ผู้การตำรวจแพร่ ส่งชุดหน่วยสวาท ปิดฉากมือปืน คดี “รักสามเส้า” สังหารดับ 2 ศพ หนีซุกตัวในป่า ยิงต่อสู้ตำรวจ สุดท้ายถูก “วิสามัญ” ดับ
28 พ.ย.2565 – เมื่อช่วงเวลา 15.00 น.ของวันที่ 27 พ.ย.ที่ผ่านมา ที่พื้นที่ป่าห้วยแม่ขมิง หมู่ 2 ต.สรอย อ.วังชิ้น จ.แพร่ เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมมือปืนก่อเหตุยิง 2 ศพได้ในป่าห้วยแม่ขมิง โดยเบื้องต้น พล.ต.ต.ณัฐวุฒิ ภาคภูมิ ผบก.ภ.จว.แพร่ ได้รับแจ้งจาก พ.ต.ท.กัณฑ์สิทธิ์ คงต่อ สวป.สภ.หนองม่วงไข่ รรท.สว.สภ.สรอย อ.วังชิ้น จ.แพร่ ว่าเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ทราบข่าวว่า นายโพ บุญมาเลิศ อายุ 42 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีฆ่า 2 ผัวเมีย คือ นายกันยา (จุ้ม) อุดกันทา อายุ 42 ปี เพื่อนสนิทนายโพ และนางแพรวพรรณ (ดำ) ปันฟอง อายุ 27 ปี ซึ่งเป็นภรรยาของนายโพ เช่นกัน เหตุเกิดเมื่อเวลา 18.45 น. วันที่ 19 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา ที่บ้านเลขที่ 83 บ้านแม่ขมิง หมู่ที่ 2 ต.สรอย อ.วังชิ้น จ.แพร่ สภ.สรอย อ.วังชิ้น จ.แพร่ หลังก่อเหตุนายโพ อาศัยความชำนาญหลบหนีเข้าไปอยู่ในป่าห้วยแม่ขมิง
ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการสืบจนทราบว่านายโพ ยังอยู่ในพื้นที่และเข้ามาในหมู่บ้าน เพื่อนำเสบียงกลับเข้าไปในป่า จึงได้ส่งชุดหน่วยสวาท ภ.จว.แพร่ เข้าพื้นที่ติดตามไล่ล่ามือปืนอย่างต่อเนื่อง โดยสืบข่าวจากพื้นที่ จนทราบช่วงเวลาที่นายโพ จะออกมาหาเสบียง โดยออกจากป่าเข้ามาในหมู่บ้านและจะนำเสบียงอาหารกลับเข้าไปในป่า ยังไม่ได้หนีไปไหน จึงได้ให้เจ้าหน้าที่ดักซุ่มอยู่หลายวัน
กระทั่งนายโพ ออกจากป่า และเข้าไปในหมู่บ้าน เพื่อนำเสบียงเข้าไปตุนใช้ชีวิตอยู่ในป่า พบว่านายโพ แบกอาวุธปืนเดินกลับเข้าไปในป่า เจ้าหน้าที่จึงได้ส่งเสียงตะโกนเพื่อให้นายโพ มอบตัว แต่นายโพไม่ยอมมอบตัว ตอบกลับว่า “ขอสู้ตาย” จึงได้ยิงสวนไปยังเจ้าหน้าที่ที่ดักซุ่มอยู่ จำนวน 1 นัด เจ้าหน้าที่จึงยิงสวนกลับไป จนเสียงปืนสงบลง ไม่มีการยิงตอบโต้กลับมาเจ้าหน้าที่จึงได้เข้าเคลียร์พื้นที่ พบว่านายโพ วิ่งหลบไปที่ลำห้วย และ นอนเสียชีวิตอยู่ข้างลำห้วยแม่ขมิง ซึ่งเป็นป่าทึบ ข้างศพพบอาวุธปืนลูกซองยาวติดสายสะพาย และสายกระสุนปืนลูกซอง ที่ได้เตรียมเอาไว้ยังไม่ได้ยิง อีกจำนวน 5 นัด สวมกางเกงลายพรางทหาร เสื้อยืดสีดำ ถูกยิงบริเวณลำตัว ประมาณ 3 นัด
จากนั้นจึงได้รายการให้ พล.ต.ต.ณัฐวุฒิ ภาคภูมิ ผบก.ภ.จว.แพร่ รับทราบ พร้อมประสานไปยัง อัยการจังหวัดแพร่ พิสูจน์หลักฐานจังหวัดแพร่ และ แพทย์จากโรงพยาบาลวังชิ้น พร้อมหน่วยกู้ชีพ กู้ภัย อบต.สรอย เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่รู้สึกโล่งใจที่สามารถจัดการกับผู้ต้องหารายนี้ได้ เนื่องจากนายโพ ประกาศอาฆาตกับชาวบ้านว่าจะยิงทุกคนที่ให้ความช่วยเหลือ และให้เจ้าหน้าที่เข้าไปเผาห้างนาที่พักของตนเอง
ด้านพนักงานสอบสวน สภ.สรวย ได้ถ่ายภาพและบันทึกการตรวจที่เกิดเหตุรับเป็นคดีชันสูตร ช.11/2565 ,คดีอาญา ที่ 99/2565 กล่าวหานายโพฯ “พยายามฆ่า และ ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานฯ และพกพาอาวุธปืนฯ” และ คดีอาญาที่ 100/2565,อุกฉกรรจ์ที่ 3/2565 กล่าวหา ด.ต.เทิดศักดิ์ฯ “ฆ่าผู้อื่น-โดยอ้างเป็นการกระทำตามหน้าที่ อันเป็นการป้องกันและมีภยันตรายใกล้ถึงตัว”(วิสามัญ).
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ชาวเน็ตเสียงแตก ตำรวจยิงชายคลั่งในโรงพยาบาลเสียชีวิต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 4 ม.ค. 68 ที่ผ่านมา พล.ต.ตสุคนธ์ ศรีอรุณ (ผู้บังคับการตรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์) พร้อม นายแพทย์ ชวมัย สืบนุการณ์ (ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสุรินทร์) อาคาร ชั้น2 สถานีตำรวจภูธรเมืองสุรินทร์ได้มีการแถลงข่าว จากกรณีข่าวดัง “เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไประงับเหตุผู้ป่วยผ่าตัดไส้ติ่งคุ้มคลั่ง”
ไลน์ 'สว.' เดือด! เสียงแตกหั่น กมธ. 26 คณะ หวั่นภาพแจกเก้าอี้
ไลน์กลุ่มสว. 200 คน ระอุ! ถกไม่ลงตัว ลด-ไม่ลด กมธ.สามัญ วุฒิสภาฯ เผยศุกร์นี้ปิดดีลไม่จบ ใช้ของเดิม 26 คณะไปก่อน แต่หวั่นเกิดภาพไม่ดี หวังแบ่งเก้าอี้
วิสามัญ 2 ศพ แก๊งขนยานรกดับคาป่าชายแดน ยึดยาบ้าครึ่งล้านเม็ด
พ.อ.กิดากร จันทรา รอง ผบ.กกล.ผาเมืองเผยว่า ได้ลงพื้นที่ติดตามเหตุหลังจากทหาร ฉก.ไชยานุภาพ กองกำลังผาเมือง ลาดตระเวนเจอคาราวานขนยาเสพติดแบกเป้เลาะป่าแนวชายแดน พอส่งสัญญาณขอตรวจค้นกลับยิงใส่ จนท. สุดท้ายถูกยิงเสียชีวิตคาป่า
‘บิ๊กก้อง’ เชื่อ ’เสี่ยแป้ง’ กบดานในป่า บอกถ้ามอบตัวจะไม่มีการวิสามัญ
ความคืบหน้าตามล่าตัวนายเชาวลิต ทองด้วง หรือ แป้งนาโหนด ที่หนีกบดานอยู่บนเทือกเขาบรรทัด อ.ตะโหมด จ.พัทลุง กว่า 5 วัน
ตำรวจยังปิดล้อมล่าตัว 'เสี่ยแป้ง นาโหนด' รอดตายเพราะหมา
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย เจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษหนุมาน และ กก.6 กองปราบปราม ร่วมกับ ตำรวจภูธร ภาค 8, ตำรวจภูธร ภาค 9 และ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ฯ ร่วมสนับสนุนปฏิบัติการไล่ล่าจับกุม
ตำรวจวิสามัญ 'เสี่ยแป้ง นาโหนด' หลังปิดล้อมยิงต่อสู้
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้วิสามัญ นายเชาวลิต ทองด้วง หรือ แป้ง นาโหนด อายุ 37 ปี นักโทษชายที่หนีออกจากการควบคุมตัว โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช เสียชีวิตบนเขาบรรทัด