2 ธ.ค. 2565 – ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.) พร้อมด้วยตัวแทนจากสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. และ สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือ ป.ป.ส. ตัวแทนเจ้าพนักงานอัยการ ร่วมประชุมพนักงานสืบสวนสอบสวน ที่รับผิดชอบการสอบสวนคดีการลักลอบจำหน่ายยาเสพติดในสถานบันเทิงจินหลิง ย่านยานนาวา
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า วันนี้เป็นการประชุมร่วมกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยนำข้อมูลพยานหลักฐานต่างๆ ที่ตรวจค้นได้จากหลายจุด มาเข้าสู่สำนวนการสอบสวนคดี เพื่อกำหนดแนวทางการสอบปากคำและไล่เส้นทางการเงินเส้นทางการใช้โทรศัพท์ ว่าเชื่อมโยงไปถึงกลุ่มบุคคล ที่ร่วมกระทำความผิดอื่นอีกหรือไม่ ส่วนทรัพย์สินที่ยึดได้มอบหมายให้เป็นหน้าที่ของ ป.ป.ส. ใช้อำนาจดำเนินคดีฐานสมคบ และบังคับใช้กฎหมายการฟอกเงิน ดังนั้น คาดว่าจะเร่งสรุปสำนวนคดีเพื่อส่งให้พนักงานอัยการ ได้ในเร็ววันนี้
ขณะที่ในกลุ่มของผู้ต้องหาที่ถูกจับได้จำนวน 102 คน แบ่งเป็นการดำเนินคดี ได้ 3 กลุ่มคือ ความผิดฐานสมคบจำหน่ายยาเสพติด เฮโรอีน และยาบ้า, ความผิดฐาน นอมินี ถือครองทรัพย์สินแทนบุคคลต่างชาติ และความผิดที่เกี่ยวข้องกับการสวมบัตรประชาชน ส่วนความผิดของนายโทนี่ ตำรวจดำเนินคดี ฐานความผิดเป็นนอมินี ให้คนอื่นถือครองทรัพย์สินแทน ส่วนความผิดอื่นยังไม่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม
รอง ผบ.ตร. กล่าวถึงการขยายผลความเชื่อมโยงผู้ที่เกี่ยวข้องกับนายชัยณัฐร์กรณ์ ชายานันท์ หรือ ตู้ห่าวนั้น ตำรวจออกหมายเรียกเพิ่มเติม 3 คนคือ พัชรินทร์ ที่ยังหลบหนีในประเทศไทย, สุชาดา และ อดีตนายตำรวจระดับสารวัตรคนหนึ่ง ซึ่งทั้ง 3 คน ตำรวจมีข้อมูลว่าร่วมกันเป็นกรรมการบริษัทที่มีนายตู้ห่าว เป็นประธาน ดังนั้น หากสามารถควบคุมตัวทั้ง 3 คนได้เชื่อว่า จะพบทรัพย์สินที่เป็นเงินสดอีกจำนวนมาก เนื่องจากตำรวจตั้งข้อสังเกตว่าเงินสดที่ยึดได้จากนายตู้ห่าว มีเพียงแค่หลักแสนบาท จึงเป็นไปไม่ได้ที่นักธุรกิจระดับนี้ จะมีเงินสดอยู่ในบัญชีแค่ 100,000 บาท
ส่วนการรวบรวมพยานหลักฐานที่เก็บได้จากเครื่องบิน ในอำเภอบ่อฝ้าย จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ อยู่ระหว่างส่งให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ตรวจสอบเกี่ยวกับยาเสพติด DNA และรอยนิ้วมือแฝง เนื่องจากขณะตรวจค้น สุนัขที่มีความเชี่ยวชาญด้านการดมสารเสพติด มีพฤติกรรมที่แสดงออกชัดเจน
นอกจากนี้ พนักงานสอบสวนสอบปากคำกัปตัน ที่มีชื่อเป็นผู้ขับเครื่องบินดังกล่าวแล้ว โดยกัปตันให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เปิดเผยข้อมูลของบุคคลที่ใช้เครื่องบิน ซึ่งเป็นไปตามที่มีเอกสารหลักฐานยืนยันไว้ชัดเจนก่อนหน้านี้ แต่ในส่วนของรายละเอียดว่ามีการใช้สารเสพติดบนเครื่องบินหรือไม่ กัปตันไม่ได้ยืนยันในส่วนนี้.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เคาะแล้ว! ก.ตร. แต่งตั้ง รองผบ.ตร.-ผบช. 'สยาม บุญสม' ม้ามืดผงาดนครบาล
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ครั้งที่ 10/2567 โดยวาระสำคัญ คือวาระที่ 4 เรื่องที่ 4 การคัดเลือกแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ วาระประจำปี 2567 ระดับรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ถึงผู้บัญชาการ (ผบช.) เป็นการใช้ พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 เป็นครั้งแรก
มาแล้ว! ศาลปกครอง ร่อนเอกสารชี้แจงปม 'บิ๊กโจ๊ก' ยังไม่มีคำพิพากษาใดๆ
ศาลปกครอง เผยแพร่เอกสารชี้แจง กรณีที่มีสื่อมวลชนนำเสนอผลการพิจารณาคดีของศาลปกครองสูงสุด ในคดีที่พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล ยื่นฟ้องขอเพิกถอนคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ให้ผู้ฟ้องคดีออกจากราชการไว้ก่อน นั้น
กูรูใหญ่ปูดข่าว 'บิ๊กโจ๊ก' ให้การ ปปช. ยืนยันชั้น 14 'ป่วยทิพย์'
นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก
ลุ้นองค์คณะฯอ่านคำพิพากษา ดับฝัน 'โจ๊ก-แมว9ชีวิต' กลับตร.
เมื่อวันที่ 27 ส.ค. ที่ผ่านมา "บิ๊กโจ๊ก" - พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล ได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองสูงสุด เพื่อตรวจสอบความชอบธรรมของคำสั่งให้ออกจากราชการ ซึ่งคดีนี้เป็นประเด็นสำคัญที่ได้รับความสนใจ เนื่องจากเกี่ยวข้องกับการใช้อำนาจทางปกครองในระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ผบ.ตร. ไม่ขอก้าวล่วง ศาลปกครองสูงสุด ชี้ขาด 'บิ๊กโจ๊ก' ขอคุ้มครองชั่วคราว
พล.ต.อ.กิตติรัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยถึงกรณีที่ศาลปกครองยกคำร้องคุ้มครองชั่วคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนของ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล ว่า ตนขอให้ความเห็นแบบกว้าง ๆ
ศาลปกครองสูงสุด ปิดเงียบผลชี้ขาดคดีบิ๊กโจ๊ก สั่งเก็บหลักฐานฟันสื่อละเมิดอำนาจศาล
นายประสิทธิ์ศักดิ์ มีลาภ ประธานศาลปกครองสูงสุด เป็นประธานการประชุมใหญ่ตุลาการศาลปกครองสูงสุด