'จ้าว เหว่ย' ท้า 'ชูวิทย์' มาเยือนสามเหลี่ยมทองคำดีกว่าโยนขี้ทุกเรื่อง

'จ้าว เหว่ย' ซัด 'ชูวิทย์' จูนความคิดใหม่ ถามหาหลักฐานโยงทุนจีนสีเทา-ยาเสพติด ท้าให้มาเขตเศรษฐกิจสามเหลี่ยมทองคำ-คิงส์โรมัน พร้อมยันไม่รู้จัก 'ตู้ห่าว' เชื่อสหรัฐเบื้องหลังวาดภาพปีศาจ

08 ธ.ค.2565 - สมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-จีนนำโดย พล.อ.อุทัย ชินวัตร อุปนายกฯ นายไพศาล พืชมงคล เลขาธิการสมาคม ฯ และคณะ เยือนพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ ตรงข้าม อ. เชียงแสน จ. เชียงราย พร้อมพบพูดคุยกับนายจ้าว เหว่ย ประธานเขตเศรษฐกิจพิเศษ ผู้ก่อตั้งอาณาจักรคาสิโนคิงส์โรมัน ที่ถูกนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองออกมาระบุว่ามีความเกี่ยวโยงกับ 5 เสือกลุ่มจีนสีเทา ที่ขยายอิทธิพล กรุงเทพฯ พัทยา ไปยันภูเก็ต

นายจ้าว เหว่ย ในวัย 71 ให้สัมภาษณ์เป็นภาษาจีน ถึงกรณีถูกโยงเข้ากับกลุ่ม 5 เสือทุนสีเทาว่า ไม่กระทบต่อการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามเหลี่ยมทองคำ เพราะไม่ได้รู้จักทั้ง5 คน ซึ่งผู้แทนที่มาจากเมืองไทยในนามสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-จีน ครั้งนี้เป็นคนในรุ่นราวคราวเดียวกัน จึงมีความสนิทสนมและเข้าใจกัน แต่ 5เสือที่เป็นข่าว ไม่รู้จักเพราะเป็นคนต่างยุคต่างสมัย จึงไม่สามารถรู้ว่าเขาคิดอย่างไร

“ดูจากการกระทำที่ออกมาแล้ว ผมไม่เห็นด้วย แต่ไม่ไปก้าวก่ายอะไร ถ้าเขาทำผิดกฎหมายในไทยแล้ว ไทยก็ควรปราบปรามเขาโดยกฎหมายของไทย ซึ่งคนจีนส่วนใหญ่ก็รู้ว่าสิ่งไหนถูก สิ่งไหนผิด แต่ผลกระทบคือข่าวที่ออกมาในทำนองกล่าวหาชาติพันธุ์หนึ่งในทางลบ เป็นการเหมารวมเกินไป หรือแม้กระทั่งการพาดพิงถึงผมซึ่งไม่เป็นความจริง เป็นการกล่าวหากันลอยๆ ซึ่งผิดทั้งกฎหมาย และศีลธรรม”

นายจ้าว เหว่ย ระบุด้วยว่า ยังคงเดินหน้าต่อไปในการพัฒนาเขตเศรษฐกิจฯ โดยยึดหลักความจริง ไม่ให้เสียงภายนอกมากระทบ ต่อจากนี้ก็จะให้คนไทยรู้จักตนเองมากขึ้น เพื่อนำไปสู่ความร่วมมือพัฒนาด้วยกัน และใช้ความมุ่งมั่นในการชี้แจงความจริงต่อไป อย่างไรตามเชื่อว่า การโยงนายตู้ ห่าว กับตนเอง ส่วนหนึ่งเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งระหว่างมหาอำนาจจีน- สหรัฐอเมริกา ซึ่งที่ผ่านมา สหรัฐก็สร้างภาพให้จ้าว เหว่ย เป็นปีศาจอยู่แล้ว โดยอ้างสิทธิในการที่จะกล่าวหาอะไรก็ได้ ทั้งนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในไทยเชื่อว่าสามารถแก้ไขด้วยกฎหมาย โดยที่ใครทำผิดก็ลงโทษคนนั้น แต่ไม่ควรพาดพึงถึงคนจีนคนอื่นด้วย

“เขาซื้อที่ดิน คอนโด หรือบ้าน เป็นเรื่องทางธุรกิจ การหมุนเวียนของเงินที่นี่ก็ตรวจสอบได้ และคนจีนที่มีฐานะร่ำรวยเพราะเขาขยัน หมั่นเพียร ดังนั้น เมื่อเกิดปัญหาตรงไหนก็ไปแก้ตรงนั้นอย่ามาพาดพิง และทำไมต้องมากล่าวหาว่าจ้าว เหว่ย เป็นตัวบงการใหญ่ของกลุ่มจีนสีเทาหรือมีอิทธิพลด้านมืด ซึ่งในประเทศจีนถ้าเจอก็ต้องปราบอยู่แล้ว เพราะในสังคมจีนต่อต้านเรื่องพวกนี้มาก”

เมื่อถามว่า อยากให้อธิบายคำว่าแค้นนายชูวิทย์ นายจ้าว เหว่ย กล่าวว่า คงไม่ใช่แค้นขนาดนั้น แต่รู้สึกเบื่อหน่ายกับการกระทำอย่างนี้ จนไม่อยากไปสนใจและมองว่าเป็นการกระทำที่น่าละอาย ไม่ทราบจุดประสงค์ของเขาว่าทำเพื่ออะไร อยากให้ทบทวนในสิ่งที่ทำและขอให้พูดความจริง เพราะส่วนตัวแล้วมองคนไทยในแง่บวก และยินดีที่จะต้อนรับคนไทยทุกคน

เมื่อถามว่า จะเชิญนายชูวิทย์ มาดูที่นี่ให้เห็นกับตาตัวเองหรือไม่ นายจ้าว เหว่ย กล่าวว่า ยินดีต้อนรับมาก อยากใช้ความจริงให้เขาเข้าใจในส่วนนี้ ให้เขาปรับทัศนคติ และมีหลักการที่ถูกต้องกับการใช้ความจริงมองคนชาติพันธุ์จีนว่าเป็นคนอย่างไร อย่ามองภาพชาติพันธุ์หนึ่งให้เป็นภาพเดียวกันหมด ฝากถึงการกระทำแบบนี้ว่ามันเป็นการทำลายความสัมพันธ์ระหว่างจีน-ไทย ทั้งที่เราได้สร้างร่วมกันมาอย่างดี ไทยไม่เคยมีเหตุการณ์กดขี่คนจีนเกิดขึ้นในสังคมไทย จึงเป็นเหตุผลที่ว่าคนไทยและคนจีน เวลามีอะไรเราสามารถพูดคุยร่วมกันได้ เรามีหัวข้อเดียวกัน มีหัวอกเดียวกัน มีความสัมพันธ์สนิทสนมกัน การสร้างภาพพจน์ที่ไม่ดีต่อชาติพันธุ์ การกล่าวหาทำลายแบบนี้จะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างจีน-ไทย เกิดการแตกร้าวขึ้นมาได้ การที่จะตำหนิ หรือออกความคิดเห็น มันต้องเป็นความจริงเท่านั้น และให้อีกฝ่ายยอมรับ เพื่อพร้อมปรับปรุงแก้ไข แต่หากเป็นการสร้างกระแส หรือสร้างเรื่องขึ้นมา มันเป็นอะไรที่ไม่สมควร และไม่ถูกต้อง เพราะมันไม่ใช่ความจริง ถ้าไม่ใช่ความจริงหรือไม่ใช่ความคิดที่โปร่งใส มันจะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเราเปลี่ยนแปลงไป มันจะไม่เหมือนเดิม

“จากใจจริงเลย อยากเชิญชวนนายชูวิทย์มาที่คิงส์โรมันนี้ มาดูความจริงและพูดความจริง ลองเยี่ยมชมดู คนเราถ้าทำผิดเป็นปีศาจร้ายเลย แต่แค่หากกลับใจ วางมีดในมือลง เรายินดีที่จะให้อภัยได้เสมอ แต่อาจจะมีความประสงค์จากด้านไหน หรืออะไรที่ทำให้นายชูวิทย์คิดผิดเพี้ยนไปก็อยากให้เขาลองมองใหม่”นายจ้าว เหว่ย กล่าว

เมื่อถามว่า มีข่าวลือในไทยว่าที่นี่สามารถนำยาเสพติดมาใช้หนี้พนันได้หากไม่มีเงิน นายจ้าว เหว่ย กล่าวว่า ที่กล่าวหาคิงส์โรมันเป็นผู้ร้าย ทำสิ่งใดร้ายๆ มีหลักฐานหรือไม่ และคนที่ให้ร้ายมีวัตถุประสงค์อะไร ยืนยันว่าที่นี่ต่อต้านยาเสพติด มีมาตรการเข้มงวดในการตรวจปัสสาวะพนักงาน เข้าหน้าที่ แม้แต่ตนเองก็ต้องตรวจ และหากพบว่ามีปริมาณมากเกิน 10 เม็ด จากผู้เสพก็จะกลายเป็นผู้ค้า ซึ่งโทษหนักหากเป็นแรงงานต่างด้าวก็ส่งกลับทันที

“กล่าวหาผมว่าเลวร้ายมีหลักฐานไหมว่าเลวร้ายอย่างไร ผมยืนยันว่าผมเป็นคนดีและมีหลักฐานให้เห็นว่าทำสิ่งดีๆ อะไรที่เป็นรูปธรรมแล้วบ้าง ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น ผมไม่สามารถควบคุมมันได้แต่กลายเป็นว่าเกิดสิ่งที่ไม่ดี ก็จับโยนมาที่ผมหมด”

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ชูวิทย์' งง 'พรรคส้ม' ย้อนแย้ง กับความฝันเรื่องการเมืองใหม่ แต่กลับไปได้ของเก่ากว่าเดิม

นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตส.ส.และอดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า ความย้อนแย้งของการเมืองใหม่

รู้หมด! 'ชูวิทย์' ชี้นักโทษวีไอพีจีนเทาในคุก แผนวางงานโละอำนาจเก่าไปสู่อำนาจใหม่

ยิ่งเรื่องในคุก หากให้ตรวจกันเองก็เหมือนตำรวจสอบตำรวจ ผลออกมาได้แค่แสดงแอ็คชั่นขึงขัง สร้างภาพไปตรวจ จากนั้นตั้งกรรมการสอบรายชื่อยาวเป็นหางว่าว ปล่อยไปสัก 1-2 เดือน ให้เรื่องเงียบ

ชูวิทย์ ชำแหละ 'มีเรา ไม่มีเทา' สโลแกนพรรคส้ม ปลุกแซงกระแสรักชาติ วางแผนยาวถึงการเลือกตั้ง

ชูวิทย์ ชำแหละเมื่อรัฐบาลหนูวางแผนสั้น แต่พรรคส้มวางแผนยาวไปถึงการเลือกตั้งด้วยสโลแกน มีเรา ไม่มีเทา ตีกันด้วยเรื่องเทาๆ ที่ชาวบ้านร้านตลาดถูกใจ

ระเบิดลงดีเอสไอ! จอมแฉ ปูดเจ้าหน้าที่ทำคดีฮั้วสว.-เขากระโดง ถูกลักไก่ 'ยืมตัว' พ้นงานเดิม

ชูวิทย์ ระบุบรรดาเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ที่มีส่วนทำคดี ฮั้ว สว. และ เขากระโดง ถูกระเบิดลงกระเด็นกระดอนไปคนละทิศคนละทาง  

ชูวิทย์ มองมุมขำการเมือง รัฐบาลตระกูลชิน มีสุภาษิตประจำใจ 'ไม่ไล่ ไม่เลิก'

ชูวิทย์เล่าเรื่องตลกประจำวันอาทิตย์ ทุกครั้งที่เพื่อไทยเป็นรัฐบาลต้องไล่ถึงจะลง ตั้งแต่ ทักษิณ ยิ่งลักษณ์ อุ๊งอิ๊ง ตระกูลนี้เขามีสุภาษิตประจำใจ ”ไม่ไล่ ไม่เลิก“ ต้องทำให้เป็นธรรมเนียม