14 ธ.ค.2565 - ที่โรงแรมเดอะเดวิส คอนเนอร์วิง สุขุมวิท 24 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองชื่อดัง นำถังใส่น้ำยาฟอกขาวมาแถลงการเปิดโปงขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติที่มีความเชื่อมโยงกับตู้ห่าว นายทุนจีนที่ทำธุรกิจสีเทาในไทย โดยระบุว่า งานนี้จะเป็นสงครามสุดท้ายที่ตนจะทำในฐานะของประชาชน จึงต้องล้มกระดานให้ได้ หากใครจะฟ้องร้องก็ให้ทำไปเลย เพราะนายตู้ห่าว มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งทางตรงและทางอ้อมกับความผิดทั้งในและนอกราชอาณาจักร โดยกลุ่มจีนเทาเป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ทั้งในรูปแบบมูลนิธิเถื่อนและการขนส่งยาเสพติด รวมถึงผับจิ้นหลิง ซึ่งคดีนี้ตำรวจดำเนินคดีตู้ห่าวไปแล้ว 3 ข้อหา เป็นความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด เว้นแต่คดีฟอกเงินซึ่งจะทำให้ทราบเส้นทางการเงิน แต่ตนสอบถามกับตำรวจแล้วระบุว่า สาเหตุที่ไม่แจ้งข้อหาฟอกเงิน เพราะคดียาเสพติดมีโทษหนักกว่า ตนจึงมั่นใจว่าตู้ห่าวจะหลุดคดีแน่นอน เพราะมีการทำลายพยานหลักฐานต่างๆ ไปแล้ว
นายชูวิทย์ กล่าวว่า วันเกิดเหตุที่ตำรวจเข้าไปตรวจสอบผับจินหลิงนั้น พบชาวจีนกว่า 265 คน พร้อมยาเสพติดจำนวนมาก รวมถึงยังมีพนักงานเสิร์ฟและ รปภ.ชาวไทย แต่เหตุใดผู้บัญชาการตำรวจนครบาล จึงไม่เรียกสอบปากคำผู้ใด ทั้งที่พบผู้มีปัสสาวะสีม่วง และยังจับกุมผู้ดูแลสถานบริการดังกล่าว ซึ่งแท้จริงเป็นเพียง รปภ.เท่านั้น ก่อนจะปล่อยตัวภายหลัง ทำให้พยานแปดเปื้อนและคำให้การต่อศาลไม่อาจเชื่อถือได้
นอกจากนี้ เหตุใดจึงไม่ตรวจสอบโทรศัพท์มือถือนักท่องเที่ยวชาวจีน ซึ่งอาจมีหลักฐานการแชตพูดคุย ทั้งนี้เพราะยาเสพติดที่ประเทศจีนมีราคาแพงและมีอัตราโทษสูง หากใครต้องการเสพยาจึงจะมุ่งมาที่ประเทศไทย
นายชูวิทย์ กล่าวอีกว่า รองผู้กำกับการสอบสวน สน.ยานนาวา ยังขี่จักรยานยนต์พาได้เดวิด ฮอว์ ซึ่งเป็นตัวการคนสำคัญในการนำยาเสพติดมาขาย ไปส่งศาลฝากขังก่อนเดวิด จะยื่นขอประกันตัว แต่แทนที่ รอง ผกก.นายนี้จะพาไปส่งที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(สตม.) เพื่อฝากขังตามขั้นตอน กลับพาไปปล่อยกลางทางทำให้เจ้าตัวขึ้นเครื่องบินหลบหนีออกนอกประเทศ พร้อมหลานตู้ห่าว ขณะที่รองผู้กำกับการจราจร สน.ลาดพร้าว และลูกน้องก็ให้การช่วยเหลือครั้งนี้เช่นกัน
นายชูวิทย์ กล่าวว่า ยังมีข้อมูลจากบันทึกการจับกุมที่ปรากฎชื่อ รอง ผบก.น.6 นายหนึ่งที่อ้างว่าไม่สามารถเปิดรถยนต์ที่ตำรวจเข้าตรวจยึดจากการขยายผลจับกุมเครือข่ายผับจิ้นหลิง โดยอ้างว่าไม่มีกุญแจรถ ซึ่งภายในรถทั้งหมด 4 คัน มีทั้งยาเสพติดและเงินสดอยู่ เช่นเดียวกับเครื่องบินส่วนตัวที่ใช้ขนยาเสพติด ที่ตรวจสอบล่าช้าจนไม่เหลืออะไรบนเครื่องบิน การกระทำดังกล่าวจึงมีลักษณะเป็นขบวนการ โดยการฟอกเงินของจีนเทา ยังใช้วิธีการถือหุ้นไทย ซื้อรถหรู นาฬิกา ซื้อบ้านและคอนโดมิเนียม ซึ่งยังสามารถนำไปขายต่อได้ และยังมอบรถฉุกเฉินสำหรับศูนย์ส่งกลับ รพ.ตำรวจ มูลค่าเกือบ 1 ล้านบาท อีกด้วย
นอกจากนี้ยังมีขบวนการอุ้มท้องซื้อพ่อ กรณีสามีภรรยาเป็นชาวจีน ก็จะซื้อสัญชาติจากพ่อชาวไทยที่เป็นนอมินีเพื่อฝากครรภ์ที่ รพ.เอกชน เพื่อให้เด็กเกิดมาได้สัญชาติไทย จากนั้นเมื่ออายุครบ 7 ปี เด็กก็จะทำบัตรประชาชนเพื่อที่พ่อแม่ชาวจีนจะซื้อบ้านและทรัพย์สินต่างๆ โดยอ้างเป็นการซื้อให้ลูกได้ จากนั้นเมื่ออายุ 13 ปี สามารถจัดตั้งบริษัท ถือหุ้นบริษัทได้ 51% ซื้อที่ดินและได้กรรมสิทธิ์อื่นๆ ที่บริษัทต่างชาติทำไม่ได้ ถือเป็นการวางแผนระยะยาว ยิ่งกว่าการซื้อหุ้นไทย
นายชูวิทย์ กล่าวว่า จากนี้ตนจะร้องเรียนไปยังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ให้ตรวจสอบนายตำรวจที่เกี่ยวข้องกับการให้ความช่วยเหลือขบวนการจีนสีเทา พร้อมจะขอเสนอตนเอง ต่อ ผบ.ตร.เพื่อเป็นพยานชี้เบาะแสในคดีนี้ทั้งหมด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'อนุทิน' รับไม่ขอเสี่ยงปม 'ลุงชาญ' ยึดความเห็นเลขาฯกฤษฎีกา ชี้ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีนายชาญ พวงเพ็ชร์ ผู้ชนะการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด หรือ อบจ.จังหวัดปทุมธานี จะขัดกฎหมายตามม.157 หรือไม่
'ปิยบุตร' แนะ 'ชาญ พวงเพ็ชร์' ใช้สปิริตลาออก เหตุระบบกฎหมายตอนนี้มันลักลั่น
นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า กล่าวถึงผลการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี (อบจ.ปทุมธานี) ว่า ตัวเลขออกมาแล้ว ไม่ว่าจะชนะมากหรือน้อย จะขาดหรือไม่ขาด ก็เป็นผลการเลือกตั้งที่ประชาชนตัดสินใจมา
'ชูศักดิ์' เผยรอศาลสั่ง 'ชาญ' หยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ เห็นแย้งเลขาฯ ป.ป.ช. โยนมหาดไทย
นายชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายชาญ พวงเพ็ชร์ ว่าที่นายกองค์การบริหารส่วนจ.ปทุมธานี ถูกร้องเรียนเรื่องทุจริตและศาลรับฟ้องแล้วจะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ ว่า ในความเห็นตนคิดว่าเรื่องที่กฤษฎีการะบุว่า
ผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ชี้แจงกองทุนพัฒนาสื่อฯ มีกระบวนการและพิจารณาทุนโปร่งใส มีธรรมาภิบาล พร้อมร่วมมือตรวจสอบ
(3 กรกฎาคม 2567) ดร.ธนกร ศรีสุขใส ผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ชี้แจงกรณีตามที่มีข่าวผู้รับทุนยื่นหนังสือต่อ ป.ป.ช. และ ป.ป.ท.
ป.ป.ช.รอตรวจสอบ ปมบ้านหรู 'บิ๊กต่อ' ส่วนคดี 'บิ๊กโจ๊ก' รอสำนวนครบแล้วทำพร้อมกัน
นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยถึงกรณีตรวจสอบทรัพย์สินบ้านหรู ที่ประเทศอังกฤษ ของ พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจ
เลขาฯ ป.ป.ช. แจงปมชี้มูล 'ชาญ พวงเพ็ชร์' ทุจริตซื้อถุงยังชีพ
นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงกรณีนายชาญ พวงเพ็ชร์ ชนะการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อปจ.) ปทุมธานี