รอง ผบ.ตร. รับมอบตัว 2 ผู้ต้องหาปล้นฆ่าพ่อค้ารถหลุดจำนำที่ขอนแก่น หลังก่อเหตุหลบหนีข้ามฝั่งไปอยู่ลาว ถูกตำรวจลาวจับได้นำตัวส่งกลับ เผยเป็นความร่วมมืออันดีระหว่างสองประเทศ
30 พ.ย.2565 - ที่ด่านพรมแดนสะพานไทย-ลาว แห่งที่ 1 อ.เมืองหนองคาย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. , พล.ต.ต.ไพศาล ลือสมบูรณ์ รองผบช.ภ.4, พล.ต.ต.พรชัย ชะลอเดช ผบก.ภ.จ.หนองคาย, พล.ต.ต.นพเก้า โสมนัส ผบก.ภ.จ.ขอนแก่น ได้รับมอบตัวผู้ต้องหา 2 คน ประกอบด้วย นายพันธรัตน์ หาญสุริย์ หรือโก้ อายุ 18 ปี และนายจิราวุฒิ ทองสืบสาย หรือเบนซ์ อายุ 26 ปี ในคดีปล้นฆ่าพ่อค้ารถหลุดจำนำ จากพลจัตวาแก่นจัน พมมะจัก รองหัวหน้ากรมใหญ่ตำรวจ กระทรวงป้องกันความสงบ สปป.ลาว
โดยเมื่อวันที่ 9 ต.ค.65 เวลาประมาณ 05.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านเป็ด จ.ขอนแก่น ได้รับแจ้งเหตุพบศพนายพนม ทิพย์รัตนมงคล อายุ 40 ปี ถูกยิงบริเวณด้านหลังทะลุหน้าอก 1 แผล พบรอยกระสุนปืนบริเวณโคนอวัยวะเพศ 2 แผล มือซ้ายกำสร้อยคอรูปพรรณน้ำหนัก 1 บาท มือขวากำพระเลี่ยมทอง นอนเสียชีวิตบริเวณทางเข้าสนามบินขอนแก่น
หลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.ได้สั่งการให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร.ดำเนินการควบคุมการสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีโดยเร็ว
จากการสืบสวนของตำรวจ ทราบว่า นายพันธรัตน์ และนายจิราวุฒิ ได้ร่วมกับเพื่อนอีก 3 คนซึ่งถูกจับไปก่อนหน้านี้แล้ว เป็นผู้ก่อเหตุ เนื่องจากขัดแย้งกันเรื่องการซื้อขายรถกระบะหลุดจำนำ
โดยนายพนม ผู้ตาย เสนอขายรถกระบะหลุดจำนำให้นายพันธรัตน์ จะมีการโอนเงินค่ามัดจำก่อน 19,000 บาท แต่นายพันธรัตน์ อ้างว่าเงินไม่พอ จึงขอเลื่อนนัดส่งมอบรถในวันที่ 9 ต.ค.65 เมื่อถึงเวลานัด นายพันธรัตน์ มากับเพื่อน 5 คน ขับรถฮอนด้า สีขาว มา แล้วได้ลงไปพูดคุยกับนายพนม จากนั้นนายพันธรัตน์ ได้ชักอาวุธปืนออกมายิงนายพนม 3 นัด จนล้มลงเสียชีวิต แล้วนายพันธรัตน์ได้ขับรถกระบะที่นายพนมนำมาหลบหนีไป
โดยตำรวจติดตามจับกุมเพื่อนที่มาด้วยได้แล้ว 3 คน ส่วนนายพันธรัตน์และนายจิราวุฒิ ได้หลบหนีไปยังประเทศลาว จึงได้ประสานความร่วมมือทางการลาวติดตามจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองรายไว้ได้ และนำมาส่งมอบให้ตำรวจไทยในครั้งนี้
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. กล่าวว่า คดีนี้แสดงให้เห็นถึงความร่วมมืออันดีระหว่างสองประเทศไทย-ลาว ที่พร้อมจะให้ความร่วมมือกันในการปราบปรามคดีอาชญากรรม อาชญากรต่าง ๆ ที่หลบหนีไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ละเลยได้มีการติดตามจับกุมมาดำเนินคดีเพื่อสร้างความมั่นใจให้ประชาชน
ด้าน พลจัตวาแก่นจัน พมมะจัก รองหัวหน้ากรมใหญ่ตำรวจ กระทรวงป้องกันความสงบ สปป.ลาว กล่าวเพิ่มเติมว่า คดีอาชญากรรมที่ส่งผลและก่อให้เกิดปัญหาต่อการดำรงชีวิตของประชาชนทั้งไทยและลาว ดังนั้นต้องแก้ไขปัญหาเพื่อให้เกิดความสงบสุขแก่ประชาชน ความร่วมมืออันดีระหว่างไทยลาว เป็นไปด้วยดี จะไม่มีที่ให้อาชญากรได้หลบซ่อนนับแต่นี้ไป.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มาแล้ว! ศาลปกครอง ร่อนเอกสารชี้แจงปม 'บิ๊กโจ๊ก' ยังไม่มีคำพิพากษาใดๆ
ศาลปกครอง เผยแพร่เอกสารชี้แจง กรณีที่มีสื่อมวลชนนำเสนอผลการพิจารณาคดีของศาลปกครองสูงสุด ในคดีที่พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล ยื่นฟ้องขอเพิกถอนคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ให้ผู้ฟ้องคดีออกจากราชการไว้ก่อน นั้น
'การไฟฟ้าไทย-สปป.ลาว' แข่งกีฬามิตรภาพ บรรยากาศสุดชื่นมื่น
ชาวการไฟฟ้า 2 ชาติ "ไทย-ลาว" กฟผ และ ฟฟล. สุดชื่นมื่น หลังร่วมแข่งขันกีฬามิตรภาพ ประจำปี 2567 ซึ่งฝ่ายไทย เป็นเจ้าภาพ ที่ปากช่อง เมืองโคราช
กูรูใหญ่ปูดข่าว 'บิ๊กโจ๊ก' ให้การ ปปช. ยืนยันชั้น 14 'ป่วยทิพย์'
นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก
ลุ้นองค์คณะฯอ่านคำพิพากษา ดับฝัน 'โจ๊ก-แมว9ชีวิต' กลับตร.
เมื่อวันที่ 27 ส.ค. ที่ผ่านมา "บิ๊กโจ๊ก" - พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล ได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองสูงสุด เพื่อตรวจสอบความชอบธรรมของคำสั่งให้ออกจากราชการ ซึ่งคดีนี้เป็นประเด็นสำคัญที่ได้รับความสนใจ เนื่องจากเกี่ยวข้องกับการใช้อำนาจทางปกครองในระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ผบ.ตร. ไม่ขอก้าวล่วง ศาลปกครองสูงสุด ชี้ขาด 'บิ๊กโจ๊ก' ขอคุ้มครองชั่วคราว
พล.ต.อ.กิตติรัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยถึงกรณีที่ศาลปกครองยกคำร้องคุ้มครองชั่วคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนของ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล ว่า ตนขอให้ความเห็นแบบกว้าง ๆ
ศาลปกครองสูงสุด ปิดเงียบผลชี้ขาดคดีบิ๊กโจ๊ก สั่งเก็บหลักฐานฟันสื่อละเมิดอำนาจศาล
นายประสิทธิ์ศักดิ์ มีลาภ ประธานศาลปกครองสูงสุด เป็นประธานการประชุมใหญ่ตุลาการศาลปกครองสูงสุด