ปปส. ตรวจยึดปลอกหมอน ชุบยาไอซ์ 14 กก. ปลายทางออสเตรเลีย รู้ตัวผู้ส่ง-รับแล้ว

4 พ.ย.2565 - นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด เปิดเผยถึงการตรวจยึด ไอซ์ 13.94 กิโลกรัม ที่อาคารคลังสินค้า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระบุชื่อผู้รับปลายทางประเทศออสเตรเลีย ซึ่งเป็นการปฏิบัติการของหน่วย (Airport Interdiction Task Force : AITF) หรือ หน่วยสกัดกั้นยาเสพติดทางท่าอากาศยานนานาชาติ ที่เป็นการผนึกกำลังของ สำนักงาน ป.ป.ส. กรมศุลกากร กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ศูนย์รักษาความปลอดภัย กองบัญชาการกองทัพไทย ร่วมกันตรวจสอบการลักลอบกระทำผิดทางยาเสพติด ณ ท่าอากาศยาน

นายวิชัย กล่าวว่า สืบเนื่องจาก หน่วย AITF มีการสืบทราบข้อมูลการเตรียมส่งยาเสพติดไปยังออสเตรเลียของขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ โดยจะส่งผ่านทางการส่งพัสดุภัณฑ์ ที่อาคารคลังสินค้า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จากการประเมินความเสี่ยงจากเส้นทาง (Route Cause Analysis) ที่วิเคราะห์เส้นทางของพัสดุจากต้นทาง-ปลายทาง รวมถึงประเมินความผิดปกติจากพัสดุที่สำแดง จึงพบกล่องพัสดุต้องสงสัยจำนวน 2 กล่อง ภายในเป็นปลอกหมอน 11 ใบ เจ้าหน้าที่ตรวจพบความผิดปกติจากน้ำหนักและความแข็งที่ต่างจากปลอกหมอนทั่วไป หลังการตรวจสอบพบว่าปลอกหมอนทั้งหมดถูกชุบด้วย ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) กล่องที่ 1 ไอซ์ซุกซ่อนอยู่ในปลอกหมอนชั้นใน จำนวน 6 ใบ น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้มทั้งหมดประมาณ 6.8 กิโลกรัม กล่องที่ 2 ไอซ์ ซุกซ่อนอยู่ในปลอกหมอนชั้นใน จำนวน 5 ใบ น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้มทั้งหมดประมาน 7.14 กิโลกรัม รวมน้ำหนักและสิ่งห่อหุ้มทั้งหมด 13.94 กิโลกรัม

นายวิชัย กล่าวอีกว่า​ ตนได้ย้ำให้มีการขยายผลการส่งยาเสพติดผ่านพัสดุทุกคดี โดยการขนส่งยาเสพติดผ่านพัสดุ เป็นรูปแบบที่องค์การค้ายาเสพติดทั่วโลกใช้เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกจับกุม และประหยัดค่าขนส่ง จากคดีนี้เราได้ทราบถึงผู้ส่ง-ผู้รับแล้ว ซึ่งสำนักงาน ป.ป.ส. ได้ประสานงานกับตำรวจสหพันธรัฐออสเตรเลีย (Australian Federal Police : AFP) เพื่อสืบสวนขยายตัวถึงตัวการผู้เกี่ยวข้องต่อไป

เลขาฯ ป.ป.ส. กล่าวว่า การขนส่งยาเสพติดข้ามประเทศในปัจจุบันนอกจากบริเวณชายแดนมีจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญ คือการขนส่งผ่านพัสดุ ที่ท่าอากาศยาน และ การขนส่งผ่านพัสดุทางเรือ รัฐบาลจึงได้ตั้งหน่วยสกัดกั้นยาเสพติด (AITF). ณ ท่าอากาศยานนานาชาติ) และหน่วยปราบปรามและสกัดกั้นยาเสพติดในพื้นที่ท่าเรือ (SITF)​โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 โครงการ AITF และ SITF มีผลสกัดกั้นยาเสพติดซุกซ่อนในพัสดุระหว่างประเทศก่อนถูกลักลอบส่งไปยังประเทศออสเตรเลีย จำนวน 22 คดี เป็นการตรวจยึด 20 คดี และจับกุม 2 คดี ผู้ต้องหา 2 คน เป็นชาวไทย และ ชาวสิงคโปร์ ของกลางรวมไอซ์ 344.61กิโลกรัม เฮโรอีน 76.8 กิโลกรัม​ ส่วนใหญ่ซุกซ่อนไปกับเครื่องใช้ภายในบ้าน เครื่องแต่งกาย และอาหารเครื่องดื่มกึ่งสำเร็จรูป

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'เศรษฐา' ต่อสายหารือนายกฯลาว ยืนยันร่วมมือแก้ปัญหายาเสพติดแนวชายแดน

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้หารือทางโทรศัพท์กับ นายสอนไซ สีพันดอน (H.E. Sonexay Siphandone) นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างกัน

ระดมกำลังทุกหน่วย ปูพรมตรวจค้น 183 จุด กวาดล้างอิทธิพล ยึดของกลางอื้อ

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. สั่งการ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธ์ุเพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. ,พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ระดมกำลังตำรวจสอบสวนกลาง ,กองบัญชาการตำรวจนครบาล ,

นายกฯ ย้ำ 'ร้อยเอ็ดโมเดล' จังหวัดสีขาว กวาดล้างยาเสพติดเกลี้ยงในเดือนก.ย.

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร)

'เศรษฐา' ดูต้นแบบแก้ยาเสพติด ตั้งเป้า 'น่าน' เป็นจังหวัดสีขาว คืนผู้เสพกลับสู่ครอบครัว

นายเศรษฐา​ ทวี​สิน​ นายก​รัฐมนตรี​ ศึกษาต้นแบบการบูรณาการจัดการปัญหายาเสพติดในพื้นที่ โดยนายกฯรับฟังการบรรยายสรุปจากเจ้าหน้าที่ และได้เข้าให้กำลังใจผู้เข้าบำบัดยาเสพติดที่วัดสุทธาราม

นายกฯ ประชุมออนไลน์ ติดตามผลกวาดล้างยาเสพติด ตกใจพบอาวุธหนักเพียบ

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ร่วมประชุมรับฟังการรายงานผลการระดมปิดล้อมตรวจค้นเครือข่ายยาเสพติดทั่วประเทศ ผ่านระบบทางไกล (Zoom Meeting) โดยมี พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ