22 พ.ย.2565- ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ อดีตเจ้าพ่ออาบอบนวด เดินทางมาพร้อมกับ นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ เพื่อยื่นฟ้อง นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล ในข้อหาแจ้งความเท็จ อันเกี่ยวกับความผิดทางอาญาที่มิได้มีการกระทำความผิดเกิดขึ้น , สร้างพยานหลักฐานเท็จ และหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา นอกจากนี้ยังฟ้องเป็นคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา เรียกร้องค่าเสียหายเป็นเงิน 100 ล้านบาท
จากกรณีที่นายสันธนะ กล่าวหาว่าที่โรงแรมเดอะเดวิส คอนเนอร์วิงค์ ซอยสุขุมวิท 24 แขวงคลองตัน เขตคลองเตยของบุตรชายนายชูวิทย์ เป็นแหล่งมั่วสุมเสพยาเสพติดของนักเที่ยว มีการสร้างพยานหลักฐานเท็จโดยการแอบถ่ายและนำคลิปวิดีโอไปแจ้งความกับตำรวจ สน.ทองหล่อ ซึ่งพยานหลักฐานดังกล่าวยังไม่มีความชัดเจน ส่งผลให้ชื่อเสียงของโรงแรมและนายชูวิทย์เสื่อมเสีย วันนี้ถึงมายื่นฟ้องนายสันธนะ โดยมี บริษัท ต้นตระกูล จำกัด เป็นโจทก์ที่ 1 และมีนายชูวิทย์ เป็นโจทก์ที่ 2
นายอนันตชัย ไชยเดช กล่าวว่า ตนได้ติดตามคดีนี้มาสักระยะหนึ่ง ในช่วง ก.ค.65 นายชูวิทย์ได้ตีแผ่ เกี่ยวกับคนจีนสีเทายาเสพติดสิ่งผิดกฎหมายการพนันจนกระทั่งเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา ต่อมามีชาวจีนคนหนึ่งเสพยาเสพติดเสียชีวิต จนกลายเป็นข่าวโด่งดัง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.จึงได้เข้ามากำกับดูแล ทำให้นายชูวิทย์จึงออกมาตีแผ่อย่างต่อเนื่อง ดังนั้นคู่กรณีจึงไม่ใช่นายสันธนะ แต่เมื่อวันที่ 4 พ.ย. ที่ผ่านมา นายสันธนะได้ไปประกันตัวนายเดวิดที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ต่อมาวันที่ 5พ.ย. ได้มีการไปแจ้งความที่ สน. ทองหล่อ มีกันนำภาพวีดีโอ และกล่าวว่ากล่าวอ้างว่าน่าจะมีการมั่วสุมยาเสพติด และมีการเปิดสถานบันเทิงเกินเวลาจนเป็นผลให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทองหล่อเข้ามาตรวจค้น แต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย นายสันธนะก็ยังจะกล่าวใส่ร้ายโรงแรมของนายชูวิทย์ ตามไปก่อกวน การให้ข้อมูลกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ซึ่งมันไม่เหมาะสม อย่างไรก็ตามการทำคลิปวีดีโอว่ามีการมั่วสุมเสพยาเสพติดในโรงแรมของนายชูวิทย์ ซึ่งหากสถานบันเทิงหรือสถานบริการใดมีการปล่อยให้เสพยาเสพติดมีโทษสูงสุดถึงจำคุก 5 ปี และเลขาธิการ ป.ป.ส. สามารถปิดสถานบันเทิงและเพิกถอนใบอนุญาตได้ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติด ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ร้ายแรงมาก ดังนั้นวันนี้นายชูวิทย์ได้รับมอบอำนาจจาก บ.ต้นตระกูลจำกัดเป็นโจทย์ที่ 1 และนายชูวิทย์เป็นโจทก์ที่ 2 มาฟ้องร้องดำเนินคดีกับนายสันธนะเป็นจำเลยข้อหาแจ้งข้อความอันเป็นเท็จให้ผู้อื่นได้โทษทางอาญา ทั้งที่ไม่มีการกระทำผิดเกิดขึ้น หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา และสร้างพยานหลักฐานอันเป็นเท็จ ทั้งนี้เป็นคดีอาญาเกี่ยวเนื่องคดีแพ่ง เรียกค่าเสียหาย 100 ล้านบาท
ด้านนายชูวิทย์ เปิดเผยว่า ในชีวิตตนนั้นไม่เคยเป็นโจทก์ฟ้องคดีใคร ตนเป็นจำเลยทุกคดีเพราะตนคิดว่าตนถูกกลั่นแกล้งถูกกระทำมาตลอดแต่ก็เป็นเรื่องในอดีตที่ผ่านไปสิ่งที่ตนพูดสาระสำคัญอยู่ที่มาเฟียจีนสีเทาที่กำลังกัดกินประเทศนี้จู่ๆนายสันธนะอดีตตำรวจที่ถูกไล่ออกจากราชการ ก็มาที่โรงแรมของตนมาป้ายสีและไปแจ้งความ จนกระทั่งเมื่อ 2-3 วันนี้ก็มาพูดอีกในเรื่องของสถานอาบอบนวด ซึ่งตนต้องบอกว่าตนได้ขายทั้ง 6 แห่งไปตั้งแต่ 2546 -2547 เพราะตอนนั้นตนดำรงตำแหน่งทางการเมืองเป็น ส.ส. พรรคชาติไทย อีกทั้งนายสันธนะยังได้กล่าวถึงการจ่ายภาษี 4 พันล้านแต่นายสันธนะไม่รู้เรื่อง เพราะสถานอาบอบนวดของตน ไม่มีที่ดินที่ตนเป็นเจ้าของ เพราะตนเช่าเอา ดังนั้นมูลค่าจริงๆจึงไม่มีเพราะตนใช้วิธีการโอนหุ้น ซึ่งตนก็ไม่อยากตอบโต้ต้นก็สู้มาตลอดสู้ทางสื่อสู้ทั้งข้างถนนสู้ไปทุกรูปแบบ แต่นายสันธนะไม่สู้เวลาพูดก็ทำท่ามีกระเป๋ามีเอกสารมีข้อมูลโยงไปว่าตนมีรูปถ่าย ว่ารู้จักตน แต่นายสันธนะมีรูปถ่ายตอนกินข้าวกับตนไหม ตอนนั้นตนเป็นส.ส กรรมาธิการตำรวจ นายสันธนะ ก็มาหามาฟ้องเรื่องบ่อน อย่างนายสันทนะ ให้มาเจอที่ศาลดีกว่า มาสู้โดยวิธีการของกฎหมาย
หลังผ่านกระบวนการยื่นฟ้อง ศาลพิจารณาแล้วรับไว้เป็นคคีหมายเลขดำ อ.2892/2566 นัดไต่สวนมูลฟ้อง วันที่ 6 ก.พ. 2566 เวลา 13.30 น.
ต่อมา นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล ได้เดินทางไปที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก หลังทราบว่านายชูวิทย์ได้เดินทางมาฟ้องคดีอาญาเเละเรียกค่าเสียหาย 100 ล้านนายสันธนะกล่าวว่าวันนี้จะมาขอสำเนาคำฟ้องจากศาลเพื่อเป็นข้อมูลในการต่อสู้คดี ซึ่งตนยืนยันว่าคลิปในโรงแรมเดวิส คอนเนอร์วิงค์ ของลูกชายนายชูวิทย์ เป็นคลิปเหตุการณ์จริง ไม่ได้ตัดต่อหรือสร้างสถานการณ์แต่อย่างใด อีกทั้งยังเก็บคลิปบางส่วนไว้กับตนเอง ไม่ได้มอบให้พนักงานสอบสวนทั้งหมด เพราะไม่เชื่อมั่นในพนักงานสอบสวน ซึ่งตนก็พร้อมสู้คดี เพราะมั่นใจว่าพยานหลักฐาน
นายสันธนะ ยังกล่าวถึง นายอนันต์ชัย ทนายความของนายชูวิทย์ด้วยว่า ที่ก่อนหน้านี้นายอนันต์ชัยเคยไปออกรายการโทรทัศน์รายการหนึ่งและพูดจาด้วยถ้อยคำลักษณะข่มขู่ตนเอง ซึ่งการกระทำดังกล่าวถือว่าผิดจรรยาบรรณทนายความหรือไม่ อยากให้ทบทวนตัวเองด้วย
ซึ่งในวันพรุ่งนี้ที่นายชูวิทย์จะเดินทางที่ไปรัฐสภา ยืนยันว่าตนจะไปรอพบนายชูวิทย์ที่รัฐสภาด้วยเช่นกัน
สำหรับคดีที่นายชูวิทย์ฟ้องนายสันธนะครั้งนี้ ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 6 ก.พ. 2566 เวลา 13.30 น.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ก้าวไกลแพ้! ศาลยกฟ้อง 'ณฐพร โตประยูร' แจ้งเท็จ-หมิ่น ล้มล้างการปกครอง
ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดำ อ.308/2564 ที่พรรคก้าวไกล เป็นโจทก์ฟ้องนายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดินเป็นจำเลยในความผิดฐานแจ้งความเท็จ,หมิ่นประมาทฯพร้อมเรียกค่าเสียหาย 20,062,475บาท
ด่วน! ศาลอาญาพิพากษาประหาร 'แอม ไซยาไนด์'
ด่วน! ศาลอาญาประหาร ‘แอม ไซยาไนด์’วางยาฆ่าก้อย ส่วนอดีตสามีนายตำรวจ และทนายพัช ใส่สารไซยาไนด์โดนคุก2 ปี
ชาวบ้านเกาะเต่า ร้องผู้ตรวจฯ ชงศาลปค. เพิกถอนกฎกระทรวงห้ามออกโฉนดบนเกาะ
นายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม พร้อมด้วยชาวบ้านเกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี เข้ายื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดินขอให้ตรวจสอบและมีความเห็นเสนอต่
ปิดตำนาน คดีโฉนดถุงกล้วยแขกวัดสวนแก้ว 'ทนายกองทัพธรรม' ช่วยเคลียร์จบด้วยดี
พระราชธรรมนิเทศ พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว พร้อมด้วย ทนายอนันตชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม ได้แถลงข่าวปิดคดีข้อพิพาทที่ดินถุงกล้วยแขกของวัดสวนแก้ว
'ใหม่ ดาวิกา' ไม่ทน! จ่อฟ้องเกรียนคีย์บอร์ด
จากกระแสดราม่า #แบนแม่หยัว เพราะในละครมีฉากที่น้องแมวดำถูกวางยา ซึ่งคนรักสัตว์ต่างรับไม่ได้ จนลุกลามไปยังนักแสดงนำอย่าง ใหม่-ดาวิกา โฮร์เน่ ที่มีชาวเน็ตบางส่วนได้เข้ามาต่อว่าเธอด้วยด้วยคำรุนแรง ล่าสุดเจ้าตัวได้ออกมาเคลื่อนไหว ด้วยการโพสต์ข้อความผ่านทาง แอพพิเคชั่นX เตรียมฟ้องคนด่าแรง ลั่นจะนำเงินที่ได้มาช่วยเหลือสัตว์ พร้อมฝากแฟนคลับช่วยกันแคปหลักฐาน
‘กัญจนา' ไม่ทน จ่อฟ้องเกรียนคีย์บอร์ด หมิ่นประมาท เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง
กัญจนา ลั่นฟ้องเกรียนคีย์บอร์ด เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างของพฤติกรรมที่ไม่ดีในสังคม