ผบช.ภ.9 ลั่นจับ 'เสี่ยโจ้ ปัตตานี' ได้แน่ รู้ตัวคนพาหลบหนีแล้ว

18 พ.ย.2564 - จากกรณีนายสหชัย เจียมเสริมสิน อายุ 53 ปี หรือ “เสี่ยโจ้ ปัตตานี “ ผู้ต้องหาคดีฟอกเงิน ค้าน้ำมันเถื่อน ที่ถูกจับกุมได้ที่ย่านห้วยขวาง ระหว่างหลบหนีคดี และนำตัวส่งพนักงานอัยการจังหวัดสงขลา เพื่อฟ้องคดีตามหมายจับศาลจังหวัดสงขลา ที่ 60/2564 ลงวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2564 ในความผิดเกี่ยวกับการฟอกเงินเเต่พนักงานอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องคดี จึงมีการปล่อยตัวผู้ต้องหา

โดย นายสหชัย ยังมีคดีที่ศาลปัตตานีพิพากษาจำคุก 1 ปี 9 เดือน ในข้อหาปลอมแปลงเอกสารใช้ดวงตราประทับไม้ปลอม ซึ่งศาลออกหมายจำคุกถึงที่สุดเเละให้ออกหมายจับ โดยเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายนที่ผ่านมา กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางได้ออกเอกสารข่าวชี้เเจงสำหรับเหตุที่ไม่ได้ส่งตัวนายสหชัย ไปยังศาลจังหวัดปัตตานีนั้น ก็เนื่องจากตำรวจได้ตรวจสอบในสารบบแล้ว พบว่า นายสหชัย มีหมายจับของศาลจังหวัดสงขลาเพียงแค่หมายจับเดียว ไม่พบมีหมายจับของศาลจังหวัดปัตตานี

หลังจากถูกนำตัวไปส่งจังหวัดสงขลา ตามหมายจับคดีร่วมกันฟอกเงิน พนักงานอัยการได้มีคำสั่งไม่ฟ้อง ทำให้จำเป็นต้องปล่อยตัวไป โดยก่อนปล่อยตัวได้สอบถามว่ามีหมายจับค้างเก่าอื่นหรือไม่เมื่อตำรวจบอกว่าไม่มี ทางอัยการไม่มีอำนาจควบคุมตัวจึงปล่อยไป

จากนั้นวันที่ 6 พฤศจิกายน 2564 ทางเจ้าหน้าที่เพิ่งจะค้นเจอหมายจับศาลปัตตานี เช้าวันที่ 7 พฤศจิกายน 2564 จึงรีบขอหมายค้น และตามไปหาตัวที่บ้านพักก็ไร้วี่แววของเสี่ยโจ้ คาดว่าเดินหน้าหลบหนีออกไปนอกประเทศเรียบร้อยแล้ว

ล่าสุด ที่ศูนย์ปฎิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า อำเภอเมือง จังหวัดยะลา พลตำรวจโทนันทเดช ย้อยนวล ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 เปิดเผยว่า หลังจากที่มีกรณีดังกล่าวเกิดขึ้น ทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ก็ได้สั่งให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง และพบว่าทางศาลได้ส่งหมายจับมาให้ที่ตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานีจริง โดยส่งผ่านพนักงานสอบสวนท่านหนึ่ง ซึ่งไปที่ศาลพอดี รับหมายมาแล้วก็เอาหมายมาเก็บไม่ได้เข้ากระบวนการตามระเบียบที่กำหนดไว้ แต่หมายก็ไม่ได้หายไปไหน

เบื้องต้นจากการตรวจสอบข้อเท็จจริงถือเป็นความบกพร่อง จึงได้มีการเสนอให้ตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัย และปัจจุบันพนักงานสอบสวนท่านนี้ก็ได้ย้ายไปแล้ว เนื่องจากเป็นตำรวจที่มาช่วยราชการ หลังจากที่ทางกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว ก็ได้ส่งสำนวนตรวจสอบข้อเท็จจริงไปยังผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อที่จะตั้งกรรมการทางวินัยในส่วนที่เกี่ยวข้อง คือเป็นหน้าที่ของตำรวจภูธรภาค 3 ที่ตำรวจท่านนี้กลับไปสังกัดอยู่ ในเบื้องต้นมีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้จำนวน 1 นาย แต่หากสอบสวนถึงผู้ใด ก็จะต้องถูกดำเนินการทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นวินัย หรือถ้าผิดอาญา ก็ต้องดำเนินคดี

“สำหรับเสี่ยโจ้ ขณะนี้ยังมีหมายจับในคดีไม่มาฟังคำพิพากษาของศาล ซึ่งหากเจอตัวก็สามารถจับกุมได้ทันที ส่วนเจ้าตัวขณะนี้อยู่ที่ไหน ตนเองเชื่อว่าอีกไม่นานก็จะสามารถจับกุมตัวได้ ส่วนที่จะยังอยู่ในประเทศไทยหรือไม่นั้น ก็ยังไม่แน่ชัด เพราะยังไม่มีข้อมูลยืนยันว่าออกนอกประเทศไปแล้วหรือยัง อาจจะไปอยู่ประเทศเพื่อนบ้าน หรืออยู่ในประเทศ หรืออาจจะอยู่กลางน้ำ กลางทะเล ประมาณนั้น ตนเองเชื่อว่าจะจับได้ หมายจับยังอยู่ อายุความไม่ขาด อาจจะหนีไปได้แต่คงไม่รอด” ผบช.ภ.9 เผย

พล.ต.ท.นันทเดช ยังบอกอีกว่า หลังจากนี้ไปก็ต้องกระชับมากขึ้น ต้องคุยกันมากขึ้นระหว่างหน่วยงานข้างเคียง เชื่อว่าทางศาลท่านก็มีระบบการจัดเก็บหมาย ทางตำรวจก็ต้องมีระบบจัดเก็บหมายที่กระชับกว่านี้ ที่ผ่านมาก็มีการพัฒนาการเก็บหมายจับไปค่อนข้างเยอะ และจะต้องมีการพัฒนาต่อไป แต่อย่างไรก็ตามทางตำรวจภูธรภาค 9 ก็ไม่ได้มีความกดดันในเรื่องนี้แต่อย่างใด ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง อยู่ที่จะตามจับได้ช้าหรือเร็วเท่านั้น ท่านผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ความสำคัญในเรื่องนี้มาก ซึ่งเชื่อว่าไม่นาน ส่วนกลุ่มคนที่พาเสี่ยโจ้หลบหนี ก็ต้องรู้ตัวว่ากระทำผิดกฎหมายอยู่ ก็จะต้องถูกดำเนินคดี และทราบตัวบุคคลที่พาหนีแล้ว เป็นขั้นตอนต่อไปที่จะดำเนินการ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

หมายจับ 'เอก สายไหมต้องรอด' โพสต์ข้อมูลเท็จดิไอคอน เจ้าตัวอ้างไม่เห็นหมายจับ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจบก.ปอท. ได้ขออำนาจศาลอาญาออกหมายจับนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้อง

คนร้ายชักปืน จี้พนง.ร้านสะดวกซื้อ ชิงเงินสด 1.2 ล้าน หนีลอยนวล

ร.ต.อ.มณฑล บัวพัว รอง สว.(สอบสวน) สภ.มายอ จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการณ์ลางา ว่า เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนชิงทรัพย์พนักงานร้านสะดวกซื้อ ได้เงินไปกว่า 1 ล้านบาทหลบหนีไป เหตุเกิดหน้าธนาคารกสิกรไทย สาขาปาลัส ต.ลางา อ.มายอ

'ฟิล์ม-เจ๊พัช' ระทึก! 'ผบ.ตร.' ชี้ผิดจริง หมดสิทธิ์ลอยกระทง

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวการออกหมายเรียก หรือหมายจับ ฟิล์ม-นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์