อมูลและสถิติการเกิดอุบัติเหตุ ผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ ข้อมูลและสถิติอุบัติเหตุใหญ่ การบังคับใช้กฎหมาย 10 ข้อหาหลัก การตั้งจุดตรวจ แนวทางการป้องกันอุบัติเหตุในพื้นที่ ตลอดจนสภาพการจราจรและปริมาณรถในพื้นที่ โดยมี พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. เป็นประธานการประชุม และมีผู้แทน บช.น., ภ.1 – 9 และ บช.ก. เข้าร่วมประชุม

พล.ต.ท.ประจวบ กล่าวว่า สถิติสะสมในห้วง 3 วันอันตราย ระหว่างวันที่ 29 – 31 ธ.ค.65 มีการเกิดอุบัติเหตุ 1,183 ครั้ง ลดลงกว่าช่วงเดียวกันของปีใหม่ปี 65 จำนวน 169 ครั้ง (-12.50 %) และลดลงกว่าค่าเฉลี่ยสะสม 3 ปี 317 ครั้ง (-21.13%) สถิติผู้เสียชีวิต 146 ราย ลดลงกว่าช่วงเดียวของปีใหม่ปี 65 จำนวน 18 ราย (-10.98%) และลดลงกว่าค่าเฉลี่ยสะสม 3 ปี 33 ราย (-18.44%) สถิติผู้บาดเจ็บ 1,182 คน ลดลงกว่าช่วงเดียวของปีใหม่ปี 65 จำนวน 118 ราย (- 9.08%) ลดลงกว่าค่าเฉลี่ยสะสม 3 ปี จำนวน 310 คน (- 20.78%) จำนวนอุบัติเหตุสะสมสูงสุดในพื้นที่ จว.สุราษฎร์ธานี 42 ครั้ง เสียชีวิตสูงสุดในพื้นที่ จว.เชียงราย 10 ราย บาดเจ็บสูงสุดในพื้นที่ จว.สกลนคร 46 ราย โดยมีสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุสูงสุด คือ ขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนด ร้อยละ 37.87 และมีพฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บสูงสุดจากการไม่สวมหมวกนิรภัย ร้อยละ 58.06 โดยอุบัติเหตุเกิดขึ้นในถนนทางหลวงมากที่สุด ร้อยละ 42.27 สำหรับยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด คือ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 81.11 ซี่งช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด คือช่วง 19.00 – 20.00 น. โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้บังคับใช้กฎหมายจราจร 10 ข้อหาหลัก รวม 200,114 ราย ได้แก่ ไม่มีใบอนุญาตขับขี่ 59,715 ราย ไม่สวมหมวกนิรภัย 55,420 ราย ขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนด 21,432 ราย ตามลำดับ

พล.ต.ท.ประจวบ กล่าวต่อว่า ภาพรวมการจราจรและการลดอุบัติเหตุเป็นไปด้วยดี ลดลงได้ต่ำกว่าค่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยสภาพการจราจรในห้วงวันที่ 30 – 31 ธ.ค.65 ยังมีความคล่องตัว แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องเตรียมพร้อมอำนวยความสะดวกการจราจรตามที่คาดการณ์ว่าประชาชนจะเริ่มเดินทางกลับ กทม. ในวันที่ 1 ม.ค.66 ประมาณ 550,421 คัน และสูงสุดในวันที่ 2 ม.ค.66 ประมาณ 649,897 คัน โดยต้องพร้อมปฏิบัติอยู่เสมอ

พล.ต.ท.ประจวบ ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทั่วประเทศปฏิบัติตามแนวทางข้อสั่งการของ ผบ.ตร. โดยเคร่งครัด จังหวัดใดที่มีแนวโน้มสถิติสูง ให้พิจารณาปรับแผนการปฏิบัติเพื่อลดจำนวนสถิติการเกิดอุบัติเหตุ จำนวนผู้เสียชีวิตและจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บ ให้ลดน้อยลงกว่า 5% ตามเป้าหมาย และให้ทุกหน่วยออกกวดขันจับกุมดำเนินคดีกับผู้ขับขี่รถในขณะเมาสุรา เพื่อช่วยป้องกันและลดสถิติการเกิดอุบัติเหตุทางถนน ทั้งถนนในเขตชุมชน หรือเส้นทางที่เกิดอุบัติเหตุสูง นอกจากนี้ การตั้งจุดตรวจกวดขันวินัยจราจรและการตั้งจุดตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ ให้เน้นกวดขันพฤติกรรมเสี่ยงที่ส่งผลต่อการบาดเจ็บและเสียชีวิต เช่น ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ไม่สวมหมวกนิรภัย ขับรถในขณะเมาสุรา และขับรถด้วยความเร็วเกินกฎหมายกำหนด และให้ทำการสืบสวนคดีจราจร เพื่อทราบสาเหตุ ที่แท้จริงที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ หากจุดใดที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ให้นำไปวิเคราะห์และหาแนวทางแก้ไขปัญหา มิให้เกิดอุบัติเหตุซ้ำในบริเวณดังกล่าว กรณีอุบัติเหตุที่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ให้ พงส. ตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ของผู้ขับขี่ทุกราย นอกจากนี้ยังเน้นย้ำให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้น ออกตรวจการปฏิบัติในการปฏิบัติหน้าที่และการตั้ง จุดตรวจของผู้ใต้บังคับบัญชา ควบคุม กำกับดูแลให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย รวมถึงการพิจารณาบริหารจัดการกำลังพล ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเหมาะสมกับสถานการณ์

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สตช.สานต่อ 'โครงการสุภาพบุรุษจราจร ประชาชนสัญจรปลอดภัย' ต่อเนื่องปีที่ 2

สตช.ร่วมกับภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชน สานต่อ 'โครงการสุภาพบุรุษจราจร ประชาชนสัญจรปลอดภัย' ต่อเนื่องปีที่ 2 มุ่งหวังให้ประชาชนมีความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนเพิ่มขึ้น

แต่งตั้ง 'พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข' รักษาราชการแทน รองผบ.ตร. แทนที่บิ๊กรอย

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.รรท.ผบ.ตร.) มีหนังสือคำสั่ง ตร.ที่ 253/2567 ลงวันที่ 20 มี.ค. เรื่อง ข้าราชการตำรวจรักษาราชการแทน ใจความว่า ตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี

วิบากกรรมบิ๊กโจ๊กคดีเว็บพนัน ทำเสี่ยงหลุดไลน์ชิงผบ.ตร.

ผลพวงคดีเว็บพนันออนไลน์-บัญชีม้า ที่ “บิ๊กโจ๊ก-พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.” ซึ่งมีข่าวอาจจะโดนเอาผิดไปด้วย ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 และ 157 รวมถึงความผิดเรื่องฟอกเงิน ตามแนวการสืบสวนสอบสวนขยายผลคดีเว็บพนันออนไลน์ ของชุดพนักงานสอบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่มี พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร.คุมทีม และมีการส่งสำนวนบางส่วนไปยังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ด้วยส่วนหนึ่ง

'นิกร' แนะสถานที่ราชการเปิดที่พักริมทางเพิ่ม ป้องกันสูญเสียช่วงเทศกาลปีใหม่

นายนิกร จำนง ประธานมูลนิธิประชาปลอดภัย กล่าวว่า ในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ปีนี้มีความน่าเป็นห่วงอย่างมากกว่าปกติ เนื่องจากเป็นปีที่หลุดมาจากโควิด-19 เต็มรูปแบบ ผู้คนจะเดินทางเป็นจำนวนมาก เพราะคั่งค้างมาหลายปี รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างเต็มที่